ชนิดของช็อกโกแลต

          ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมที่มีความนิยมมาก โดยมีให้เลือกหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบและรสชาติของช็อกโกแลตนั้นจะแตกต่างกัน เพราะมีส่วนผสม ปริมาณของส่วนผสม ระยะเวลาและอุณหภูมิของการคั่วเมล็ดโกโก้แตกต่างกัน

1. ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (unsweetened chocolate) 

          คือ ช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์ ที่รู้จักกันในนามของ “ช็อกโกแลตฝาด” เป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ใช้ในการอบอาหาร ช็อกโกแลตชนิดนี้มีรสชาติเข้มข้มและลุ่มลึก แต่เมื่อเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะกลายเป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี่ เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้

2. ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate)

          คือ ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนม บางครั้งเรียกว่า “ช็อกโกแลตธรรมดา” แต่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เรียกว่า “ช็อกโกแลตหวาน” โดยกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปกำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35%
ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันไม่ให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของหลอดเลือดหัวใจตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว จนเกิดการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูงอีกด้วย

3. ช็อกโกแลตนม (milk chocolate)

          คือ ช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่า ถ้าหากจะเรียกว่า “ช็อกโกแลตนม” จะต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปกำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25%
          ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม นอกเหนือจากนี้ยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมชนิดนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี 
          ช็อกโกแลตนมในประเทศสหรัฐฯ จะต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12%

4. Chocolate Liquor

          คือ ผลผลิตจากเมล็ดโกโก้บดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตชนิดนี้สามารถทำให้เย็นและแข็งตัวได้โดยการใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้จะไม่หวาน โดยมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53%

5. ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (semi-sweet)

          คือ ช็อกโกแลตที่อยู่ในรูปของเหลวแล้วเพิ่มความหวานลงไป จากนั้นใส่เนยโกโก้ลงไป สีของช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีสีเข้ม ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27%

6. ช็อกโกแลตหวาน (sweet chocolate)

          ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีความหวานมากกว่าช็อกโกแลตแบบหวานน้อย และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 15 % โดยช็อกโกแลตชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำและตกแต่งขนม แต่ก็ยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบหวานน้อย

7. ช็อกโกแลตขาว (white chocolate) 

          ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน แต่จะประกอบด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และกลิ่นวานิลลา ช็อกโกแลตขาวนี้จะแตกหักได้ง่าย หากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้

8. Liquid Chocolate

          ช็อกโกแลตชนิดนี้ไม่มีความหวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด ขวดละ 1 ออนซ์ เนื่องจากช็อกโกแลตชนิดนี้ไม่ละลายจึงสะดวกในการใช้มาก โดยพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ในการทำขนมอบ

9. ช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ (couverture)

          เป็นช็อกโกแลตที่มีลักษณะพิเศษ คือ จะมีความมันเงา โดยปกติมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้สามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบในรูปของส่วนที่เคลือบภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่ มีรสเผ็ด

10. Ganache

          ช็อกโกแลตชนิดนี้มีลักษณะข้นมาก นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต Ganache โดยการเทวิปปิ้งครีมที่นำไปอุ่นลงไปในช็อกโกแลต ทิ้งไว้สักครู่จนช็อกโกแลตเริ่มละลาย คนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น อาจเติมเนยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงางามให้กับกานาชด้วย

11. Confectionery Coating

          เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่างๆ มีสีสันหลากหลาย ลูกกวาดที่ได้จะมีไขมันต่ำ แต่ไม่มีส่วนผสมของเนยโกโก้เหมือนช็อกโกแลตชนิดอื่น ๆ

แหล่งที่มา :  http://pirun.ku.ac.th/~b5141082/page3.html

... ป.ล. ถ้าใครอยากรู้ที่มาของรูปภาพก็ลองเอาเม้าส์ไปจิ้มที่รูปภาพดูนะคะ ...