ค่ะ ขอบคุณค่ะ

สนใจในความคิดของเด็ก และสนับสนุนให้เด็กรู้จักคิดและแก้ไขปัญหา

ขอบคุณคับ

เด็กไทยถ้าตั้งใจทำอะไรจริงจัง รับรองไม่แพ้ชาติใด

*

เนื้อหาคุณภาพ ต้องยอมรับว่าเด็กรุ่นใหม่ มีความสามารถไม่แพ้ชาติอื่นเลย หากได้รับการสนับสนุน
อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันในระดับประเทศ เด็กไทยเราสามารถเอา
ชนะประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี่อย่างญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา น่าชื่นชมจริงๆ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ

ข้อมูลดีๆเพียบเลย. ขอบคุณมากนะครับ

..

ขอบคุณครับ นำไปเป็นแนวทางได้เลย

อาจารย์ที่เครพครับ ผมน.ร.ชั้นม.2 ตอนนี้ต้องการโครงงานวิทย์ด่วนครับ รบกวนอาจารย์ช่วยเสนอชื่อโครงงานวิทย์ให้หน่อยคับ มาที่ Guy_21yaguza@hotmail.com ขอบคุณครับ

คุณครูขาหนูเป็นนักศึกษาฝึกสอน

หนูขาดูตัวอย่างโครงงานวิทย์ประเภทประดิษฐ์

ที่พอจะให้เด็กป.5ทำได้บ้าไหมค่ะ

ขอรบกวนหน่อยค่ะ

ขอบคุณนะค่ะ

โครงงานวิทยาศาสตร์ (เคมี)
เรื่อง การทำน้ำแข็งแห้งจากโซเดียมอะซิเตด
ผู้จัดทำ :: 1.กษมา เอื้อชีวกุล เลขที่ 6 ม.5/6
2.สุรีพร ดอกกลาง เลขที่ 10 ม.5/6
3.จิระพัฒน์ มนตรีเศวตกุล เลขที่ 19 ม.5/6
อาจารย์ที่ปรึกษา ::
1.คุณครูธนพล กลิ่นเมือง
2.คุณครูกุลรณี อารีมิตร
3.คุณครูพวงทิพย์ วีระณรงค์
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน :: ในปัจจุบันนี้น้ำแข็งแห้งที่ใช้กันอยู่ผลิตมาจาก แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกทำให้บริสุทธิ์และปราศจากความชื้นแล้วนำมาเพิ่มความดันและลดอุณหภูมิจนมีความดันประมาณ 18 บรรยากาศและอุณหภูมิที่ -25 องสาเซลเซียส แล้วอัดผ่านรูพรุนจะได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง แล้วจึงนำเกล็ดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มาอัดเป็นก้อนจึงจะได้น้ำแข็งแห้งซึ่งเป็นวิธีที่ยากและเสียเวลามากพอสมควร พวกเราจึงได้คิดหาวิธีการทำน้ำแข็งแห้งในเวลาสั้น และใช้วัตถุดิที่หาง่ายและถูกกว่า คือการทำน้ำแข็งแห้งจาก โซเดียมอาซิเตดกับน้ำ

วัตถุประสงค์ :: 1.เพื่อลดเวลาและต้นทุนในการผลิตน้ำแข็งแห้ง
2.เพื่อใช้แช่แข็งอาหาร ,ผักผลไม้,ไอศกรีม,ใช้ในการขนส่งเวชภัณฑ์ และทำหมอกควันบนเวที
สมมติฐาน :: 1.ถ้าสามารถทำน้ำแข็งจากโซเดียมอะซิเตดกับน้ำได้ แล้วจะสามารถลดเวลาและต้นทุนในการผลิต
2.ถ้าสามารถทำน้ำแข็งแห้งจากโซเดียมอะซิเตดกับน้ำได้ แล้วจะสามารถนำมาใช้แช่แข็งอาหาร ,ผักผลไม้,ไอศกรีม, ใช้ ในการขนส่งเวชภัณฑ์ และทำหมอกควันบนเวที และใช้ในอุตสาหกรรมความด้านทำสะอาดเครื่องจักร

วิธีการดำเนินการ :: 1.ค้นหาหัวข้อโครงงานวิทยาศาสตร์(เคมี)
2.สมาชิกแบ่งกันหาข้อมูล
3.ศึกษาวิธีการทำโครงงาน
และใช้ในอุตสาหกรรมความด้านทำสะอาดเครื่องจักร

