งานชิ้นที่ 2
ส่วนประกอบเเละการทำงานของคอมพิวเตอร์
ส่วนประกอบ
CASE
เคสหรือตัวถัง หลายคนจะเรียกว่าซีพียูเนื่องจากเข้าใจผิด สำหรับเคสนั้นเป็นเพียงวัสดุที่ทำเพื่อให้เราสามารถติดตั้ง อุปกรณ์ต่างๆ ประกอบกันได้เป็นระเบียบ แล้วก็ช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ด้วย ภายในเคสก็จะมีพื้นที่สำหรับติดตั้งเมนบอร์ด ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ ติดตั้งซีดีรอม มีพัดลมระบายความร้อน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Power Supply ซึ่งจะมีติดอยู่ในเคสเรียบร้อย เคสคอมพิวเตอร์ควรเลือกที่รูปทรงสูงๆ เพื่อจะได้ติดตั้งอุปกรณ์ได้ง่าย และควรเลือกเคสที่มีช่องสำหรับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์ เผื่อเอาไว้หลายๆ ช่อง ในกรณีที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมในภายหลังจะได้ง่ายขึ้น
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/case.htm
Power Supply
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นจะไร้ค่าทันที ถ้าหากไม่มีกระแสไฟฟ้า พาวเวอร์ซัพพลายจะทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้ หากเครื่องคอมพิวเตอร์คุณมีอุปกรณ์ต่อพ่วงเยอะ เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอมไดรฟ์ ดีวีดีไดรฟ์ก็ควรเลือกพาวเวอร์ซัพพลายที่มีจำนวนวัตต์สูง เช่น 450 วัตต์ เพื่อให้สามารถ จ่ายกระแสไฟได้เพียงพอ
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/power_supply.htm
Heatsink + FAN
ชุดพัดลมและฮีตซิงก์ระบายความร้อน จะใช้ติดตั้งบนตัวซีพียู เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากซีพียู โดยพัดลม กับฮีตซิงค์นั้นจะมีขายให้พร้อมกับซีพียู หรือจะซื้อแยกต่างหากก็ได้ การเลือกซื้อควรดูซีพียูที่คุณใช้ว่าเป็นซีพียู รุ่นไหน ความเร็วเท่าไหร่ เพื่อที่จะเลือกพัดลมให้เหมาะสม โดยพัดลมจะมีความเร็วในการหมุน หากมีความเร็วรอบสูงๆ จะช่วยให้การระบายความร้อนทำได้ดี แต่ก็ทำให้เกิดเสียงดังรบกวน
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/heatsink.htm
Microprocessor / CPU (Central Processing Unit)
ไมโครโพรเซสเซอร์หรือที่เรียกกันติดปากว่าซีพียู ซึ่งเปรียบเสมือนกับเครื่องยนตร์ของรถยนตร์นั่นเอง ซีพียูที่ใช้ในเครื่อง คอมพิวเตอร์มีหลายรุ่นหลายยี่ห้อด้วยกัน เช่น AMD, Intel, PowerPC, Sparc, Cyrik แม้จะมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ แต่การทำงานนั้นเหมือนกัน คือซีพียูจะทำหน้าที่ในการคำนวณ การสั่งการงานชิ้นส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ประสิทธิภาพของซีพียูจะใช้ความเร็วของสัญญาณนาฬิกา (Clock Speed) เป็นตัวบ่งบอก เช่น Pentium 4 1.6 กิกะเฮิร์ต Pentium 4 3.0 กิกะเฮิร์ต ซีพียูยิ่งมีสัญญาณนาฬิกาสูงการทำงานก็จะเร็วขึ้น ซีพียูที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือซีพียูจากบริษัท Intel ซึ่งมีซีพียูตระกูล Pentium กับ Celeron และซีพียูจากบริษัท AMD ในตระกูล AMD Athlon XP, AMD Duron โดยที่ซีพียูจากสองบริษัทก็จะมีหลายรุ่น และแบ่งแยกออกไปเป็น ซีพียูสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (Mobile CPU) ซีพียูสำหรับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เป็นต้น
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/cpu.htm
RAM (Random Access Memory)
