• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b2b590728be9f26e445b340a6b418bef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<u><strong><span style=\"color: #ff00ff\"></span></strong></u>\n</p>\n<p>\n<u><strong><span style=\"color: #ff00ff\"></span></strong></u></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"499\" src=\"http://webhost.cpd.go.th/ewt/poetaram/images/nana_03042551.jpg\" height=\"375\" style=\"width: 390px; height: 279px\" />\n</div>\n<p>\n</p>\n<p>\n<u><strong><span style=\"color: #ff00ff\">อาหารคืออะไร</span></strong></u><br />\n    ทุกวันนี้มีร้านสะดวกซื้อผุดขึ้นมากทุกหัวถนน ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าย่อยที่มีบริษัทแม่คอยดูแลควบคุมมาตรฐาน จัดการผลิตและจัดส่งสินค้าเองทุกอย่าง เป็นร้านค้าที่ทำกำไรแบบเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านเอากำไรมากกว่าเขาเล็กๆ น้อยๆ ในทุกชิ้นของสินค้าและสินค้าขบเคี้ยวในร้านเหล่านี้มีเอกลักษณ์เด่น คือ นอกจากจะชอบหลอกเด็ก โดยใส่ถึงพองลมกลบเกลื่อนความน้อยนิดของสินค้าแล้ว สินค้าขบเคี้ยวเหล่านั้นยังเป็เสียเป็นส่วนมาก\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"315\" src=\"http://www.jookku.com/webboard/photo/58185818.jpg\" height=\"262\" style=\"width: 266px; height: 234px\" />\n</div>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff\"><u><strong>อาหารขยะ </strong></u></span> หมายถึง อาหารที่ให้ประโยชน์ทางโภชนาการน้อย และถ้ากินมากก็จะเป็นว่านี้ มักจะเป็นอาหารแป้งทอดใส่เกลือ ทำให้กินแล้วมีรสเค็มๆ มันๆ ซึ่งกินไม่รู้สึกอิ่ม แต่อยากกินอยู่เรื่อยๆ และเมื่อกินเกลือเข้าไปมากๆ ก็ทำให้ความดันโลหิตสูง และกระหายน้ำ ต้องควักเงินซื้อน้ำขวด น้ำหวาน น้ำอัดลมดื่มแก้กระหายตามมา นับว่าเป็นการมอมเมาเยาวชนมากขึ้นทุกวัน และขยายลงไปทั่วจนกลายเป็นวัฒนธรรมแทนที่ขนมครก ครองแครง ขนมชั้น ปั้นสิบ ของไทยเรา <br />\nนอกจากร้านสะดวกซื้อแล้ว ทอดกรอบใส่เกลือนี้ได้รุกรานวัฒนธรรมไทยเข้าไปถึงโรงมหรสพ เยาวชนไทยทุกวันนี้นิยมกินป๊อปคอร์นหรือข้าวโพดคั่ว และน้ำอัดลมในโรงหนังฝรั่งอเมริกันกันมากขึ้นเรื่อยๆ คนอเมริกันเวลาไปดูหนังนิยมกันอาหารขบเคี้ยว เช่น ข้าวโพดคั่วใส่เกลือแถมใส่เนยด้วย อาหารอเมริกัน มักจะมีการใส่เนยให้มันเข้าไว้ การใส่เนยยิ่งทำเมากขึ้น เขาว่ากันว่า การกินขนมขบเคี้ยวของคนอเมริกันในโรงหนัง ไม่ใช่เพราะหิว แต่เพราะติดนิสัย และเพราะการขบเคี้ยวสามารถแก้อาการตกประหม่าในที่ชุมชนได้ดี ถ้ามีอะไรในปากให้เคี้ยวจั๊บๆ แล้ว ความวิตกกังวลต่อความแปลกหน้าแปลกที่จะลดน้อยลง นิสัยไม่ดีในเรื่องกินอย่างนี้ เริ่มจะระบาดมาเมืองไทยแล้ว เดี๋ยวนี้เมืองไทยเรามีเยาวชนกินป๊อปคอร์นในโรงหนังกันมากขึ้น มีร้านขายป๊อปคอร์นถังใหญ่ พร้อมน้ำอัดลมเข้าไปกินในโรงหนัง นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขาย กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ขึ้นมาได้ <br />\nนานมาแล้วที่สหรัฐเขาเคยทำการตลาดเรื่องนี้เป็นการใหญ่ คือ เขาลงทุนทำการวิจัยว่า จะทำอย่างไรให้คนดูหนังกินป๊อปคอร์นได้มากขึ้น ก็พบว่า ถ้าทำให้หนังมีฉากทะเลทราย ฉากไฟไหม้ ฉากความแห้งแล้งอยู่ด้วย จะทำให้คนรู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น เขาจึงใส่ฉากเหล่านี้เข้าไปในหนังทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่ใส่แบบที่คนดูรู้เนื้อรู้ตัว คือ ใส่แบบ Subtiminal คือให้คนดูเห็นแล้วรู้สึกในระดับจิตใต้สำนึก โดยสอดใส่เฟรมภาพกระตุ้นความกระหายจำนวนน้อยๆ เข้าไปในฟิล์ม โดยอาศัยหลักสรีระวิทยาที่ว่า ภาพยนต์คือภาพนิ่งที่เปิด-ปิด เปิด-ปิด ให้เห็นเรียงกันไป วินาทีละหลายสิบภาพ แต่ประสาทตาของคนเราสามารถเห็นและรู้แยกแยะได้จำกัด การสอดใส่เฟรมหนังที่เป็นภาพทะเลทรายเข้าไปหนึ่งเฟรม ไม่สามารถทำให้ตาเราเห็นแล้วจดจำได้ แต่เขาว่าจักษุวิญญาณใต้สำนึกเห็นได้ ทำให้รู้สึกร้อน กระหายน้ำ ทำให้ซื้อน้ำกินมากขึ้น ใครที่เข้าไปดูหนังจึงเป็นเหยื่อของการตลาดอย่างนี้ <br />\nเมื่อก่อนนี้ วงการแพทย์คิดว่า อาหารมันๆ มีตรงที่ทำให้อ้วนอย่างเดียว แต่ความอ้วนทำให้เป็นโรคอื่นตามมามาก คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด อัมพาต อัมพฤกและอื่นๆ จนถึงโรคขาดรัก เมื่อก่อนเข้าใจว่าไขมันก่อมะเร็งด้วย แต่ไม่รู้ว่ามีกลไกอย่างไร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสต๊อกโฮล์ม และสำนักอาหารแห่งชาติสวีเดน ในอาหารขบเคี้ยว ซึ่งนิยมกินกันอย่างแพร่หลาย เช่น แผ่นมัน ฝรั่งทอดกรอบ เฟรนช์ฟรายด์ ขนมปังบิสกิต ซีเรียล และขนมปังปอนด์ <br />\nสารก่อมะเร็ง &quot;อะคลีลาไมต์&quot; นี้ จะเกิดขึ้นมากเมื่อสารอาหารพวกแป้ง เช่น ข้าว มันฝรั่ง ถูกทอด ย่าง หรืออบด้วยความร้อนสูง แต่ถ้าใช้วิธีต้มจะไม่พบสารก่อมะเร็งตัวนี้ &quot;อะคลีลาไมต์&quot; เป็นสารที่ไม่มีสี