4.ทดลองทำน้ำแข็งแห้งจากโซเดียมอะซิเตด
5.สรุปผล
6.จัดทำชิ้นโครงงานเพื่อเตรียมการนำเสนอ
แผนปฏิบัติงาน ::
21-26พ.ค. คิดหัวข้อโครงงาน
27-29พ.ค. เขียนบทคัดย่อ
30พ.ค.-10มิ.ย. หาข้องมูล
11-30 มิ.ย. ประดิษฐ์น้ำแข็งแห้ง และทดลอง จัดทำโครงงานและนำเสนอ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :: สามารถผลิตน้ำแข็งแห้งได้ภายในเวลาอันสั้นและต้นทุนการผลิตต่ำ เพื่อใช่ในการแช่แข็งสิ่งต่างๆได้

***โครงงาน ประเภทฟิสิกส์

***ชื่อโครงงาน : Magna doodle

***ชื่อผู้ทำโครงงาน น.ส.ญาดา มุขอารีวัฒนา ม.5/8 เลขที่ 10
น.ส.นาตยา บุตรครุธ ม.5/8 เลขที่ 12
น.ส.กลธิรา เชาว์วุฒิประสิทธิ์ ม.5/8 เลขที่ 13
น.ส.ศิวพร ฉลองขวัญ ม.5/8 เลขที่ 14
***ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ พวงทิพย์ วีระณรงค์
อาจารย์ กุลรณี อารีมิตร
อาจารย์ ธนพล กลิ่นเมือง

***ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ความเป็นมา
เนื่องจากโลกของเราในตอนนี้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อนกับโลกของเรา กระดาษที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้ก็นำมาจากต้นไม้โดยทั่วไปที่ข้าพเจ้าเห็นคือใช้กระดาษกันอย่างสิ้นเปลืองเพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติทางกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดว่ากระดานMagna doodleนี้สามารถทำให้โลกของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีโดยไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและกองขยะกระดาษมากมาย จึงได้คิดทำโครงงานนี้

***วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า/เป้าหมาย
-เพื่อรักษาทรัพยากรของธรรมชาติให้มีสภาพที่ดี
-เพื่อศึกษาส่วนประกอบและทดลองทำกระดานMagna doodle

***สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี)
สบู่เหลวสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำตัวกระดานได้

***วิธีดำเนินงาน
1.คิดค้นหาโครงงานฟิสิกส์
2.ปรึกษาอาจารย์
3.ศึกษาข้อมูลวิธีการทำสิ่งประดิษฐ์
4.ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์
5.ทดสอบสิ่งประดิษฐ์
6.สรุปผล

***แผนการดำเนินงาน
วันที่ 23 พ.ค. 52 คิดค้นหาโครงงาน * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 25-27 พ.ค. 52 สืบค้นข้อมูล * กลธิรา , ศิวพร
วันที่ 28 พ.ค. 52 ปรึกษาอาจารย์ * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 06-14 มิ.ย. 52 ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ * ศิวพร , ญาดา
วันที่ 15 มิ.ย. 52 ทดสอบสิ่งประดิษฐ์ * นาตยา , กลธิรา
วันที่ 16 มิ.ย. 52 สรุปผล * นาตยา ,ญาดา

***ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สบู่เหลวนำมาทำเป็นส่วนผสมในการทำกระดานและสามารถเขียนได้

***เอกสารอ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/magna-doodle/magna-doodle...

***โครงงาน ประเภทฟิสิกส์

***ชื่อโครงงาน : Magna doodle

***ชื่อผู้ทำโครงงาน น.ส.ญาดา มุขอารีวัฒนา ม.5/8 เลขที่ 10
น.ส.นาตยา บุตรครุธ ม.5/8 เลขที่ 12
น.ส.กลธิรา เชาว์วุฒิประสิทธิ์ ม.5/8 เลขที่ 13
น.ส.ศิวพร ฉลองขวัญ ม.5/8 เลขที่ 14
***ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ พวงทิพย์ วีระณรงค์
อาจารย์ กุลรณี อารีมิตร
อาจารย์ ธนพล กลิ่นเมือง

***ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ความเป็นมา
เนื่องจากโลกของเราในตอนนี้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อนกับโลกของเรา กระดาษที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้ก็นำมาจากต้นไม้โดยทั่วไปที่ข้าพเจ้าเห็นคือใช้กระดาษกันอย่างสิ้นเปลืองเพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติทางกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดว่ากระดานMagna doodleนี้สามารถทำให้โลกของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีโดยไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและกองขยะกระดาษมากมาย จึงได้คิดทำโครงงานนี้

***วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า/เป้าหมาย
-เพื่อรักษาทรัพยากรของธรรมชาติให้มีสภาพที่ดี
-เพื่อศึกษาส่วนประกอบและทดลองทำกระดานMagna doodle

***สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี)
สบู่เหลวสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำตัวกระดานได้

