การปฏิรูปการปกครองในสมัยอยุธยา ในช่วงต้นสมัยอยุธยาได้มีการปฏิรูปครั้งสำคัญ คือ การปฏิรูปการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดินในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถเป็นรูปแบบการบริหารราชการแผ่นดินที่ใช้มานาน 400 ปี จนถึงสมัยรัชกาลที่5สาเหตุของการปฏิรูปการปกครอง
1.เนื่องจากเป็นช่วงที่กรุงศรีอยุธยาขยายดินแดนออกไปกว้างขวางจากการรวมอาณาจักรสุโขทัยเข้าด้วยกันเป็นอาณาจักรเดียว
2.มีประชากรเพิ่มมากขึ้น3.การเมืองการปกครองมีความดูแลที่ซับซ้อนสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงทรงปฏิรูปการปกครองซึ่งสรุปได้ดังนี้1.การปกครองส่วนกลาง
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงดึงอำนาจมาไว้ในส่วนกลาง คือ กรุงศรีอยุธยา ทรงตราพระไอยการตำแหน่ง นาทหาร และ นาพลเรือน แบ่งฝ่ายบริหารออกเป็นฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร โดยฝ่ายพลเรือนมีสมุหนายกเป็นหัวหน้ารับผิดชอบ รวมทั้งควบคุมดูแลจตุสดมภ์ ซึ่งจตุสดมภ์ยังคงมีอำนาจหน้าที่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนชื่อให้แตกต่างจากเดิม
การปกครองแบบจตุสดมภ์ ในสมัยพระเจ้าอู่ทองได้ปรับปรุงระบอบการปกครองในส่วนกลางเสียใหม่เป็นแบบจตุสดมภ์ตามแบบอย่างของขอมโดยมีกษัตริย์เป็นผู้อำนวยการปกครอง การปกครองประกอบด้วยเสนาบดี 4 คนคือ ขุนเมือง ขุนวัง ขุนคลัง ขุนนา พร้อมทั้งได้ตรากฎหมายลักษณะอาญาหลวงและกฏหมายลักษณะอาญาราษฎร เพื่อเป็นบรรทัดฐานในด้านยุติธรรม การบังคับบัญชาในส่วนกลางแบ่งออกเป็น ขุนเมือง(ขุนเวียง)ตระเวนซ้าย ขวา และขุนแขวง อำเภอ กำนันในกรุงบังคับศาลพิจารณาความฉกรรจ์มหันตโทษ ซึ่งแบ่งเป็นแผนกว่าความนครบาลและคุมไพร่หลวงมหันตโทษ ทำหน้าที่ตะพุ่นหญ้าช้าง ขุนวัง ทำหน้าที่รักษาพระราชมนเฑียร และพระราชวังชั้นนอกชั้นในเป็น พนักงานจัดการพระราชพิธีทั้งปวงทั่วไป และบังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายหน้า บรรดาข้าราชการ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ในพระบรมมหาราชวังชั้นในและข้าราชการฝ่ายในทั่วไปมีอำนาจที่จะตั้งศาลชำระความซึ่งเกี่ยวข้องได้ ราชการในกรมวังนี้มีความละเอียดกว่าราชการในกรมเมืองต้องรู้วิธีปฏิบัติราชการ มีความจดจำดีมีความขยันหมั่นเพียรและต้องใช้ความรู้ความสามารถ ขุนคลัง ทำหน้าที่ในการบังคับบัญชาในเรื่องเกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งจะเข้าในพระคลังและที่จะจ่ายราชการบังคับจัดการภาษีอากรขนอนตลาดทั้งปวงและบังคับศาลซึ่งชำระความเกี่ยวข้องด้วยพระราชทรัพย์ของหลวงทั้งปวง ขุนนา มีหน้าที่ดูแลรักษานาหลวงเก็บค่าเช่าจากราษฎร เป็นพนักงานจัดซื้อข้าวขึ้นฉางหลวง เป็นพนักงานทำนาตัวอย่าง ชักจูงราษฎรให้ลงมือทำนาด้วยตนเองเป็นผู้ทำนุบำรุงชาวนาทั้งปวงไม่ให้เสียเวลาทำนา นอกจากนั้นยังมีอำนาจที่จะตั้งศาลพิพากษา ความที่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องนาและโคกระบือ ฝ่ายทหารมีสมุหพระกลาโหมเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายทหาร
2.การปกครองส่วนภูมิภาค
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเห็นว่าการจัดระเบียบการปกครองหัวเมืองที่ใช้กันมาแต่เดิมไม่อาจควบคุมหัวเมืองที่อยู่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทรงปรับปรุงการปกครองหัวเมืองให้เป็นระเบียบแบบแผนมากขึ้น โดยรวมอำนาจการปกครองไว้ที่ส่วนกลาง ยกเลิกเมืองลูกหลวงกรือเมืองหน้าด่านที่ตั้งอยู่ 4 ทิศ และจัดใหม่เป็น หัวเมืองชั้นใน หัวเมืองชั้นนอก(เมืองพระยามหานคร)ละหัวเมืองประเทศราช
นอกจากนี้ยังทรงจักระบบศักดินา สังคมศักดินา หมายถึง ระบบสังคมที่มีการแบ่งชนชั้น ซึ่งกำหนดสิทธิหน้าที่และฐานะของแต่ละบุคคลในสังคม จุดประสงค์ก็เพื่อควบคุมกำลังคนและแบ่งฐานะของบุคคลเป็นสำคัญ ผู้ควบคุมกำลังคนสูงสุด คือ พระมหากษัตริย์ รองลงมาได้แก่ ขุนนาง (ข้าราชการ) และผู้ถูกควบคุมคือ สามัญชนหรือไพร่ ระบบศักดินาได้รับการจัดระเบียบในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ โดยมีการตราพระราชกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับศักดินาขึ้นใน พ.ศ. 1998 เรียกว่า “ พระไอยการตำแหน่งนายพลและนายทหารหัวเมือง“ สังคมไทยในอดีตมีการจัดระเบียบของคนในสังคมออกเป็น 2 ชนชั้นใหญ่ ๆ คือ ชนชั้นปกครองและชนชั้นใต้ปกครอง โดยมีศักดินาเป็นตัวกำหนดหน้าที่ในแต่ละชนชั้น
ชนชั้นปกครอง ได้แก่
1.เจ้านาย2.ขุนนางชนชั้นใต้ปกครอง ได้แก่ 1.ไพร่2.ทาส ผลของการปฏิรูปนี้ทำให้อาณาจักรอยุธยามีความมั่นคง การบริหารราชการแผ่นดินมีระบบระเบียบ การควบคุมประชากรที่เป็นกำลังสำคัญด้านแรงงานและกำลังทหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น