• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6133808526900ca1b77cce42d5f9e73f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #800000\"></span></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"color: #800000\">ประวัติของช็อกโกแลต</span></strong>\n</p>\n<p>\n          <span style=\"color: #ff99cc\">เมื่อราว 1,400 ปีก่อน ชาวมายาที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกากลาง ได้ดื่มน้ำชนิดหนึ่ง ซึ่งหอมกรุ่น เรียกว่า “ช็อกโกแลทัล” (ฟังดูคุ้นหูกันรึเปล่า….ก็ “ช็อกโกแลต” ยังไงละ = O = )</span>\n</p>\n<blockquote><blockquote><blockquote><blockquote><blockquote><p align=\"left\">\n <span style=\"color: #ff99cc\">          ต้นโกโก้ปลูกกันมากในทวีปอเมริกากลางเมื่อ 2,000 ปีก่อน เติบโตได้ดีในอากาศร้อน ซึ่งในผลโกโก้ จะมีเมล็ดเล็กๆ สีม่วงมากมาย เมื่อนำเมล็ดเหล่านี้ไปตากแห้งและผ่านกระบวนการต่างๆ จนกลายสภาพมาเป็นช็อกโกแลตที่นั่นเอง (^O^) </span>\n </p>\n<p align=\"left\">\n <span style=\"color: #ff99cc\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"150\" src=\"/files/u7190/CristobalColon.jpg\" alt=\"ภาพจาก : http://www.o2blog.com/myblog/blog.php?user=akira2010&amp;id=586&amp;style=1\" height=\"155\" /></span>\n </p>\n<p align=\"left\">\n          <span style=\"color: #ffcc00\"> </span><span style=\"color: #ffcc00\">คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นชาวยุโรปคนแรกที่เห็นและสัมผัสเมล็ดโกโก้ จนกระทั่ง ค.ศ. 1492 ซึ่งเป็น ปีที่โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกา โดยลูกชายของโคลัมบัสซึ่งติดตามไปอเมริกาด้วย ได้พบเรือบดบรรทุกสินค้าของชาวพื้นเมือง เขาจึงได้บันทึกเหตุการณ์ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1502 ไว้ว่า “พวกชนพื้นเมือง อเมริกันถือว่าเมล็ดถั่ว (เมล็ดโกโก้) มีค่ามาก พอเมล็ดถั่วตก พวกเขาทุกคน จะหยุดแล้วเก็บมัน ขึ้นมาราวกับทำลูกตา ตกหล่นอย่างนั้นแหละ” </span>\n </p>\n<p align=\"center\">\n <span style=\"color: #ffcc00\">          โคลัมบัสกับลูกเรือไม่รู้ว่า เมล็ดโกโก้ เป็นสิ่งที่ใช้แทนเงิน เมื่อกลับยุโรป สิ่งของที่โคลัมบัสนำมาถวายกษัตริย์และราชินีของสเปนนั้น มีเมล็ดดำๆ เล็กๆ คล้ายถั่วปะปนอยู่ กษัตริย์เฟอร์ดินันด์มองไม่เห็นคุณค่าของเมล็ดโกโก้ </span>\n </p>\n<p>\n      \n </p>\n<p>\n     <strong><span style=\"color: #ffffff; background-color: #ff9900\">.คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส.</span></strong> \n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #99cc00\">          เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี เมล็ดโกโก้จึงกลายเป็น “สมบัติล้ำค่า” โดย เฮอร์นันโด คอร์เทส เดินทางไปพิชิตจักรวรรดิแอสแท็ค ในช่วงที่คอร์เทสรุกรานแดนเม็กซิโก เขาเห็นชาวแอสแท็คใช้เมล็ดโกโก้ในการเตรียมเครื่องดื่มถวายกษัตริย์ ซึ่งจักรพรรดิ มอนเทซูมา ดื่มน้ำช็อกโกแลต ถึงวันละ 50 ถ้วย เมื่อคอร์เทสและกองทัพสเปนมาถึง พระองค์ (คิดว่าคอร์เทสเป็นเทพเจ้า) ทรงให้การต้อนรับด้วยน้ำช็อกโกแลตที่ใส่ในภาชนะทองคำอย่างหรูหราราวกับเป็นอาหารจากแดนสวรรค์</span>\n </p>\n<p>\n <img border=\"0\" align=\"right\" width=\"200\" src=\"/files/u7190/cacao01.jpg\" alt=\"ภาพจาก : http://www.sema.go.th/files/Content/Technic/k4/0038/emperor/4/History3.htm\" height=\"134\" />\n </p>\n<p align=\"left\">\n <span style=\"color: #99cc00\">          คอร์เทสเขียนบันทึกไว้ว่า กษัตริย์มอนเทซูมาดื่ม “ซอคาแลทัล” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เพิ่มพลังและขับไล่ ความเหนื่อยอ่อน โดยไม่ต้องทานอาหาร แต่ซอคาแลทัล มีรสขมมาก</span>\n </p>\n<p align=\"left\">\n <span style=\"color: #99cc00\">        </span><span