ที่มาของ "แสงหนึ่งคือรุ้งงาม"
![รูปภาพของ supatkul รูปภาพของ supatkul](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-12.jpg)
รำลึก"แสงหนึ่งคือรุ้งงาม" สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ
![](http://www.matichon.co.th/news-photo/khaosod/2008/01/lad01040151p1.jpg)
การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ยังความโศกเศร้าแก่พสกนิกรชาวไทยที่ยังคงรำลึกถึงพระองค์และพระกรณียกิจมาก มายที่ยังประโยชน์แก่สังคมไทย หนึ่งในการรำลึกนั้นถ่ายทอดตามนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นาง เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ "แสงหนึ่งคือรุ้งงาม" ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา จัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม พระธิดา เป็นแม่งานใหญ่จัดถวาย
นิทรรศการนี้ถ่ายทอดความหมายอันหลากหลายของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อประเทศและประชาชนชาวไทย ในรูปแบบของการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพ วีดิทัศน์ และสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ อาทิ ไปรษณียบัตร ชุดเครื่องเงินของเล่น สมุดแสตมป์ ซึ่งทรงสะสมขณะทรงพำนักอยู่สวิตเซอร์แลนด์ เก้าอี้เสียงดนตรี หนังสือนิทานสำหรับเด็กที่ทรงแปลจากภาษาอังกฤษเป็นไทย ฯลฯ
ในการจัดแสดงครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จทรงเปิดงานด้วยพระองค์เอง หลังทรงตั้งพระทัยที่จะเสด็จมาทอดพระเนตรนิทรรศการ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในการจัดนิทรรศการครั้งนี้ เสด็จฯ มาร่วมทอดพระเนตรด้วย ณ แฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยนิทรรศการส่วนนี้จัดให้ประชาชนเข้าชมระหว่างวันที่ 4-15 พ.ค.
จากนั้นทางกระทรวงวัฒนธรรมได้นำนิทรรศ การจัดแสดงต่อไปในส่วนภูมิภาค ได้แก่ มหา วิทยาลัยศิลปากร วันที่ 21 พ.ค.-3 มิ.ย. มหา วิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 19 มิ.ย.-2 ก.ค. มหา วิทยาลัยบูรพา วันที่ 6-16 ก.ค. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วันที่ 15-24 ส.ค. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 2-12 พ.ย. และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง วันที่ 16-25 พ.ย. และจากนั้นจึงไปจัดเป็นนิทรรศการถาวร ณ หอพระราชประวัติ พระตำหนักดอยตุง จังหวัดเชียงราย
ที่มาของชื่อนิทรรศการ "แสงหนึ่งคือรุ้งงาม" นั้น บรรยายไว้ในใจความส่วนหนึ่งว่า ความเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ นั้น เป็นที่รับทราบกันในหมู่ประชาชนยุคปัจจุบันแต่เพียงว่า ทรงมีพระอิสริยศักดิ์เป็น "สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ" ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่แท้จริงแล้ว หากได้มีการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลลงลึกถึงพระกรณียกิจ พระประวัติ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ รวมถึงพระจริยวัตร จะพบว่า ทรงมีคุณลักษณะที่โดดเด่นอุปมาอุปไมยได้กับ "แสงหนึ่ง" คือ เปรียบดุจแสงที่ส่องสว่าง และส่องฉายอาบให้เราได้มองเห็นความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ของสรรพสิ่งในโลกนี้ แต่ผู้คนมักไม่ได้มองเห็น "แสง" นั้น
ถ้าจะเปรียบตามจริงแล้ว ยังทรงเปรียบประดุจแสงที่ส่องฉาย และอาบสะท้อนให้ผู้คนได้มองเห็นความยิ่งใหญ่ ความสวยงามของพระราชบิดา พระราชมารดา พระอนุชาทั้งสองพระองค์ตลอดมาโดยผ่านพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ รวมถึงพระกรณียกิจ พระจริยวัตร พระนิพนธ์หลากหลายมากมายนับไม่ถ้วน และ "แสงหนึ่ง" นี่เอง ยังส่องสว่างให้ประชาราษฎร์ไทยในแผ่นดินได้มีชีวิตที่ดีขึ้น สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นจากพระกรณียกิจผ่านองค์กรและมูลนิธิต่างๆ
สำหรับการอุปมาอุปไมยเปรียบเปรยกับ "รุ้งงาม" เพื่อสื่อความหมาย หรือคุณลักษณะที่ซ่อนอยู่ใน "แสงหนึ่ง" ซึ่งเมื่อผนวกรวมกันแล้วก็สะท้อน ให้เห็นถึงความหมาย หรือคุณลักษณะอันงดงามที่อยู่ภายในแสง ดุจแสงหนึ่ง เมื่อวันฟ้าคลี่ ที่ปรากฏให้เห็นคือ "รุ้งงาม"
ในนิทรรศการ "แสงหนึ่งคือรุ้งงาม" ได้ถ่ายทอดความเป็นพระองค์ท่าน ผ่านคุณลักษณะทั้ง 7 ประการ ได้แก่ ความสง่างาม ความเรียบง่าย ความมีพลังสร้างสรรค์ ความรอบรู้ ความเมตตา การให้เกียรติผู้อื่น และการอุทิศพระองค์เพื่อส่วนรวม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมนิทรรศการได้นำไปเป็นแบบอย่างการดำเนิน ชีวิต โดยยึดแนวทางการดำเนินชีวิตของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นแสงส่องนำทางสู่อนาคต