ละลายน้ำ มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทและก่อมะเร็งได้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยว่า ต้องมีสาร &quot;อะคลีลาไมต์&quot; ระดับความเข้มข้นไม่เกิน 1 ไมโครกรัม ต่อน้ำดื่ม 1 ลิตร ส่วนสหภาพยุโรปกำลังจะใช้มาตรฐานในเรื่องนี้ที่เข้มงวดมากกว่านั้นในปี 2003 คือ ให้มีได้ไม่เกิน 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร <br />\nในแผ่นมันทอดกรอบจำนวนน้อยๆ แค่ 0.5 กรัม หรือ เฟรนช์ฟรายด์เพียงแค่ 2 กรัม ก็มี &quot;อะคลีลาไมต์&quot; ถึง 0.5 ไมโครกรัมเสียแล้ว ในแผ่นมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุง อาจจะมีมากถึง 500 เท่าของระดับที่องค์การอนามัยโลกอนุญาตในน้ดื่นัมากโขจริงๆ ที่จริงเขาได้ทำการทดลองวิจัยอาหารสำเร็จรูปที่มีขายในตลาดเป็นร้อยยี่ห้อแล้วพบว่ามีสารก่อมะเร็งนี้ แต่ขณะนี้เขายังไม่พร้อมที่จะห้ามขาย แต่เขาได้เตือนอุตสาหกรรมอาหารเหล่านั้น ให้จัดการเฝ้าระวังลดจำนวนสารก่อมะเร็งด้วยตนเอง <br />\nอาหารขยะจากแป้งทอด ย่าง ด้วยความร้อนสูง นับวันจะมีมากขึ้นในเมืองไทย การซื้ออาหารเหล่านี้ให้เด็กกินหรือให้เด็กซื้อกินจนติดเป็นนิสัย สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ นอกจากจะทำให้กินอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการน้อยแล้ว ยังเป็นอาหารก่อมะเร็งด้วย </p>\n<p>\n<u><span style=\"color: #ff00ff\"><strong>โรคที่แฝงมากับอาหารขยะ</strong><br />\n</span></u>สังคมปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันสูง ความเร่งรีบจึงทำให้ลักษณะนิสัยของผู้บริโภคต้องการความสะดวก รวดเร็ว หาซื้อได้ รับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา อาหารสำเร็จรูปและอาหารจานเดียวจึงเป็นทางเลือกยอดนิยม ที่หลายคนเรียกอาหารเหล่านี้ว่า &quot;Jung Food&quot; หรือ &quot;อาหารขยะ&quot; นั่นเอง<br />\nโดยนักโภชนาการ เปิดเผยถึงอาหารจำพวก แฮมเบอร์เกอร์ม เฟรนซ์ฟราย, พิซซ่า และ น้ำอัดลม ว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่โปรตีนน้อยมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ จึงไม่สนับสนุนให้กินเป็นอาหารมื้อหลัก หากกินอาหารเหล่านี้มากๆ อาจส่งผลต่อร่างกายหรือได้รับโรคที่แฝงมากับอาหารก็เป็นได้\n</p>\n<p>\n    - โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง เพราะกินอาหารที่มีไขมันบ่อย พอสะสมในร่างกายเยอะๆ เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตและโรคไต\n</p>\n<p>\n    - โรคข้อกระดูกอักเสบ น้ำหนักที่มากเกิน ส่งผลให้ข้อเข่าและสะโพกล้า กระดูกอ่อนอาจเสื่อมสภาพได้\n</p>\n<p>\n      - โรคตับ หากสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เป็นโรคตับแข็งได้\n</p>\n<p>\n    - โรคเบาหวาน พอมีไขมันที่หน้าท้องมากเกิน ทำให้เกิดการต้านอินซูลินส่งผลให้สะสมกลูโคสในร่างกายทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้ทำลายหลอดเลือดในจอตา ทำให้ตาบอดแทรกซ้อนได้\n</p>\n<p>\n      - ไขมันในเลือดสูง เพราะกินอาหารจำพวกนี้เป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน หลอดเลือดพิการ เพราะไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด\n</p>\n<p>\n      ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ล้วนแต่มีประโยชน์ หากรู้จักเลือกรับประทาน และทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือจะลองเปลี่ยนจาก Fast Food จานด่วนต่างชาติเป็นข้าวราดแกงริมฟุตบาท ที่คุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับคนไทยอย่างเรา ก็ยิ่งดี\n</p>\n<p>\n<u><strong><span style=\"color: #ff00ff\">กินอาหารขยะบ่อยๆอาจทำให้เสพติดได้<br />\n</span></strong></u>นักวิจัยพบ หนูทดลองจะเพลิดเพลินกับการกินอาหารที่หวานๆ มันๆ เท่านั้น ไม่ใช่มีแค่คุณค่าทางอาหารต่ำ แต่ถ้าเมื่อไม่ได้กินจะชักกระวนกระวาย คล้ายอาการลงแดง\n</p>\n<p>\nการศึกษาค้นคว้าใหม่ของอาหารสำเร็จต่างๆ อย่างเช่น ฮอตด็อก และมันฝรั่งทอดปรากฏผลออกมาแล้ว อย่างที่ใจนึกของคนส่วนใหญ่ นั่นคือไม่แต่เพียงมีคุณค่าทางอาหารต่ำเท่านั้น หากยังทำให้เสพติดได้อีกด้วย\n</p>\n<p>\nนักศึกษาปริญญาเอก ซิ ยี่ อ๊อง มหาวิทยาลัยเซาธ์ ออสเตรเลีย เปิดเผยผลการศึกษาที่ทำมาเป็นเวลา 2 เดือน ว่า หนูทดลองจะเพลิดเพลินกับการกินอาหารที่หวานๆ มันๆ เท่านั้น หากลองงดให้ลง พวกมันจะรู้สึกกระสับกระส่าย &quot;ดูเหมือนว่าความอยากกินอาหารพวกนั้น ทำให้มันลืมความหิวไป จนมันแทบไม่ยอมกินอย่างอื่น&quot;\n</p>\n<p>\nเขาบอกต่อไปว่า &quot;เราได้เห็นกับตาว่า อาหารที่ถือกันว่าเป็นอาหารขยะ ที่มีแต่หวาน ๆ มัน ๆ แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหารพวกนี้ ทำให้เสพติดได้ ดังนั้น จึงควรระวังไม่เผลอกินมันให้มากไป&quot;\n</p>\n<p>\nหัวหน้านักวิจัยรายงานผลการศึกษา ในวารสารวิชาการ &quot;สมาคมวิจัยทางการแพทย์ออสเตรเลีย&quot; ว่า &quot;พวกหนูที่เคยกินอาหารขยะ เมื่อไม่ได้กินเข้า ก็ชักกระวนกระวาย คงเพราะมันรู้สึกลงแดงนั่นเอง\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"1\" src=\"http://image.dek-d.com/15/1200662/14459648\" height=\"1\" />\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"470\" src=\"http://www.pochnews.com/UserFiles/sugosol/images/2008110712231045001.jpg\" height=\"350\" style=\"width: 368px; height: 255px\" />\n</div>\n<p>\n<strong><u><span style=\"color: #ff00ff\">อาหารขยะก่อปัญหาเด็กอ้วน</span></u></strong><br />\nเด็กไทยอ้วนได้กี่วิธี เป็นปัญหาที่พึงใคร่ครวญหาคำตอบ กล่าวคือ\n</p>\n<p>\n ประการแรก ภาวะขาดการออกกำลังกาย เกมกด และเกมคอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องเล่นหลักของเด็กสมัยปัจจุบัน ทำให้เด็กขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย เกิดเป็นปัญหาความอ้วน\n</p>\n<p>\n ประการสอง ภาวะการกินอาหารล้นเกินและอาหารผิดส่วน อาหารที่เด็กไทยกินมากและก่อความอ้วนได้แก่อาหาร 3 ชนิดหลักคือ อาหารขยะ อาหารฟาสต์ฟู้ด และผลิตภัณฑ์นม\n</p>\n<p>\n อาหารขยะ ได้แก่ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง และน้ำอัดลม  อาหารกลุ่มนี้เป็นแป้งที่ขัดสีเอาเส้นใย และวิตามินออกหมด น้ำตาลก็ฟอกขาว แล้วแถมเติมด้วยสารแต่งสี แต่งกลิ่น กับผงชูรสเข้าไป  ตามด้วยกระบวนการทอดในน้ำมันซ้ำๆ\n</p>\n<p>\n เวลาที่ร่างกายรับเอาแป้งขัดขาวหรือน้ำตาลฟอกขาวเข้าไป จะย่อยแล้วดูดซึมเข้าสู่เซลล์อย่างรวดเร็ว เข้าสู่วงจรชีวเคมีที่เรียกว่า วงจรเครปส์ ภายในเซลล์แล้วเผาผลาญให้เกิดพลังงานทันที โดยปกติวงจรเคมีนี้ต้องการวิตามินบีทั้งกลุ่ม ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์เพื่อจรรโลงให้กระบวนการเคมีผ่านไปโดยราบรื่น ในเมื่อไม่ได้รับวิตามินมาพร้อมกับอาหาร  ร่างกายจะต้องใช้วิตามินที่เป็นทุนเก่า ซึ่งปกติใช้อยู่ในเซลล์สมอง มาช่วยให้กล้ามเนื้อได้เผาผลาญให้เกิดกำลังงาน  ผลก็คือ เมื่อกินอาหารกลุ่มนี้บ่อยๆ วิตามินบีจะหมดไปจากระบบประสาทอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เกิดอาการต่างๆ เช่นสมองมึนงง สมาธิสั้น หงุดหงิด ซุกซนเกินเหตุ และง่วงเหงาซึมเซา \n</p>\n<p>\nสารแต่งสี แต่งกลิ่น สารกันบูด สารกันเชื้อราและผงชูรส เป็นสารเคมีที่ร่างกายไม่ได้ใช้ประโยชน์ มีเป็นเพียงกับดักที่ล่อตาล่อลิ้นให้กินไม่ยั้งกลืนไม่หยุดเท่านั้นเอง  เมื่ออยู่ในร่างกายก็รังแต่จะเป็นขยะที่เป็นภาระแก่ตับและไตของเด็กๆต้องคอยขับออก ไตและตับน้อยๆของเด็กเหล่านี้จึงต้องทำงานหนัก และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตวาย ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และมะเร็งในเวลาที่ไม่นาน<br />\nกระบวนการผลิตที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ ในวันหนึ่งๆที่โรงงานทอดบะหมี่ซอง เครื่องจักรแต่ละเครื่องจะทอดบะหมี่ได้ 50,000 ซองต่อวัน  ผลก็คือ กระบวนการเผาไหม้ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งยิงทำลายโครงสร้างของกรดไขมันในน้ำมัน แตกตัวเป็นสารโมโนเมอร์ ไดเมอร์ ไตรเมอร์ โพลีเมอร์ บ้างม้วนตัวแล้วจับกับคลอไรด์ กลายเป็นสารไดอ็อกซิน ซึ่งทั้งหมดเป็นบั่นทอนภูมิต้านทาน เป็นเหตุให้เด็กๆเหล่านี้ภูมิต้านทานต่ำภูมิแพ้ และก่อมะเร็งในที่สุด\n</p>\n<p>\nผลที่ตามมาของการกินอาหารขยะยังทำให้ผลการเรียนตกต่ำอีกด้วย  ในสหรัฐอเมริกามีงานวิจัยชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ถึงพิษร้ายของอาหารขยะ และผลดีถ้าได้ขจัดอาหารขยะออกจากโรงเรียนที่มีความน่าเชื่อถือมากชิ้นหนึ่ง กล่าวคือ ดร.เอลิซาเบท คาแกน ผอ.กองบริการอาหารโรงเรียน ในคณะกรรมการการศึกษาโรงเรียนเทศบาลมหานครนิวยอร์ก ร่วมกับบาร์บารา เอฟ. เมเยอร์ ที่ปรึกษากองสุขศึกษาแห่งนครนิวยอร์ก ได้ทำวิจัยชื่อ “The Impact of a Low Food Additive and Sucrose Diet on Academic Performance in 803 New York City Public School” ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Biosocial Research, Vol8Z(2): 185.196, 1986 โดยทำให้โรงเรียนเทศบาล 803 โรงเรียนในนครนิวยอร์ก มีเด็กๆร่วมอยู่ในการวิจัยนี้ 1 ล้านกว่าคน  เธอเริ่มจากการเก็บคะแนนผลการเรียนของนักเรียนแต่ละโรง ก่อนการวิจัยซึ่งพบว่าผลการเรียนของเด็กโรงเรียนเหล่านี้ต่อเนื่องกัน 3 ปี ซึ่งพบว่าอยู่เปอร์เซนไทล์ที่ 41%, 43% และ 39% ตามลำดับ  ในปีแรกที่วิจัยได้ลดอาหารขยะออกจากโรงเรียนจำนวนหนึ่ง พบว่าผลการเรียนดีขึ้นชัดเจนมาอยู่เปอร์เซนไทล์ที่ 47%  ปีต่อมาลดอาหารขยะลงไปอีกพบว่าการเรียนดีขึ้นเป็น 51%  ปีต่อมาเพื่อให้แน่ใจว่าผลการเรียนที่ดีขึ้นมาจากปัจจัยเรื่องการลดอาหารขยะจึงคงระดับอาหารขยะที่เหลืออยู่ไว้ตามเดิม ก็พบว่าผลการเรียนอยู่ที่ 51% ตามเดิม  ปีถัดไปจึงลดอาหารขยะลงอีกก็พบว่าผลการเรียนดีขึ้นเป็น 55% <br />\nงานวิจัยชิ้นนี้เป็นการยืนยันอย่างดีถึงผลร้ายของการกินอาหารขยะที่มีต่อการเรียนการศึกษาของเด็กๆ และบอกเราว่า ถ้าอยากให้เด็กๆของเราฉลาดขึ้น ไม่ต้องจับไปติวเข้ม เข้าโรงเรียนกวดวิชาให้เด็กๆเสียคุณภาพชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย ขอเพียงแต่ให้ขจัดอาหารขยะออกไปจากโรงเรียนได้เท่านั้นเอง\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"315\" src=\"/files/pictures/poonsak/baaf0c4c403ec966eec1682bed0f7a07.jpg\" height=\"326\" style=\"width: 315px; height: 272px\" />\n</div>\n<p>\n<strong><u><span style=\"color: #ff00ff\">ไอศกรีม อาหารขยะ</span></u></strong> <br />\nไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทนและได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้ <br />\n1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol ).. <br />\nสารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมันให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง ( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี <br />\n2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 ).. <br />\nใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่ ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง <br />\n3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral ). <br />\nใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด <br />\n4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate ). <br />\nใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ <br />\n5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde) <br />\nใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผลไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง <br />\n6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate) <br />\nใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอมเป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน <br />\n7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate) <br />\nใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัดบางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ <br />\nนอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม <br />\nทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้ ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ <br />\nอย่าลืมนะค่ะ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่าซีอิ้ว น้ำปลา ซอสปรุงรสมี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่ ขนมปัง.. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสียเจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตาม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<u><span style=\"color: #ff00ff\">ที่มา  <br />\n<a href=\"http://webboard.mthai.com/30/2007-05-10/320914.html\">http://webboard.mthai.com/30/2007-05-10/320914.html</a><br />\n<a href=\"http://women.thaiza.com/detail_72192.html\">http://women.thaiza.com/detail_72192.html</a><br />\n<a href=\"http://blog.eduzones.com/wanwan/25814\">http://blog.eduzones.com/wanwan/25814</a><br />\n<a href=\"http://www.healthcorners.com/2007/webboard/view.php?board_name=health&amp;q_id=4260\">http://www.healthcorners.com/2007/webboard/view.php?board_name=health&amp;q_id=4260</a></span></u>\n</p>\n<p>\nน.ส. ณัฐศรัญ  อภิวัชรมาศ ม.6/1 เลขที่ 29\n</p>\n', created = 1715734376, expire = 1715820776, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b2b590728be9f26e445b340a6b418bef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:69216ae7d883a8e55be7c456ba26e441' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nดีแล้วละ แต่ขออีกนิด บางข้อความยังไม่ถูกต้องในการจัด ตรวจดูอีกทีนะ\n</p>\n<p>\nภาพประกอบก็ต้องอ้างอิงที่มาไว้ใต้ภาพ\n</p>\n<p>\nแบ่งเป็นห้าย่อย แล้วการอ้างอิง ต้องอ้างอิงทุกหน้า จะเป็นกำลังใจให้ แล้วจะมาดูอีกครั้ง\n</p>\n<p>\nอย่าลืมส่งประกวด <br />\nแต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"200\" src=\"/files/u9/panda01.jpg\" height=\"294\" />\n</p>\n<p>\n-----------------------------------------------------------------------------------------<br />\nครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล<br />\nทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน\n</p>\n', created = 1715734376, expire = 1715820776, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:69216ae7d883a8e55be7c456ba26e441' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