style=\"color: #33cccc\">  <span style=\"color: #99cc00\">คนที่จะถูกสังเวยชีวิตในพิธีบูชายัญมนุษย์ จะได้ดื่มน้ำช็อกโกแลตเพื่อกระตุ้นจิตใจให้มีชีวิตชีวา (เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย TOT ) โดยมีการถวายน้ำช็อกโกแลตให้เทพเจ้าเค็ทซัลคอทัลด้วย</span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #33cccc\"></span><span style=\"color: #99cc00\">          ตามตำนานเล่าว่า เทพเค็ทซัลคอทัลหายไปจากโลก เพราะถูกสวรรค์ลงโทษที่นำช็อกโกแลต ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์จากแดนสวรรค์มาให้มนุษย์ลิ้มลอง แต่สิ่งที่ท่านทิ้งไว้เป็นที่ระลึก คือ ต้นโกโก้ ท่านจึงถูกขนานนามว่า <strong>“เทพแห่งต้นโกโก้”</strong> </span>\n </p>\n<p>\n          <span style=\"color: #8d28b8\"><span style=\"color: #33cccc\"> <span style=\"color: #cc99ff\">ในปี 1529 เมื่อคอร์เทสปราบพวกแอสแท็คได้สำเร็จ เขาได้นำเมล็ดโกโก้กลับไปที่ประเทศสเปนด้วย จากนั้นรสชาติของน้ำช็อกโกแลตจึงได้มีการปรับปรุง คือ มีการเพิ่มน้ำตาลทราย วานิลลา กลิ่นอบเชยลงไป เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะพวกผู้ดี ดังนั้นสเปนจึงสร้างไร่โกโก้ในทวีปอเมริกากลางจนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต แต่เก็บศิลปะการทำน้ำช็อกโกแลตไว้เป็นความลับจากพวกชนชาติยุโรปนานเกือบร้อยปี</span></span><span style=\"color: #cc99ff\"> </span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #8d28b8\"><span style=\"color: #cc99ff\">         <span style=\"color: #33cccc\"> </span></span><span style=\"color: #8c35b5\"><span style=\"color: #cc99ff\">พระชาวสเปนได้เก็บการทำน้ำช็อกโกแลตไว้เป็นความลับ แต่ในที่สุดก็รั่วไหลออกมา ภายในเวลาอันรวดเร็วผู้คนทั่วยุโรป ต่างชื่นชอบน้ำช็อกโกแลตซึ่งถือเป็นอาหารอร่อยที่เสริมสุขภาพ มีการดื่มกันที่ราชสำนักในฝรั่งเศส น้ำช็อกโกแลตได้เข้ามาในอังกฤษ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1675 ร้านน้ำช็อกโกแลตแห่งแรกของอังกฤษก็เปิดขึ้น</span> </span> </span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #8d28b8\"><span style=\"color: #800000\"><img border=\"0\" align=\"left\" width=\"300\" src=\"/files/u7190/6_0.jpg\" alt=\"ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3711\" height=\"159\" /></span>         <span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #33cccc\"> </span><span style=\"color: #0000ff\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\">การดื่มน้ำช็อกโกแลตในยุคนั้น ถือเป็นเรื่องทันสมัย เป็นสิ่งที่แสดงถึงรสนิยมสูง บรรดาผู้ดีมีสกุลเท่านั้นจึงมีสิทธิลิ้มรส เมื่อเรือกลไฟถูกประดิษฐ์ขึ้น ทำให้สามารถขนส่งเมล็ดโกโก้ได้เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งปี 1730 น้ำช็อกโกแลตมีราคาถูกลง คนธรรมดาทั่วไปจึงมีโอกาสได้ลิ้มลองบ้าง การประดิษฐ์เครื่องบดเมล็ดโกโก้ ในปี 1828 ยิ่งทำให้น้ำช็อกโกแลตราคาถูกลงไปอีก อีกทั้งยังช่วยกรองไขมันของเมล็ดโกโก้ออกไป ทำให้รสชาติที่น่าหลงใหลยิ่งขึ้น จากนั้นมาการดื่มน้ำช็อกโกแลตก็แพร่หลายมาจนทุกวันนี้ </span></span></span></span></span><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"> </span></span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\">          ในศตวรรษที่ 19 ช็อกโกแลตมีการเปลี่ยนรูปร่าง คือ ในปี 1847 บริษัทในอังกฤษได้ผลิต “ช็อกโกแลตแท่ง” ที่กินได้ และแดเนียล พีเทอร์ ได้หาทางผสมนมลงไปใน ช็อกโกแลต กลายเป็นช็อกโกแลตนม (ที่เรากินอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ -3-) จนกระทั่งปี 1765 ได้มีโรงงานช็อกโกแลตแห่งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศอเมริกา      <span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #33cccc\"> </span> </span> </span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #bc8b57\"></span></span></span><span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\">          ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลสหรัฐฯตระหนักถึงบทบาทสำคัญของช็อกโกแลต ในการบำรุงขวัญกำลังใจและสุขภาพของทหาร จึงได้ส่งเมล็ดโกโก้ไปให้กองทัพทหารเป็นจำนวนมาก จนถึงทุกวันนี้ทหารสหรัฐฯ ยังได้รับช็อกโกแลตเป็นเสบียงติดตัว แม้แต่นักบินอวกาศก็ยังนำช็อกโกแลตออกไปกินนอกโลกด้วย (มนุษย์ต่างดาวคงน้ำลายไหลแย่เลย ^O^)</span></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"> </span></span></span></span></span> <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #800000\"><img border=\"0\" align=\"right\" width=\"220\" src=\"/files/u7190/1_3.jpg\" alt=\"ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3711\" height=\"308\" /></span></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #800000\"></span></span></span></span></span>\n </p>\n<p> <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #800000\"></span></span></span></span></span><span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #800000\"><span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"></span></span></span></span></span></span></span></span></span></p>\n<p style=\"text-align: center\">\n <img border=\"0\" width=\"400\" src=\"/files/u7190/7_1.jpg\" alt=\"ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3711\" height=\"152\" />\n </p>\n<p> </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"></span></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"></span></span></span></span></span><span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"></span></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #ffffff\">...</span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #ffffff\">...</span>\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #ffffff\">...</span>\n </p>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n<p>\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #ff99cc; background-color: #993366\"><span style=\"color: #ff99cc; background-color: #993300\"><strong># เป็นไงบ้างคะ คราวนี้รู้แล้วรึยังว่า เจ้าหนู Chocolate เนี่ยเดินทางมานานแสนนานขนาดไหนกว่าจะมาเป็น Chocolate #</strong></span></span></span></span></span></span>\n </p>\n<blockquote><p align=\"center\">\n <span style=\"color: #339966\"><span style=\"color: #bc8b57\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #cd853f\"><span style=\"color: #ff99cc; background-color: #993366\"><span style=\"color: #ff99cc; background-color: #993300\"><strong># ให้พวกเราลิ้มลองกันจนถึงทุกวันนี้ ^_^</strong></span> #</span></span></span></span></span>\n </p>\n<p>\n แหล่งที่มา : <a href=\"http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3711\">http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&amp;No=3711</a>\n </p>\n<p align=\"center\">\n <span style=\"color: #993366\"><span style=\"color: #ff99cc; background-color: #993300\">... ป.ล. ถ้าใครอยากรู้ที่มาของรูปภาพก็ลองเอาเม้าส์ไปจิ้มที่รูปภาพดูนะคะ ...</span></span> \n </p>\n<p>\n &nbsp;\n </p>\n</blockquote></blockquote></blockquote></blockquote></blockquote></blockquote>', created = 1729455854, expire = 1729542254, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6133808526900ca1b77cce42d5f9e73f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

