การดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
หลักการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
ขณะสวมเสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนและการถูกของแหลมคมเกี่ยว
เมื่อถอดเสื้อควรแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อ ไม่ควรแขวนไว้บนตะขอหรือตะปูเพราะจะทำให้เสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเสื้อกันหนาวไม่ควรแขวนทิ้งไว้ เพราะว่าจะทำให้เสื้อยืดเสียรูปทรง
ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ควรใส่ของที่หนักมาก เพราะจะทำให้กระเป๋าเสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดเร็ว
เมื่อถอดเสื้อผ้าออกจากตัว ควรตรวจดูรอบเปื้อน ถ้าเสื้อถูกรอยเปื้อนให้รีบขจัดรอยเปื้อนในทันที เพราะว่ารอยเปื้อนใหม่จะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าปล่อยทิ้งไว้นาน
หากพบว่าเสื้อผ้ามีส่วนที่ชำรุด ก่อนการนำไปทำความสะอาดควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยเสียก่อน
เมื่อประกอบอาหารหรือทำกิจกรรมอื่นๆที่อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อน ควรสวมผ้ากันเปื้อนทุกครั้ง
ก่อนการซักผ้าให้แยกผ้าสีและผ้าขาว เพราะว่าผ้าแต่ล่ะชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนั้นจึงควรแยกผ้าดังนี้
- ผ้าสีประเภทใยธรรมชาติ
- ผ้าสีประเภทใยสังเคราะห์
- ผ้าขาวประเภทใยธรรมชาติ
- ผ้าขาวประเภทใยสังเคราะห์
เสื้อผ้าที่สวมแล้วและเปียกเหงื่อ ควรแขวนไว้ให้หมดเหงื่อ ดีกว่าการนำผ้าที่ใช้แล้วถอดใส่ตระกล้าทันที เพราะจะทำให้มีกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อ ควรนำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วแขวนในที่ที่ลมโกรก หรือแขวนผึ่งไว้ในที่อากาศปลอดโปร่งเพื่อให้เหงื่อแห้ง
ถุงเท้าเมื่อสวมใส่แล้วต้องทำความสะอาดทุกครั้ง ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะมีกลิ่น ไม่ควรสวมใส่ซ้ำ เพราะว่าจะทำให้เกิดโรคผิวหนังได้
เครื่องประกอบการแต่งกายควรทำความสะอาดอยู่เสมอ เช่นหมั่นซักรองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนังควรเช็ดและขัดให้สะอาดสวยงาม เมื่อชำรุดต้องรีบซ่อมแซมเช่นเดียวกัน เพราะรองเท้าที่ชำรุดจะไม่เหมาะกับเสื้อผ้าที่สวยงาม เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
สารซักฟอก
ใช้สำหรับซักผ้า หรือทำความสะอาดอื่นๆ ก่อนการเลือกใช้ควรศึกษาฉลากข้างกล่องก่อน และปฏิบัติตามคำแนะนำให้เคร่งครัด เพื้อประสิ?ธิภาพการใช้งาน
สารฆ่าเชื้อโรค
นิยมนำมาทำความสะอาดเสื้อผ้า เช่น น้ำมันสน สารฟอกขาว คลอลีน ซักผ้าผู้ป่วย เป็นต้น
สารเพิ่มความขาวและความสดใส
ช่วยเพิ่มความสดใสของผ้าขาว
วิธีกำจัดรอยเปื้อน
รอยเปื้อนชา กาแฟ
ถ้ารอยเปื้อนยังไม่แห้ง ให้นำแป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวเหนียวหรือแป้งฝุ่นโรยลงบนรอยเปื้อน เพื่อให้แป้งดูดซับรอยเปื้อน
และทิ้งไว้ให้แห้ง ใช้แป้งปัดแป้งออกแล้วนำไปซักด้วยสารซักฟอกตามปกติหรือถ้าเป็นผ้าไหมหรือขนสัตว์ ให้เช็ดด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก็ได้
รอยเปื้อนเลือด
ถ้าเป็นผ้าฝ้ายหรือลินินให้แช่น้ำ และใช้แอมโมเนียเจือจางเช็ดแล้วนำไปซัก หรือใช้แป้งมันผสมน้ำให้เข้มเหมือนแป้งเปียก ทาตรงส่วนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ ๔ ชั่วโมง แป้งมันจะทำหน้าที่ดูดซับรอบเปื้อน แล้วจึงนำไปซักตามปกติ
รอยเปื้อนหมากฝรั่ง
ให้ใช้น้ำแข็งถูให้หมากฝรั่งจับตัว และใช้สันมีดขูดออก เช็ดด้วยสารละลายเปอร์คลอโรเอทิลีนหรือคาร์บอนเตตราคลอไรด์ หรือสารละลายอื่น
รอยเปื้อนน้ำมัน
เช็ดออกด้วยเปอร์คลอโรเอทิลีนและซักในน้ำสบู่ หรือสารละลายอื่น หรือใช้ผ้าขนหนูหรือผ้าฝ้ายที่ดูดซึมน้ำได้ดี รองด้านล่าง แล้วเทคาร์บอนเตตราคลอไรด์ลงไปที่รอยเปื้อนแล้วเช็ดด้วยสำลีหรือผ้าแห้ง และนำไปซักกับน้ำอุ่นที่ผสมสารซักฟอก
รอยเปื้อนหมึก
ถ้าเป็นรอยเปื้อนใหม่ ๆ ให้ขยี้ในน้ำผสมสารซักฟอก ถ้ายังมีรอยเปื้อนตกค้างอยู่
ให้ใช้กรดออกซาลิกผสมน้ำ หรือใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยแช่เฉพาะส่วนที่เปื้อน บีบมะนาวลงไปให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ ๒ นาที และนำไปผึ่งแดดประมาณ ๓ ชั่วโมง แล้วจึงนำไปซักตามวิธีปกติ