อาหารขยะ

รูปภาพของ sss27403

อาหารคืออะไร
    ทุกวันนี้มีร้านสะดวกซื้อผุดขึ้นมากทุกหัวถนน ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าย่อยที่มีบริษัทแม่คอยดูแลควบคุมมาตรฐาน จัดการผลิตและจัดส่งสินค้าเองทุกอย่าง เป็นร้านค้าที่ทำกำไรแบบเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านเอากำไรมากกว่าเขาเล็กๆ น้อยๆ ในทุกชิ้นของสินค้าและสินค้าขบเคี้ยวในร้านเหล่านี้มีเอกลักษณ์เด่น คือ นอกจากจะชอบหลอกเด็ก โดยใส่ถึงพองลมกลบเกลื่อนความน้อยนิดของสินค้าแล้ว สินค้าขบเคี้ยวเหล่านั้นยังเป็เสียเป็นส่วนมาก

อาหารขยะ  หมายถึง อาหารที่ให้ประโยชน์ทางโภชนาการน้อย และถ้ากินมากก็จะเป็นว่านี้ มักจะเป็นอาหารแป้งทอดใส่เกลือ ทำให้กินแล้วมีรสเค็มๆ มันๆ ซึ่งกินไม่รู้สึกอิ่ม แต่อยากกินอยู่เรื่อยๆ และเมื่อกินเกลือเข้าไปมากๆ ก็ทำให้ความดันโลหิตสูง และกระหายน้ำ ต้องควักเงินซื้อน้ำขวด น้ำหวาน น้ำอัดลมดื่มแก้กระหายตามมา นับว่าเป็นการมอมเมาเยาวชนมากขึ้นทุกวัน และขยายลงไปทั่วจนกลายเป็นวัฒนธรรมแทนที่ขนมครก ครองแครง ขนมชั้น ปั้นสิบ ของไทยเรา
นอกจากร้านสะดวกซื้อแล้ว ทอดกรอบใส่เกลือนี้ได้รุกรานวัฒนธรรมไทยเข้าไปถึงโรงมหรสพ เยาวชนไทยทุกวันนี้นิยมกินป๊อปคอร์นหรือข้าวโพดคั่ว และน้ำอัดลมในโรงหนังฝรั่งอเมริกันกันมากขึ้นเรื่อยๆ คนอเมริกันเวลาไปดูหนังนิยมกันอาหารขบเคี้ยว เช่น ข้าวโพดคั่วใส่เกลือแถมใส่เนยด้วย อาหารอเมริกัน มักจะมีการใส่เนยให้มันเข้าไว้ การใส่เนยยิ่งทำเมากขึ้น เขาว่ากันว่า การกินขนมขบเคี้ยวของคนอเมริกันในโรงหนัง ไม่ใช่เพราะหิว แต่เพราะติดนิสัย และเพราะการขบเคี้ยวสามารถแก้อาการตกประหม่าในที่ชุมชนได้ดี ถ้ามีอะไรในปากให้เคี้ยวจั๊บๆ แล้ว ความวิตกกังวลต่อความแปลกหน้าแปลกที่จะลดน้อยลง นิสัยไม่ดีในเรื่องกินอย่างนี้ เริ่มจะระบาดมาเมืองไทยแล้ว เดี๋ยวนี้เมืองไทยเรามีเยาวชนกินป๊อปคอร์นในโรงหนังกันมากขึ้น มีร้านขายป๊อปคอร์นถังใหญ่ พร้อมน้ำอัดลมเข้าไปกินในโรงหนัง นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การขาย กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ขึ้นมาได้
นานมาแล้วที่สหรัฐเขาเคยทำการตลาดเรื่องนี้เป็นการใหญ่ คือ เขาลงทุนทำการวิจัยว่า จะทำอย่างไรให้คนดูหนังกินป๊อปคอร์นได้มากขึ้น ก็พบว่า ถ้าทำให้หนังมีฉากทะเลทราย ฉากไฟไหม้ ฉากความแห้งแล้งอยู่ด้วย จะทำให้คนรู้สึกกระหายน้ำมากขึ้น เขาจึงใส่ฉากเหล่านี้เข้าไปในหนังทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่ใส่แบบที่คนดูรู้เนื้อรู้ตัว คือ ใส่แบบ Subtiminal คือให้คนดูเห็นแล้วรู้สึกในระดับจิตใต้สำนึก โดยสอดใส่เฟรมภาพกระตุ้นความกระหายจำนวนน้อยๆ เข้าไปในฟิล์ม โดยอาศัยหลักสรีระวิทยาที่ว่า ภาพยนต์คือภาพนิ่งที่เปิด-ปิด เปิด-ปิด ให้เห็นเรียงกันไป วินาทีละหลายสิบภาพ แต่ประสาทตาของคนเราสามารถเห็นและรู้แยกแยะได้จำกัด การสอดใส่เฟรมหนังที่เป็นภาพทะเลทรายเข้าไปหนึ่งเฟรม ไม่สามารถทำให้ตาเราเห็นแล้วจดจำได้ แต่เขาว่าจักษุวิญญาณใต้สำนึกเห็นได้ ทำให้รู้สึกร้อน กระหายน้ำ ทำให้ซื้อน้ำกินมากขึ้น ใครที่เข้าไปดูหนังจึงเป็นเหยื่อของการตลาดอย่างนี้
เมื่อก่อนนี้ วงการแพทย์คิดว่า อาหารมันๆ มีตรงที่ทำให้อ้วนอย่างเดียว แต่ความอ้วนทำให้เป็นโรคอื่นตามมามาก คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด อัมพาต อัมพฤกและอื่นๆ จนถึงโรคขาดรัก เมื่อก่อนเข้าใจว่าไขมันก่อมะเร็งด้วย แต่ไม่รู้ว่ามีกลไกอย่างไร แต่เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสต๊อกโฮล์ม และสำนักอาหารแห่งชาติสวีเดน ในอาหารขบเคี้ยว ซึ่งนิยมกินกันอย่างแพร่หลาย เช่น แผ่นมัน ฝรั่งทอดกรอบ เฟรนช์ฟรายด์ ขนมปังบิสกิต ซีเรียล และขนมปังปอนด์
สารก่อมะเร็ง "อะคลีลาไมต์" นี้ จะเกิดขึ้นมากเมื่อสารอาหารพวกแป้ง เช่น ข้าว มันฝรั่ง ถูกทอด ย่าง หรืออบด้วยความร้อนสูง แต่ถ้าใช้วิธีต้มจะไม่พบสารก่อมะเร็งตัวนี้ "อะคลีลาไมต์" เป็นสารที่ไม่มีสี ละลายน้ำ มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทและก่อมะเร็งได้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยว่า ต้องมีสาร "อะคลีลาไมต์" ระดับความเข้มข้นไม่เกิน 1 ไมโครกรัม ต่อน้ำดื่ม 1 ลิตร ส่วนสหภาพยุโรปกำลังจะใช้มาตรฐานในเรื่องนี้ที่เข้มงวดมากกว่านั้นในปี 2003 คือ ให้มีได้ไม่เกิน 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร
ในแผ่นมันทอดกรอบจำนวนน้อยๆ แค่ 0.5 กรัม หรือ เฟรนช์ฟรายด์เพียงแค่ 2 กรัม ก็มี "อะคลีลาไมต์" ถึง 0.5 ไมโครกรัมเสียแล้ว ในแผ่นมันฝรั่งทอดกรอบ 1 ถุง อาจจะมีมากถึง 500 เท่าของระดับที่องค์การอนามัยโลกอนุญาตในน้ดื่นัมากโขจริงๆ ที่จริงเขาได้ทำการทดลองวิจัยอาหารสำเร็จรูปที่มีขายในตลาดเป็นร้อยยี่ห้อแล้วพบว่ามีสารก่อมะเร็งนี้ แต่ขณะนี้เขายังไม่พร้อมที่จะห้ามขาย แต่เขาได้เตือนอุตสาหกรรมอาหารเหล่านั้น ให้จัดการเฝ้าระวังลดจำนวนสารก่อมะเร็งด้วยตนเอง
อาหารขยะจากแป้งทอด ย่าง ด้วยความร้อนสูง นับวันจะมีมากขึ้นในเมืองไทย การซื้ออาหารเหล่านี้ให้เด็กกินหรือให้เด็กซื้อกินจนติดเป็นนิสัย สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ นอกจากจะทำให้กินอาหารที่มีประโยชน์ทางโภชนาการน้อยแล้ว ยังเป็นอาหารก่อมะเร็งด้วย