Chocolate...sweet & bitter

รูปภาพของ sss27134

ประวัติของช็อกโกแลต

          เมื่อราว 1,400 ปีก่อน ชาวมายาที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกากลาง ได้ดื่มน้ำชนิดหนึ่ง ซึ่งหอมกรุ่น เรียกว่า “ช็อกโกแลทัล” (ฟังดูคุ้นหูกันรึเปล่า….ก็ “ช็อกโกแลต” ยังไงละ = O = )

          ต้นโกโก้ปลูกกันมากในทวีปอเมริกากลางเมื่อ 2,000 ปีก่อน เติบโตได้ดีในอากาศร้อน ซึ่งในผลโกโก้ จะมีเมล็ดเล็กๆ สีม่วงมากมาย เมื่อนำเมล็ดเหล่านี้ไปตากแห้งและผ่านกระบวนการต่างๆ จนกลายสภาพมาเป็นช็อกโกแลตที่นั่นเอง (^O^)

ภาพจาก : http://www.o2blog.com/myblog/blog.php?user=akira2010&id=586&style=1

          คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นชาวยุโรปคนแรกที่เห็นและสัมผัสเมล็ดโกโก้ จนกระทั่ง ค.ศ. 1492 ซึ่งเป็น ปีที่โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกา โดยลูกชายของโคลัมบัสซึ่งติดตามไปอเมริกาด้วย ได้พบเรือบดบรรทุกสินค้าของชาวพื้นเมือง เขาจึงได้บันทึกเหตุการณ์ในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1502 ไว้ว่า “พวกชนพื้นเมือง อเมริกันถือว่าเมล็ดถั่ว (เมล็ดโกโก้) มีค่ามาก พอเมล็ดถั่วตก พวกเขาทุกคน จะหยุดแล้วเก็บมัน ขึ้นมาราวกับทำลูกตา ตกหล่นอย่างนั้นแหละ” 

          โคลัมบัสกับลูกเรือไม่รู้ว่า เมล็ดโกโก้ เป็นสิ่งที่ใช้แทนเงิน เมื่อกลับยุโรป สิ่งของที่โคลัมบัสนำมาถวายกษัตริย์และราชินีของสเปนนั้น มีเมล็ดดำๆ เล็กๆ คล้ายถั่วปะปนอยู่ กษัตริย์เฟอร์ดินันด์มองไม่เห็นคุณค่าของเมล็ดโกโก้ 

     

    .คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส. 

          เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี เมล็ดโกโก้จึงกลายเป็น “สมบัติล้ำค่า” โดย เฮอร์นันโด คอร์เทส เดินทางไปพิชิตจักรวรรดิแอสแท็ค ในช่วงที่คอร์เทสรุกรานแดนเม็กซิโก เขาเห็นชาวแอสแท็คใช้เมล็ดโกโก้ในการเตรียมเครื่องดื่มถวายกษัตริย์ ซึ่งจักรพรรดิ มอนเทซูมา ดื่มน้ำช็อกโกแลต ถึงวันละ 50 ถ้วย เมื่อคอร์เทสและกองทัพสเปนมาถึง พระองค์ (คิดว่าคอร์เทสเป็นเทพเจ้า) ทรงให้การต้อนรับด้วยน้ำช็อกโกแลตที่ใส่ในภาชนะทองคำอย่างหรูหราราวกับเป็นอาหารจากแดนสวรรค์

ภาพจาก : http://www.sema.go.th/files/Content/Technic/k4/0038/emperor/4/History3.htm

          คอร์เทสเขียนบันทึกไว้ว่า กษัตริย์มอนเทซูมาดื่ม “ซอคาแลทัล” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เพิ่มพลังและขับไล่ ความเหนื่อยอ่อน โดยไม่ต้องทานอาหาร แต่ซอคาแลทัล มีรสขมมาก

          คนที่จะถูกสังเวยชีวิตในพิธีบูชายัญมนุษย์ จะได้ดื่มน้ำช็อกโกแลตเพื่อกระตุ้นจิตใจให้มีชีวิตชีวา (เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย TOT ) โดยมีการถวายน้ำช็อกโกแลตให้เทพเจ้าเค็ทซัลคอทัลด้วย

          ตามตำนานเล่าว่า เทพเค็ทซัลคอทัลหายไปจากโลก เพราะถูกสวรรค์ลงโทษที่นำช็อกโกแลต ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มศักดิ์สิทธิ์จากแดนสวรรค์มาให้มนุษย์ลิ้มลอง แต่สิ่งที่ท่านทิ้งไว้เป็นที่ระลึก คือ ต้นโกโก้ ท่านจึงถูกขนานนามว่า “เทพแห่งต้นโกโก้” 

          ในปี 1529 เมื่อคอร์เทสปราบพวกแอสแท็คได้สำเร็จ เขาได้นำเมล็ดโกโก้กลับไปที่ประเทศสเปนด้วย จากนั้นรสชาติของน้ำช็อกโกแลตจึงได้มีการปรับปรุง คือ มีการเพิ่มน้ำตาลทราย วานิลลา กลิ่นอบเชยลงไป เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่นิยมมาก โดยเฉพาะพวกผู้ดี ดังนั้นสเปนจึงสร้างไร่โกโก้ในทวีปอเมริกากลางจนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต แต่เก็บศิลปะการทำน้ำช็อกโกแลตไว้เป็นความลับจากพวกชนชาติยุโรปนานเกือบร้อยปี

          พระชาวสเปนได้เก็บการทำน้ำช็อกโกแลตไว้เป็นความลับ แต่ในที่สุดก็รั่วไหลออกมา ภายในเวลาอันรวดเร็วผู้คนทั่วยุโรป ต่างชื่นชอบน้ำช็อกโกแลตซึ่งถือเป็นอาหารอร่อยที่เสริมสุขภาพ มีการดื่มกันที่ราชสำนักในฝรั่งเศส น้ำช็อกโกแลตได้เข้ามาในอังกฤษ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1675 ร้านน้ำช็อกโกแลตแห่งแรกของอังกฤษก็เปิดขึ้น 

ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=3711          การดื่มน้ำช็อกโกแลตในยุคนั้น ถือเป็นเรื่องทันสมัย เป็นสิ่งที่แสดงถึงรสนิยมสูง บรรดาผู้ดีมีสกุลเท่านั้นจึงมีสิทธิลิ้มรส เมื่อเรือกลไฟถูกประดิษฐ์ขึ้น ทำให้สามารถขนส่งเมล็ดโกโก้ได้เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งปี 1730 น้ำช็อกโกแลตมีราคาถูกลง คนธรรมดาทั่วไปจึงมีโอกาสได้ลิ้มลองบ้าง การประดิษฐ์เครื่องบดเมล็ดโกโก้ ในปี 1828 ยิ่งทำให้น้ำช็อกโกแลตราคาถูกลงไปอีก อีกทั้งยังช่วยกรองไขมันของเมล็ดโกโก้ออกไป ทำให้รสชาติที่น่าหลงใหลยิ่งขึ้น จากนั้นมาการดื่มน้ำช็อกโกแลตก็แพร่หลายมาจนทุกวันนี้ 

