นิทานพื้นบ้านนนทบุรี
ในอดีตกาล สมัยพระพุทธเจ้าชื่อ “ตัณหังกรโน้น” มีป่าใหญ่แห่งหนึ่งชื่อว่า “ป่าชัญญวนา” มีภูเขาใหญ่เทือกหนึ่งชื่อว่า “วิชฌุบรรพต” มีแม่น้ำใหญ่ชื่อว่า “ทัสสนะสาคร” ในป่าใหญ่แห่งนั้น มีช้างโขลงใหญ่ จำนวน ๕๕ เชือก ณ ชายป่าใหญ่แห่งนั้นมีกบฝูงใหญ่ จำนวน ๕๐๐ ตัว ในแม่น้ำใหญ่ทัสสนะสาครมีปูฝูงใหญ่ จำนวน ๕๐๐ ตัว แถบเชิงเขาใหญ่แห่งนั้นมีงูอาศัยอยู่อีก ๕๐๐ ตัว บนยอดเขาใหญ่ “วิชฌุบรรพต” มีครุฑฝูงใหญ่พักอาศัยอยู่ จำนวน ๕๐๐ ตัว มีพระโพธิสัตว์เป็นพญาครุฑปกครองครุฑทั้งหลายฝูงนั้น
ต่อมาวันหนึ่งโขลงช้างทั้ง ๕๐๐ ตัว ได้พากันไปเล่นน้ำที่แม่น้ำ ปู ๕๐๐ ตัว ซึ่งอาศัยอยู่ในแม่น้ำแห่งนั้นก็จับกินช้างโขลงนั้นเสียหมด รอดชีวิตแต่นางพญาช้างเชือกเดียว ซึ่งมีท้องแก่ครบกำหนดคลอดที่ไม่สามารถเดินทางร่วมไปกับโขลงได้ คลอดลูกออกมาเชือกหนึ่ง แม่ช้างก็ได้เลี้ยงดูกันต่อมา
เมื่อปู ๕๐๐ ตัว กินช้าง เสียหมดแล้ว ปูฝูงนั้นก็ไม่สามารถหาอาหารอะไรมากินอีก จึงพากันขึ้นจากแม่น้ำ ขึ้นบนฝั่งเพื่อหาอาหารกินฝ่ายกบ๕๐๐ตัวที่อยู่บนฝั่งเห็นปูขึ้นจากแม่น้ำก็จับกินเป็นอาหารหมดสิ้นเว้นแต่นางพญาปูตัวหนึ่งท้องแก่
ไม่สามารถขึ้นมาบนฝั่งได้และได้คลอดลูกออกมาหนึ่งตัว
เมื่อกบ ๕๐๐ ตัว ฝูงนั้นกินปูหมดแล้ว ก็ไม่มีอาหาร อะไรในที่แห่งนั้นกินอีก กบจึงพากันไปหาอาหารกินแถบเชิงภูเขาลูกนั้น งู ๕๐๐ ตัว เห็นอาหารประเหมาะถึงปากจึงจับกบฝูงนั้นกินเสียหมด เหลือนางพญากบตัวหนึ่งรอดชีวิต ไม่ได้ไปเพราะคลอดลูกกบออกมาตัวหนึ่ง
ครั้นเมื่องูทั้งหลายกินกบหมดแล้วก็ไม่มีอาหารอะไรให้กินอีก จึงพากันออกไปหาอาหารกินเชิงภูเขา ครุฑทั้งฝูงที่อยู่บนยอดเขาแห่งนั้นเห็นงูก็โผผินบินลงมาจับงูกินเสียสิ้น เว้นนางพญางูตัวเดียวคลอดลูกอยู่ ไปไม่ได้ จึงรอดจากความตาย
อ่านเรื่องนิทานเรื่องสัตว์ทั้งสี่ แล้วสะนุกดีครับ