14 ตุลาวันมหาวิปโยค
ภาพ : http://chantrawong.blogspot.com/2008/10/14-2516.html
14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 วันมหาวิปโยค หรือที่เรียกกันว่า " 14 ตุลาสงครามประชาชน " เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกวันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์นองเลือดครั้งใหญ่ ซึ่งนำโดยนิสิต นักศึกษาที่ลุกฮือกันเพื่อต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร
เหตุการณ์เริ่มมาจากการที่จอมพลถนอม กิตติขจรได้ทำการรัฐประหารตัวเองในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โดยประชาชนทั่วไปมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจมาจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ซึ่งตามจริงในขณะนั้นจอมพลถนอมจะต้องเกษียณอายุราชการแต่กลับมาต่ออายุราชการให้ตนเอง อีกทั้งจอมพลประภาส จารุเสถียรก็ไม่ได้รับการยอมรับเช่นเดียวกับจอมพลถนอมจึงทำให้ประชาชนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ต่อมาได้เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ทหารตกโดยในซากเฮลิคอปเตอร์พบซากสัตว์จำนวนมากซึ่งล่ามาจากทุ่งใหญ่นเรศวรพื้ที่ป่าสงวนจึงสร้างความไม่พึงพอใจให้กับนักศึกษา และประชาชนเป็นอย่างมาก
หลังจากเหตุการร์นั้นได้ทีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกหนังสือชื่อ " บันทึกลับจากทุ่งใหญ่ " ซึ่งเปิดโปงเกี่ยวกับกรณีนี้ได้ผลตอบรับกลับมาดีมากจนขยายผลให้นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงกลุ่มหนึ่งออกหนังสือชื่อ " มหาวิทยาลัยที่ไม่มีคำตอบ " ส่งผลให้นักศึกษาแกนนำทั้ง 9 คนถูกสั่งลบชื่อโดยดร. ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ อธิการบดีเป็นผู้สั่ง จึงทำให้เกิดการประท้วงจนนำไปสู่การชุมนุมในวันที่21 และ 22 มิถุนายน หลังจากนั้นก็มีทั้งร่วมกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องขอรัฐธรรมนูญ มีการเดินแจกใบปลิวเรียกร้องรัฐธรรมนูญตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพมหานครโดยนักศึกษา 13 คน จึงทำให้นักศึกษาโดนจับโดยข้อหาร้ายแรงว่าการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งสร้างความไม่พึงพอใจให้นักศึกษาเป็นอย่างมากจนนำไปสู่การชุมนุมครั้งใหญ่ซึ่งขณะนั้นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำลังสอบกลางภาคแต่ทางองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ประกาศงดสอบ และยื่นคำขาดให้รัฐบาลปล่อยตัวนักศึกษาก่อนเที่ยงวันที่13 ตุลาคม แต่เมื่อถึงเวลารัฐบาลกลับไม่ยอมปล่อยตัว
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดการเดินขบวนครั้งใหญ่โดยเริ่มจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยมีแกนนำนักศึกษาและประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แกนนำนักศึกษาได้ไปเจรจากับรัฐบาลจนได้ข้อยุติเพียงพอที่จะสลายตัว แต่เนื่องจากมีผู้มาเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากจึงทำให้การสื่อสารมีปัญหา ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่จึงควบคุมดูแลได้ไม่หมดทำให้นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดในเช้าตรู่วันที่14 ตุลาคม
ภาพ : http://www.pattayadailynews.com/images_feature/002_th/0000000639/pic1.jpg
เมื่อผู้ชุมนุมจะสลายตัวกลับแต่เจ้าหน้าที่ทางรัฐบาลไม่ยอมให้ผ่านจึงเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันจนกลายเป็นจลาจล และมีการยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อจะสลายการชุมนุมโดยยิงจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งผู้ที่อยู่ในเหตุการณืยืนยันว่าคนที่ยิงปืนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เป็น พ.อ. ณรงค์ กิตติขจร เหตุการณ์ได้สงบลงเมื่อคำวันที่14 ตุลาคม โดยมีการประกาศว่าจอมพลถนอมได้ลาออกจากตำแหน่งแล้วได้ลี้ภัยไปต่างประเทศพร้อมพรรคพวกอีกนั่นก็คือ จอมพลประภาส และพ.อ. ณรงค์ และมีพระราชโองการแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ภายหลังจากเหตุการณืครั้งนี้ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยประชาชนจากหลายๆภาคส่วนแต่ไม่มีนักการเมืองร่วมอยู่ด้วยเลย และในการร่างได้ใช้สนามม้านางเลิ้งเป็นสถานที่ในการร่างรัฐธรรมนูญรัฐธรรมนูญนี้ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่ง จนนำไปสู่การเลือกตั้งในต้นปี พ.ศ. 2518 ซึ่งในช่วงระยะเวาลนั้นเรียกกันว่ายุค " ฟ้าสีทองผ่องอำไพ "
หลังจากเหตุการณื14 ตุลาคม ได้มีการสร้างอนุสรณ์สถาน ขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรชนคนกล้าที่เสียชีวิตในเหตุการณ์14 ตุลาคมที่สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง โดยใช้เวลาถึง 28 ปี
แม้ว่าเหตุการณ์จะล่วงเลยผ่านมาเป็นเวลานานมากแล้วแต่ภาพแห่งความทรงจำยังคงติดตรึงใจของใครหลายๆคน การเรียกร้องที่แลกมาด้วยความเสียสละ แม้ว่าเหตุการณืจะเป็นเพียงอดีต แต่จะเป็นอดีตที่ทรงคุณค่าไว้ให้คนรุ่นหลังอย่างเราๆได้นำสิ่งที่ถูกต้องมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตไม่มากก็น้อย
ภาพ : http://travel.sanook.com/bangkok/bangkok_06784.php
สร้างโดย : น.ส. รังสินี มานพ ม.6/1 เลขที่ 17 โรงเรียนศีลาจารพิพัฒน์
แหล่งอ้างอิง : http://chantrawong.blogspot.com/2008/10/14-2516.html
ขาดชื่อผู้สร้าง ช่วยเติมให้หน่อยนะ
แวะมาชม จุ๊ๆๆ
วู้ดดี้ 6/1
สุดยอดจริงๆเลย......