อธิบายหลักการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
หลักการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
๑.ขณะสวมเสื้อผ้าต้องระมัดระวังไม่ให้เปรอะเปื้อนและการถูกของแหลมคมเกี่ยว
๒.เมื่อถอดเสื้อควรแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อ ไม่ควรแขวนไว้บนตะขอหรือตะปูเพราะจะทำให้เสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเสื้อกันหนาวไม่ควรแขวนทิ้งไว้ เพราะว่าจะทำให้เสื้อยืดเสียรูปทรง
๓.ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ควรใส่ของที่หนักมาก เพราะจะทำให้กระเป๋าเสื้อเสียรูปทรงและฉีกขาดเร็ว
๔.เมื่อถอดเสื้อผ้าออกจากตัว ควรตรวจดูรอบเปื้อน ถ้าเสื้อถูกรอยเปื้อนให้รีบขจัดรอยเปื้อนในทันที เพราะว่ารอยเปื้อนใหม่จะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าปล่อยทิ้งไว้นาน
๕.หากพบว่าเสื้อผ้ามีส่วนที่ชำรุด ก่อนการนำไปทำความสะอาดควรซ่อมแซมให้เรียบร้อยเสียก่อน
๖.เมื่อประกอบอาหารหรือทำกิจกรรมอื่นๆที่อาจทำให้เสื้อผ้าเปื้อน ควรสวมผ้ากันเปื้อนทุกครั้ง
ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดและรักษาเสื้อผ้ามาอย่างน้อย 3 ชนิด พร้อมสรรพคุณ
๑).สารซักฟอก สารซักฟอกที่เป็นทั้งผงและเป็นน้ำ ได้แก่ ผงซักฟอกและน้ำยาซักฟอก ใช้สำหรับซักผ้าหรือทำความสะอาดอื่นๆ มีขายอยู่ทั่วไปทั้งชนิดเป็นผงและเป็นน้ำ ก่อนการเลือกใช้ควรศึกษาฉลากข้างกล่องก่อน และปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลากนั้นอย่างเคร่งครัด เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน และช่วยให้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ทำความสะอาดคงสภาพเดิมไม่เสียหาย
๒).สารปรับผ้านุ่ม สารปรับผ้านุ่มเป็นสารที่มีส่วนผสมของน้ำมันช่วยเคลือบผืนผ้า ลดความกระด้างของผ้า และช่วยลดการดูดซึมของน้ำ ควรใช้เมื่อจำเป็นหรือนานๆครั้งหรือหลังจากการซักทุก๒-๓ครั้ง
๓).สารฆ่าเชื้อโรค นิยมนำมาทำความสะอาดเสื้อผ้า เช่น น้ำมันสน สารฟอกขาว คลอรีน นิยมใช้ซักผ้าในห้องน้ำ ซักผ้าผู้ป่วยเป็นต้น
บอกวิธีการกำจัดรอยเปื้อนต่อไปนี้
1) รอยเปื้อนหมึกดำ ถ้าเป็นรอยเปื้อนใหม่ๆ ให้ขยี้ในน้ำผสมสารซักฟอก ถ้ายังมีรอยเปื้อนตกค้างอยู่ให้ใช้กรดออกซาลิกผสมน้ำ หรือใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยแช่เฉพาะส่วนที่เปื้อน บีบมะนาวลงไปให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ ๒ นาที และนำไปผึ่งแดดประมาณ ๓ ชั่วโมง แล้วจึงนำไปซักตามวิธีปกติ
2) รอยเปื้อนลิปสติก เช็ดด้วยคาร์บอนเตตราคลอไรด์ โดยกลับเอาด้านในออกด้านล่างรองด้วยผ้าฝ้ายซึมน้ำได้ดี และเช็ดทางด้านผิด แล้วนำไปซัก ด้วยน้ำร้อนผสมผงซักฟอก
3) รอยเปื้อนชา กาแฟ ถ้ารอยเปื้อนยังไม่แห้ง ให้นำแป้งข้าวจ้าว แป้งข้าวเหนียวหรือแป้งฝุ่นโรยลงบนรอยเปื้อน เพื่อให้แป้งดูดซับรอยเปื้อนและทิ้งไว้ให้แห้ง ใช้แป้งปัดแป้งออกแล้วนำไปซักด้วยสารซักฟอกตามปกติหรือถ้าเป็นผ้าไหมหรือขนสัตว์ ให้เช็ดด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก็ได้
4) รอยเปื้อนเลือด ถ้าเป็นผ้าฝ้ายหรือลินินให้แช่น้ำ และใช้แอมโมเนียเจือจางเช็ดแล้วนำไปซัก หรือใช้แป้งมันผสมน้ำให้เข้มเหมือนแป้งเปียก ทาตรงส่วนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ประมาณ ๔ ชั่วโมง แป้งมันจะทำหน้าที่ดูดซับรอบเปื้อน และนำไปซักตามปกติ
5) รอยเปื้อนหมากฝรั่ง ให้ใช้น้ำแข็งถูให้หมากฝรั่งจับตัว และใช้สันมีดขูดออก แล้วเช็ดด้วยสารละลายเปอร์คลอโรเอทิลีนหรือคาร์บอนเตตราคลอไรด์ หรือสารละลายอื่น