หน่วยความจำแรม หน่วยความจำชนิดนี้จะบันทึกและอ่านข้อมูลด้วยกระแสไฟฟ้า แล้วต้องมีกระแสไฟจ่ายให้ตลอดเวลา ถ้าปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่อยู่ในแรมก็จะหายไปด้วย แรมจะถูกนำมาใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่างซีพียูกับฮาร์ดดิสก์ หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดอื่น หากมีข้อมูลที่ซีพียูจำเป็นต้องใช้งานบ่อยๆ ข้อมูลจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่แรมก่อน เพื่อให้ซีพียูเอาข้อมูลมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแรมรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์นั่นเอง แรมยังมีหลายประเภทด้วยกัน เช่น DRAM, DDRRAM, SDRAM, RDRAM, FlashRAM, VRAM เป็นต้น การเลือกซื้อแรมนั้นต้องดูว่าเมนบอร์ดรุ่นที่ต้องการซื้อหรือที่มีอยู่ มีซ็อคเก็ตสำหรับติดตั้งแรมแบบไหน เช่น เมนบอร์ดยี่ห้อ MSI รุ่น MS6373 มีสล็อตแรมแบบ 3DDR DIMM ก็คือมีซ็อคเก็ตสำหรับติดตั้งแรมได้สามชิ้น โดยแรมที่ใช้กับเมนบอร์ดนี้ต้องเป็นแรมแบบ DDR
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/ram.htm
HARD DISK
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ซึ่งไม่มีความแตกต่างจากเทปเพลงที่ใช้กับเครื่องเสียง คือใช้แม่เหล็กสำหรับจัดเก็บข้อมูล โปรแกรม ทุกโปรแกรม เกมส์สนุกๆ ที่คุณเล่น งานที่คุณพิมพ์ ต่างก็ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ในการจัดเก็บข้อมูล ฮาร์ดดิสก์จะมีอินเทอร์เฟส สองชนิดด้วยกันคือ 1. แบบ IDE และ 2. SCSI (ออกเสียงว่า สกัซซี่) ฮาร์ดดิสก์แบบ IDE จะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากราคาถูก ส่วนฮาร์ดดิสก์แบบ SCSI นั้นมีความเร็วในการรับส่ง ข้อมูลสูง ส่วนใหญ่จะใช้กับเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรือเครื่องที่ต้องอ่านเขียนข้อมูลบ่อยๆ แต่ก็มีข้อเสียคือราคาแพง สำหรับฮาร์ดดิสก์การเลือกซื้อจะดูที่ความจุของฮาร์ดดิสก์ และก็ความเร็วในการหมุน (ทำให้ค้นหาข้อมูลได้เร็ว) เช่น ความจุ 120 GB ความเร็วรอบ 7200 rpm (รอบต่อนาที) ในรูปจะเห็นคอนเน็คเตอร์สำหรับต่อสายแพเข้ากับที่ฮาร์ดิสก์ไปที่เมนบอร์ด และช่องสำหรับต่อสายไฟจากพาวเวอร์ ซัพพลาย ส่วนรูปเล็กนั้นเป็นรูปภายในของฮาร์ดดิสก์
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/harddisk.htm
Sound Card
การ์ดเสียง ที่จะช่วยให้คุณฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม บันทึกเสียงเข้าไปในคอมพิวเตอร์ได้ แม้เมนบอร์ดส่วนใหญ่ จะรวมเอาการ์ดเสียงเป็นชุดเดียวกับเมนบอร์ด (Sound on Board) แต่ถ้าหากต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่า หรือต้องการใช้งานด้านตนตรี ตัดต่อวิดีโอ ฟังเพลง ดูหนัง ที่ได้อารมณ์สุดๆ ก็ควรเลือกการ์ดเสียงที่ทำเป็นการ์ด แยกต่างหาก ตัวอย่างการ์ดที่ได้รับความนิยมก็เช่น Creative SoundBlaster Live, Audigy
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/soundcard.htm
CD-ROM / CD-RW / DVD
ไดรฟ์สำหรับอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม (CD-RW) ซีดีเพลง (Audio CD) โฟโต้ซีดี (Photo CD) วิดีโอซีดี (Video CD) โดยไดรฟ์ทั้งสามประเภท จะมีความสามารถในการอ่านข้อมูล จากแผ่นซีดีที่กล่าวมาข้างต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าหากคุณต้องการบันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีได้ด้วย จะต้องเลือกใช้ไดรฟ์ CD-RW และถ้าต้องการอ่านข้อมูลจากแผ่น DVD ก็ต้องใช้ไดรฟ์ DVD นอกจากนี้ยังมีไดรฟ์อีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Combo Drive คือเป็นไดรฟ์ที่รวมทั้งไดรฟ์ DVD และไดรฟ์ CD-RW อยู่ในไดรฟ์เดียว ทำให้ทั้งดูหนังฟังเพลง บันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดีได้เลย ความเร็วของไดรฟ์ซีดีรอมจะเรียกเป็น X เช่น 8X, 40X, 50X ยิ่งมากก็คือยิ่งเร็ว ส่วน CD-RW นั้นจะมีตัวเลขแสดง เช่นเดียวกัน เพียงแต่จะเพิ่มความเร็วในการบันทึกข้อมูลลงแผ่นซีดี เช่น 24/10/40X นั่นคือความเร็วในการบันทึกแผ่น CD-R สูงสุด ความเร็วในการบันทึกข้อมูลลงแผ่น CD-RW และความเร็วในการอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีโปรแกรม หรือซีดี เพลง