โรคที่แฝงมากับอาหารขยะ
สังคมปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันสูง ความเร่งรีบจึงทำให้ลักษณะนิสัยของผู้บริโภคต้องการความสะดวก รวดเร็ว หาซื้อได้ รับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา อาหารสำเร็จรูปและอาหารจานเดียวจึงเป็นทางเลือกยอดนิยม ที่หลายคนเรียกอาหารเหล่านี้ว่า "Jung Food" หรือ "อาหารขยะ" นั่นเอง
โดยนักโภชนาการ เปิดเผยถึงอาหารจำพวก แฮมเบอร์เกอร์ม เฟรนซ์ฟราย, พิซซ่า และ น้ำอัดลม ว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่โปรตีนน้อยมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ จึงไม่สนับสนุนให้กินเป็นอาหารมื้อหลัก หากกินอาหารเหล่านี้มากๆ อาจส่งผลต่อร่างกายหรือได้รับโรคที่แฝงมากับอาหารก็เป็นได้

    - โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง เพราะกินอาหารที่มีไขมันบ่อย พอสะสมในร่างกายเยอะๆ เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตและโรคไต

    - โรคข้อกระดูกอักเสบ น้ำหนักที่มากเกิน ส่งผลให้ข้อเข่าและสะโพกล้า กระดูกอ่อนอาจเสื่อมสภาพได้

      - โรคตับ หากสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เป็นโรคตับแข็งได้

    - โรคเบาหวาน พอมีไขมันที่หน้าท้องมากเกิน ทำให้เกิดการต้านอินซูลินส่งผลให้สะสมกลูโคสในร่างกายทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้ทำลายหลอดเลือดในจอตา ทำให้ตาบอดแทรกซ้อนได้

      - ไขมันในเลือดสูง เพราะกินอาหารจำพวกนี้เป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน หลอดเลือดพิการ เพราะไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด

      ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ล้วนแต่มีประโยชน์ หากรู้จักเลือกรับประทาน และทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือจะลองเปลี่ยนจาก Fast Food จานด่วนต่างชาติเป็นข้าวราดแกงริมฟุตบาท ที่คุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับคนไทยอย่างเรา ก็ยิ่งดี

กินอาหารขยะบ่อยๆอาจทำให้เสพติดได้
นักวิจัยพบ หนูทดลองจะเพลิดเพลินกับการกินอาหารที่หวานๆ มันๆ เท่านั้น ไม่ใช่มีแค่คุณค่าทางอาหารต่ำ แต่ถ้าเมื่อไม่ได้กินจะชักกระวนกระวาย คล้ายอาการลงแดง

การศึกษาค้นคว้าใหม่ของอาหารสำเร็จต่างๆ อย่างเช่น ฮอตด็อก และมันฝรั่งทอดปรากฏผลออกมาแล้ว อย่างที่ใจนึกของคนส่วนใหญ่ นั่นคือไม่แต่เพียงมีคุณค่าทางอาหารต่ำเท่านั้น หากยังทำให้เสพติดได้อีกด้วย

นักศึกษาปริญญาเอก ซิ ยี่ อ๊อง มหาวิทยาลัยเซาธ์ ออสเตรเลีย เปิดเผยผลการศึกษาที่ทำมาเป็นเวลา 2 เดือน ว่า หนูทดลองจะเพลิดเพลินกับการกินอาหารที่หวานๆ มันๆ เท่านั้น หากลองงดให้ลง พวกมันจะรู้สึกกระสับกระส่าย "ดูเหมือนว่าความอยากกินอาหารพวกนั้น ทำให้มันลืมความหิวไป จนมันแทบไม่ยอมกินอย่างอื่น"

