“สอนเป็น เห็นผล คนยกย่อง”สอนเด็กอ่อนอย่างไรให้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ม.6 ได้คุณภาพ
“สอนเป็น เห็นผล คนยกย่อง”
สอนเด็กอ่อนอย่างไรให้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ม.6 ได้คุณภาพ
"ครูต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในหัวใจของลูกศิษย์ว่า...ลูกศิษย์ทุกคนสามารถพัฒนาได้...สิ่งสำคัญเด็กไทยไม่แพ้เด็กชาติใด ๆ ในโลกนี้"
“สอนเป็น”
ครูต้องรู้และเข้าใจหลักสูตรสถานศึกษาอย่างชัดเจน และลึกซึ้ง โดยเฉพาะหลักสูตรในรายวิชาที่เราจะสอน และต้องดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตร เริ่มจากวิเคราะห์ตัวชี้วัดในรายวิชาที่เราจะสอนให้ชัดเจน
ว่า ตัวชี้วัดแต่ละตัว ต้องการให้เด็กรู้อะไร และทำอะไรได้ และครูจะสอนอย่างไร ด้วยวิธีการใด หลังจากนั้นก็นำหลักสูตรสู่ห้องเรียนด้วยการปฏิบัติ ดังนี้
- เสริมแรง ให้เด็กรักการอ่าน และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
- ตั้งเป้าหมาในการเรียนให้ชัดเจน โดยใช้ข้อมูลผลคะแนนเฉลี่ยผลการสอบ (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ให้เด็กรับทราบว่า เราอยู่ลำดับที่เท่าไรของจังหวัดและของระดับเขตพื้นที่
โดยกำหนดเป้าหมายร่วมกับเด็กว่า คะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียนต้องสูงกว่าระดับประเทศ และคะแนนเฉลี่ยระดับโรงเรียนต้องเป็นลำดับที่เท่าไรของเขตพื้นที่ เป็นต้น
3. ฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญทั้งห้องเรียน ครูสุ่มถามนักเรียนสัก 3-5 คน เพื่อตรวจสอบว่าเด็กอ่านจับใจความเป็นหรือไม่ ชมนักเรียนที่อ่านแล้วจับใจความสำคัญได้ดี ปรับแก้ไขเด็กที่อ่านแล้วจับใจคามสำคัญไม่ได้ ฝึกไปหลาย ๆ รอบ จนกว่าเด็กจะได้ครับ
4. เมื่อเด็กอ่านคล่องแล้ว ครูดำเนินการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยให้เด็กอ่านมาจากบ้านในทุกเรื่อง ในแต่ละตัวชี้วัดที่จะเรียน (เน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง อ่านเอง ศึกษาเอง) ครูให้คำปรึกษา สร้างเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ข้อสอบที่ตรงตัวชี้วัด และสะท้อนข้อสอบระดับชาติ
5. ครูวัดผลตามตัวชี้วัด ให้ข้อมูลย้อนกลับเด็กที่เรียนดี เสริมแรง ให้กำลังใจ แก้ไข สอนซ่อมเสริมนักเรียนที่เรียนอ่อน สอนจนกว่าเด็กจะได้ ในทุกตัวชี้วัด และวัดผลซ้ำหลาย ๆ ครั้ง จนกระทั่งเด็กผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ครูควรตั้งเกณฑ์ให้สูงไว้ เพื่อท้าทายความสามารถของเด็กให้เกิด ความพยายาม
6. ฝึกทักษะการทำข้อสอบให้เด็กบ่อย ๆ ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
7. ครูต้องใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย โดยเน้นให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง
8. การวัดผลสำคัญมาก ครูต้องวัดผลด้วยวิธีที่หลากหลาย เช่น สอบปากเปล่า อภิปรายสอบข้อเขียน อัตนัย ปรนัย หรือให้เขียนสื่อความใน แต่ละตัวชี้วัด เป็นต้น
9. ครูต้องติดตามข้อมูลการเรียนรู้รายบุคคล โดยแบ่งกลุ่มเด็กเก่ง กลาง อ่อน ต้องส่งเสริมเด็กเก่งซ่อมเสริมเด็กที่เรียนปานกลาง และเด็กอ่อน ต้องทำสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะได้ผลมากที่สุด
10. ให้รางวัล เกียรติบัตร ของขวัญ สุดยอดนักอ่านเพื่อเป็นต้นแบบและเป็นขวัญกำลังใจให้เด็กๆ
11. ครูต้องวางแผนว่าข้อสอบ 5 สาระ จะออกสาระละกี่ข้อในการสอบระดับชาติ ครูเตรียมความพร้อม จัดตารางการสอบให้นักเรียนฝึก ทำข้อสอบจำนวนหลาย ๆ ชุด ตั้งเกณฑ์ให้สูง เช่น ต้องผ่านร้อยละ 80 ขึ้นไป เด็กคนใดสอบไม่ผ่านก็ต้องมาสอบซ่อมจนกว่าจะผ่าน และครบทุกชุดที่ครูกำหนด
12. ในกรณีที่เด็กผ่านเกณฑ์ครบทุกชุด ครูต้องเสริมแรงให้รางวัลต่าง ๆ ตามความเหมาะสม อันจะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรักการอ่านและใฝ่เรียนรู้ เป็นต้น
“เห็นผล”
ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) วิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ปีการศึกษา 2556 ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 3 ของจังหวัดสระบุรี จำนวน 21 โรงเรียน
ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 13 ของ (สพม.4 สระบุรี-ปทุมธานี) จำนวน 42 โรงเรียน
ปีการศึกษา 2557 ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 3 ของจังหวัดสระบุรี จำนวน 21 โรงเรียน
ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 9 ของ (สพม.4 สระบุรี-ปทุมธานี) จำนวน 42จำนวน
ปีการศึกษา 2558 ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 2 ของจังหวัดสระบุรี จำนวน 21 โรงเรียน
ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 7 ของ (สพม.4 สระบุรี-ปทุมธานี) จำนวน 42 โรงเรียน
ปีการศึกษา 2559 ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 2 ของจังหวัดสระบุรี จำนวน 21 โรงเรียน
ได้คะแนนเฉลี่ยเป็นลำดับที่ 5 ของ (สพม.4 สระบุรี-ปทุมธานี) จำนวน 42 โรงเรียน
“คนยกย่อง”
ปีพุทธศักราช 2553 / รางวัลครูผู้สอนดีเด่น สาขาสังคมศึกษา จากสำนักงานคุรุสภา
ปีพุทธศักราช 2554
1.รางวัลครูผู้สอนดีเด่น สาขาสังคมศึกษา จากสำนักงานคุรุสภา
2.รางวัลครูสอนดีและได้รับทุนครูสอนดี จาก (สสค.)
ปีพุทธศักราช 2559 / รางวัลเพชรเทพสตรี ศิษย์เก่าดีเด่น สาขาสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ เป็นต้น