          ในศตวรรษที่ 19 ช็อกโกแลตมีการเปลี่ยนรูปร่าง คือ ในปี 1847 บริษัทในอังกฤษได้ผลิต “ช็อกโกแลตแท่ง” ที่กินได้ และแดเนียล พีเทอร์ ได้หาทางผสมนมลงไปใน ช็อกโกแลต กลายเป็นช็อกโกแลตนม (ที่เรากินอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ -3-) จนกระทั่งปี 1765 ได้มีโรงงานช็อกโกแลตแห่งแรกเกิดขึ้นที่ประเทศอเมริกา         

          ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลสหรัฐฯตระหนักถึงบทบาทสำคัญของช็อกโกแลต ในการบำรุงขวัญกำลังใจและสุขภาพของทหาร จึงได้ส่งเมล็ดโกโก้ไปให้กองทัพทหารเป็นจำนวนมาก จนถึงทุกวันนี้ทหารสหรัฐฯ ยังได้รับช็อกโกแลตเป็นเสบียงติดตัว แม้แต่นักบินอวกาศก็ยังนำช็อกโกแลตออกไปกินนอกโลกด้วย (มนุษย์ต่างดาวคงน้ำลายไหลแย่เลย ^O^)

  ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=3711

ภาพจาก : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=3711

 

 

...

...

...

 

# เป็นไงบ้างคะ คราวนี้รู้แล้วรึยังว่า เจ้าหนู Chocolate เนี่ยเดินทางมานานแสนนานขนาดไหนกว่าจะมาเป็น Chocolate #

# ให้พวกเราลิ้มลองกันจนถึงทุกวันนี้ ^_^ #

แหล่งที่มา : http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=3711

... ป.ล. ถ้าใครอยากรู้ที่มาของรูปภาพก็ลองเอาเม้าส์ไปจิ้มที่รูปภาพดูนะคะ ... 

 

สร้างโดย: 
sss27134
รูปภาพของ ssspoonsak

สุดยอด แต่มีเรื่องสัดส่วนของภาพบางภาพ รู้สึกแปลกๆนะ ลองแก้ไขดู
อย่าลืมส่งประกวด
แต่ต้องสร้างให้มากกว่า 20 node พร้อมลิ้งค์ด้วย

-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน

รูปภาพของ sss27138

บังเอิญว่าไม่ค่อยกินช็อกโกแลตอ่า

แต่เค้าชอบกินเค้กช็อกโกแลตน้า~~

 ชาวราศีกุมภ์ชอบอะไรที่ค่อนข้างจะกุ๊กกิ๊กน่ารัก

เพราะคนราศีนี้น่ารักไง 55555

(พอเม้นท์ปั๊บมีคนหมั่นไส้ปุ๊บเลย :P)

รูปภาพของ sss27106

กิน Chocolate มากๆเดี๋ยวก็อ้วนหรอก Smile

เออ!!!! ช้างกินอ้อยไม่ไช่เหรอ อิอิ Laughing

นี่อย่าลืม!!มาดูชีวะ ของเค้าด้วย หัดไปดูของเพื่อนบ้างเซ่

รูปภาพของ ssspoonsak

ดีแล้วนะ ลองหาข้อมูลเรื่องเดียวกันจากเว็บอื่นมาให้คนอ่านลองเปรียบเทียบดู จะดูดีกว่าหรือ ลองดูนะ

-----------------------------------------------------------------------------------------
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 350 คน กำลังออนไลน์