เขาบอกต่อไปว่า "เราได้เห็นกับตาว่า อาหารที่ถือกันว่าเป็นอาหารขยะ ที่มีแต่หวาน ๆ มัน ๆ แต่ไม่มีคุณค่าทางอาหารพวกนี้ ทำให้เสพติดได้ ดังนั้น จึงควรระวังไม่เผลอกินมันให้มากไป"

หัวหน้านักวิจัยรายงานผลการศึกษา ในวารสารวิชาการ "สมาคมวิจัยทางการแพทย์ออสเตรเลีย" ว่า "พวกหนูที่เคยกินอาหารขยะ เมื่อไม่ได้กินเข้า ก็ชักกระวนกระวาย คงเพราะมันรู้สึกลงแดงนั่นเอง

อาหารขยะก่อปัญหาเด็กอ้วน
เด็กไทยอ้วนได้กี่วิธี เป็นปัญหาที่พึงใคร่ครวญหาคำตอบ กล่าวคือ

 ประการแรก ภาวะขาดการออกกำลังกาย เกมกด และเกมคอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องเล่นหลักของเด็กสมัยปัจจุบัน ทำให้เด็กขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย เกิดเป็นปัญหาความอ้วน

 ประการสอง ภาวะการกินอาหารล้นเกินและอาหารผิดส่วน อาหารที่เด็กไทยกินมากและก่อความอ้วนได้แก่อาหาร 3 ชนิดหลักคือ อาหารขยะ อาหารฟาสต์ฟู้ด และผลิตภัณฑ์นม

 อาหารขยะ ได้แก่ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง และน้ำอัดลม  อาหารกลุ่มนี้เป็นแป้งที่ขัดสีเอาเส้นใย และวิตามินออกหมด น้ำตาลก็ฟอกขาว แล้วแถมเติมด้วยสารแต่งสี แต่งกลิ่น กับผงชูรสเข้าไป  ตามด้วยกระบวนการทอดในน้ำมันซ้ำๆ

 เวลาที่ร่างกายรับเอาแป้งขัดขาวหรือน้ำตาลฟอกขาวเข้าไป จะย่อยแล้วดูดซึมเข้าสู่เซลล์อย่างรวดเร็ว เข้าสู่วงจรชีวเคมีที่เรียกว่า วงจรเครปส์ ภายในเซลล์แล้วเผาผลาญให้เกิดพลังงานทันที โดยปกติวงจรเคมีนี้ต้องการวิตามินบีทั้งกลุ่ม ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์เพื่อจรรโลงให้กระบวนการเคมีผ่านไปโดยราบรื่น ในเมื่อไม่ได้รับวิตามินมาพร้อมกับอาหาร  ร่างกายจะต้องใช้วิตามินที่เป็นทุนเก่า ซึ่งปกติใช้อยู่ในเซลล์สมอง มาช่วยให้กล้ามเนื้อได้เผาผลาญให้เกิดกำลังงาน  ผลก็คือ เมื่อกินอาหารกลุ่มนี้บ่อยๆ วิตามินบีจะหมดไปจากระบบประสาทอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เกิดอาการต่างๆ เช่นสมองมึนงง สมาธิสั้น หงุดหงิด ซุกซนเกินเหตุ และง่วงเหงาซึมเซา 

สารแต่งสี แต่งกลิ่น สารกันบูด สารกันเชื้อราและผงชูรส เป็นสารเคมีที่ร่างกายไม่ได้ใช้ประโยชน์ มีเป็นเพียงกับดักที่ล่อตาล่อลิ้นให้กินไม่ยั้งกลืนไม่หยุดเท่านั้นเอง  เมื่ออยู่ในร่างกายก็รังแต่จะเป็นขยะที่เป็นภาระแก่ตับและไตของเด็กๆต้องคอยขับออก ไตและตับน้อยๆของเด็กเหล่านี้จึงต้องทำงานหนัก และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตวาย ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และมะเร็งในเวลาที่ไม่นาน
กระบวนการผลิตที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ ในวันหนึ่งๆที่โรงงานทอดบะหมี่ซอง เครื่องจักรแต่ละเครื่องจะทอดบะหมี่ได้ 50,000 ซองต่อวัน  ผลก็คือ กระบวนการเผาไหม้ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งยิงทำลายโครงสร้างของกรดไขมันในน้ำมัน แตกตัวเป็นสารโมโนเมอร์ ไดเมอร์ ไตรเมอร์ โพลีเมอร์ บ้างม้วนตัวแล้วจับกับคลอไรด์ กลายเป็นสารไดอ็อกซิน ซึ่งทั้งหมดเป็นบั่นทอนภูมิต้านทาน เป็นเหตุให้เด็กๆเหล่านี้ภูมิต้านทานต่ำภูมิแพ้ และก่อมะเร็งในที่สุด