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/cd_rom.htm
Keyboard
แป้นพิมพ์ การพิมพ์ข้อความ การสั่งงานคอมพิวเตอร์และการทำงานหลายๆ อย่างต้องใช้แป้นพิมพ์เป็นหลัก แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดจะต่อสายเข้ากับพอร์ต PS/2 ของเมนบอร์ด นอกจากนี้ยังมีคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ USB คือต้องต่อเข้าที่พอร์ต USB ของเมนบอร์ด และยังมีคีย์บอร์ดไร้สายอีกด้วย
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/keyboard.htm
Mouse
อุปกรณ์ประเภท Pointing Device ทำให้คุณสั่งงานคอมพิวเตอร์ ด้วยการชี้และกดเลือกคำสั่งที่ต้องการได้ง่ายกว่า การใช้แป้นพิมพ์ และเม้าส์ยังใช้กับการวาดภาพ เล่นเกม ได้อีกด้วย เม้าส์จะมีให้เลือกใช้งานหลายแบบหลายราคา หลายยี่ห้อ ตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยจนถึงหลักพัน โดยเม้าส์จะมีแบบที่เชื่อมต่อแบบ PS/2 (ปลายสายจะมีขั้วต่อแบบกลมเล็ก มีเข็มหกอัน ข้างใน) หรือจะเป็นเม้าส์แบบ USB ที่มีขั้วต่อเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบนๆ
เเหล่งอ้างอิง http://www.zabzaa.com/hardware/mouse.htm
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.zabzaa.com/hardware/
ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์
การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit)
ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผล
ข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วย
กันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
- Keyboard
- Mouse
- Disk Drive
- Hard Drive
- CD-Rom
- Magnetic Tape
- Card Reader
- Scanner
2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit)
ทํ าหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
- หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางาน
ของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับ
อุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
- หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจาก
หน่วยควบคุม และหน่วยความจํา
3. หน่วยความจํ า (Memory)
ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยัง
เก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น
หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่ง
หรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
- ROM หน่วยความจําแบบถาวร
- RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
- หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลัก
สามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น
4. หน่วยแสดงผล (Output Unit)
ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่
ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
- Monitor จอภาพ
- Printer เครื่องพิมพ.
- Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ
เเหล่งอ้างอิง http://www.geocities.com/kunkroo_computer/intro5.html
สรุปสาระสำคัญและข้อคิดเห็น
หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์จะเริ่มจากการรับข้อมูลเข้ามาก่อนแล้วมีการประมวลผลและจะมีการเก็บข้อมูลถึงจะแสดง
ข้อมูลบนหน้าจอให้เราได้เห็น ซึ่งทำให้เราได้รับประโยชน์จากการใช้คอมพิวเตอร์มากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทำให้เรารับ
รู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทันเหตุการณ์ ทันสมัย ทันโลก ช่วยให้เราสามารถค้นคว้าความรู้ติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก ในทุกๆเวลา
ที่เราต้องการ ช่วยในเรื่องของการเรียน การทำงาน ให้มีความทันสมัยและได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น