รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD

ชื่อเรื่อง          รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติดโดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค                          STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๙ จังหวัดนราธิวาส

ผู้รายงาน        มารียัม  ตาเล๊ะ

ปีที่ศึกษา                   2563

บทคัดย่อ 

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๙ จังหวัดนราธิวาส ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส สำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD จำนวน 8 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD จำนวน 1 ชุด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่าประสิทธิภาพ ผลการศึกษาพบว่า

                        1. ชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธี
การสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ E1/E2  เท่ากับ 82.60/83.53 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80

                    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนการเรียนรู้

                    3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ วิชาสุขศึกษา เรื่อง ยาและสารเสพติด โดยใช้วิธีการสอนแบบร่วมมือด้วยเทคนิค STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 499 คน กำลังออนไลน์