ผลที่ตามมาของการกินอาหารขยะยังทำให้ผลการเรียนตกต่ำอีกด้วย  ในสหรัฐอเมริกามีงานวิจัยชิ้นสำคัญที่บ่งชี้ถึงพิษร้ายของอาหารขยะ และผลดีถ้าได้ขจัดอาหารขยะออกจากโรงเรียนที่มีความน่าเชื่อถือมากชิ้นหนึ่ง กล่าวคือ ดร.เอลิซาเบท คาแกน ผอ.กองบริการอาหารโรงเรียน ในคณะกรรมการการศึกษาโรงเรียนเทศบาลมหานครนิวยอร์ก ร่วมกับบาร์บารา เอฟ. เมเยอร์ ที่ปรึกษากองสุขศึกษาแห่งนครนิวยอร์ก ได้ทำวิจัยชื่อ “The Impact of a Low Food Additive and Sucrose Diet on Academic Performance in 803 New York City Public School” ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Biosocial Research, Vol8Z(2): 185.196, 1986 โดยทำให้โรงเรียนเทศบาล 803 โรงเรียนในนครนิวยอร์ก มีเด็กๆร่วมอยู่ในการวิจัยนี้ 1 ล้านกว่าคน  เธอเริ่มจากการเก็บคะแนนผลการเรียนของนักเรียนแต่ละโรง ก่อนการวิจัยซึ่งพบว่าผลการเรียนของเด็กโรงเรียนเหล่านี้ต่อเนื่องกัน 3 ปี ซึ่งพบว่าอยู่เปอร์เซนไทล์ที่ 41%, 43% และ 39% ตามลำดับ  ในปีแรกที่วิจัยได้ลดอาหารขยะออกจากโรงเรียนจำนวนหนึ่ง พบว่าผลการเรียนดีขึ้นชัดเจนมาอยู่เปอร์เซนไทล์ที่ 47%  ปีต่อมาลดอาหารขยะลงไปอีกพบว่าการเรียนดีขึ้นเป็น 51%  ปีต่อมาเพื่อให้แน่ใจว่าผลการเรียนที่ดีขึ้นมาจากปัจจัยเรื่องการลดอาหารขยะจึงคงระดับอาหารขยะที่เหลืออยู่ไว้ตามเดิม ก็พบว่าผลการเรียนอยู่ที่ 51% ตามเดิม  ปีถัดไปจึงลดอาหารขยะลงอีกก็พบว่าผลการเรียนดีขึ้นเป็น 55%
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการยืนยันอย่างดีถึงผลร้ายของการกินอาหารขยะที่มีต่อการเรียนการศึกษาของเด็กๆ และบอกเราว่า ถ้าอยากให้เด็กๆของเราฉลาดขึ้น ไม่ต้องจับไปติวเข้ม เข้าโรงเรียนกวดวิชาให้เด็กๆเสียคุณภาพชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย ขอเพียงแต่ให้ขจัดอาหารขยะออกไปจากโรงเรียนได้เท่านั้นเอง

ไอศกรีม อาหารขยะ
ไอศกรีมบางยี่ห้อ บางผู้ผลิต ใช้ไขมันที่เหลือจากโรงฆ่าสัตว์ แทนและได้ใส่ส่วนผสมสังเคราะห์ จากสารเคมีต่าง ๆ ดังนี้
1. ไดอิธิลกลูคอล ( diethyl glucol )..
สารเคมีราคาถูก ใช้ตีไขมันให้กระจาย แทนการใช้ ่ไข่ เป็นสารกันเยือกแข็ง ที่ใช้กันน้ำแข็ง ( anti freeze) และผสมในน้ำยากัดสี
2. อัลดีไฮด์ - ซี71 ( aldehyde-C71 )..
ใช้สร้างกลิ่น เชอร์รี่ ให้ไอศกรีมเป็นของเหลวติดไฟง่าย และยังนำไปใช้ทำสีอะนิลีน พลาสติกและยาง
3. ไปเปอร์โอรัล ( piperoral ).
ใช้แทนวานิลลา เป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเหาและหมัด
4. อิธิลอะซีเตท (ethyl acetate ).
ใช้สร้างกลิ่นรสสับปะรด ใช้เป็นตัวทำความสะอาดหนังและผ้าทอ กลิ่นของสารเคมีตัวนี้ทำให้เกิดโรคปอดเรื้อรัง ตับ และหัวใจผิดปกติ
5. บิวธีรัลดีไฮด์ ( butyraldehyde)
ใช้สร้างกลิ่นรสเมล็ดในผลไม้เปลือกแข็ง เป็นสารประกอบสำคัญในกาวยาง
6. แอนนิล อะซีเตท( anyle acetate)
ใช้สร้างกลิ่นรสกล้วยหอมเป็นสารทำลายใช้ล้างไขมัน
7. เบนซิล อะซีเตท(benzyle acetate)
ใช้สร้างกลิ่นและรสสตรอเบอร์รี่เป็นสารละลายไนเตรทเวลาเกิดความอยากอยากให้คิดถึงสารเคมีเหล่านี้ทั้งสารกันเยือกแข็ง ตัวทำละลายน้ำมัน น้ำยาลอกสี ยาฆ่าเหา ยาฆ่าหมัดบางยี่ห้อมีตัวนั้น บ้างมี ตัวนี้ ไมใช ่ว่าทุกยี่ห้อ จะมีหมด ทุกตัว นะครับ
นอกจากนี้สารที่ใช้ทำความหวานก็คือ แซคคาริน หรือน้ำตาลเทียม
ทั้งมีสารเติมสีเติมกลิ่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนพิสูจน์แล้วว่ามีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดมะเร็งได้ ไอศกรีม อาหารขยะ เป็นสาเหตุโรคอาหารเป็นพิษ ถึง 98 เปอร์เซ็นต์
อย่าลืมนะค่ะ จะซื้ออะไรดูสักนิดเช่น น้ำมันพืช.. มีสาร กันหืน BTH หรือเปล่าซีอิ้ว น้ำปลา ซอสปรุงรสมี สารกัน บูด (โซเดียมเบนโซเอท) หรือผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมท) หรือไม่ ขนมปัง.. ขาวมีสารกันเสีย สารกันบูดไหม หรืออาหารใดๆ.. ก็แล้วแต่ แวะอ่านดูฉลากสักนิด ว่า มีผงชูรส มีวัตถุกันเสียเจือสีสังเคราะห์ แต่งกลิ่น แต่งรส หรือเปล่า แม้ อย.อนุญาตก็ตาม

 

ที่มา 
http://webboard.mthai.com/30/2007-05-10/320914.html
http://women.thaiza.com/detail_72192.html
http://blog.eduzones.com/wanwan/25814
http://www.healthcorners.com/2007/webboard/view.php?board_name=health&q_id=4260

น.ส. ณัฐศรัญ  อภิวัชรมาศ ม.6/1 เลขที่ 29

รูปภาพของ ssspoonsak

ดีแล้วละ แต่ขออีกนิด บางข้อความยังไม่ถูกต้องในการจัด ตรวจดูอีกทีนะ

ภาพประกอบก็ต้องอ้างอิงที่มาไว้ใต้ภาพ

แบ่งเป็นห้าย่อย แล้วการอ้างอิง ต้องอ้างอิงทุกหน้า จะเป็นกำลังใจให้ แล้วจะมาดูอีกครั้ง

อย่าลืมส่งประกวด
แต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย

-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 301 คน กำลังออนไลน์