***วิธีดำเนินงาน
1.คิดค้นหาโครงงานฟิสิกส์
2.ปรึกษาอาจารย์
3.ศึกษาข้อมูลวิธีการทำสิ่งประดิษฐ์
4.ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์
5.ทดสอบสิ่งประดิษฐ์
6.สรุปผล

***แผนการดำเนินงาน
วันที่ 23 พ.ค. 52 คิดค้นหาโครงงาน * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 25-27 พ.ค. 52 สืบค้นข้อมูล * กลธิรา , ศิวพร
วันที่ 28 พ.ค. 52 ปรึกษาอาจารย์ * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 06-14 มิ.ย. 52 ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ * ศิวพร , ญาดา
วันที่ 15 มิ.ย. 52 ทดสอบสิ่งประดิษฐ์ * นาตยา , กลธิรา
วันที่ 16 มิ.ย. 52 สรุปผล * นาตยา ,ญาดา

***ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สบู่เหลวนำมาทำเป็นส่วนผสมในการทำกระดานและสามารถเขียนได้

***เอกสารอ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/magna-doodle/magna-doodle...

***โครงงาน ประเภทฟิสิกส์

***ชื่อโครงงาน : Magna doodle

***ชื่อผู้ทำโครงงาน น.ส.ญาดา มุขอารีวัฒนา ม.5/8 เลขที่ 10
น.ส.นาตยา บุตรครุธ ม.5/8 เลขที่ 12
น.ส.กลธิรา เชาว์วุฒิประสิทธิ์ ม.5/8 เลขที่ 13
น.ส.ศิวพร ฉลองขวัญ ม.5/8 เลขที่ 14
***ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ พวงทิพย์ วีระณรงค์
อาจารย์ กุลรณี อารีมิตร
อาจารย์ ธนพล กลิ่นเมือง

***ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ความเป็นมา
เนื่องจากโลกของเราในตอนนี้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อนกับโลกของเรา กระดาษที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้ก็นำมาจากต้นไม้โดยทั่วไปที่ข้าพเจ้าเห็นคือใช้กระดาษกันอย่างสิ้นเปลืองเพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติทางกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดว่ากระดานMagna doodleนี้สามารถทำให้โลกของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีโดยไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและกองขยะกระดาษมากมาย จึงได้คิดทำโครงงานนี้

***วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า/เป้าหมาย
-เพื่อรักษาทรัพยากรของธรรมชาติให้มีสภาพที่ดี
-เพื่อศึกษาส่วนประกอบและทดลองทำกระดานMagna doodle

***สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี)
สบู่เหลวสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำตัวกระดานได้

***วิธีดำเนินงาน
1.คิดค้นหาโครงงานฟิสิกส์
2.ปรึกษาอาจารย์
3.ศึกษาข้อมูลวิธีการทำสิ่งประดิษฐ์
4.ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์
5.ทดสอบสิ่งประดิษฐ์
6.สรุปผล

***แผนการดำเนินงาน
วันที่ 23 พ.ค. 52 คิดค้นหาโครงงาน * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 25-27 พ.ค. 52 สืบค้นข้อมูล * กลธิรา , ศิวพร
วันที่ 28 พ.ค. 52 ปรึกษาอาจารย์ * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 06-14 มิ.ย. 52 ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ * ศิวพร , ญาดา
วันที่ 15 มิ.ย. 52 ทดสอบสิ่งประดิษฐ์ * นาตยา , กลธิรา
วันที่ 16 มิ.ย. 52 สรุปผล * นาตยา ,ญาดา

***ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สบู่เหลวนำมาทำเป็นส่วนผสมในการทำกระดานและสามารถเขียนได้

***เอกสารอ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/magna-doodle/magna-doodle...

***โครงงาน ประเภทฟิสิกส์

***ชื่อโครงงาน : Magna doodle

***ชื่อผู้ทำโครงงาน น.ส.ญาดา มุขอารีวัฒนา ม.5/8 เลขที่ 10
น.ส.นาตยา บุตรครุธ ม.5/8 เลขที่ 12
น.ส.กลธิรา เชาว์วุฒิประสิทธิ์ ม.5/8 เลขที่ 13
น.ส.ศิวพร ฉลองขวัญ ม.5/8 เลขที่ 14
***ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน : อาจารย์ พวงทิพย์ วีระณรงค์
อาจารย์ กุลรณี อารีมิตร
อาจารย์ ธนพล กลิ่นเมือง

***ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ความเป็นมา
เนื่องจากโลกของเราในตอนนี้มีการตัดไม้ทำลายป่ากันมากจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อนกับโลกของเรา กระดาษที่เราใช้กันอยุ่ทุกวันนี้ก็นำมาจากต้นไม้โดยทั่วไปที่ข้าพเจ้าเห็นคือใช้กระดาษกันอย่างสิ้นเปลืองเพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมและรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติทางกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดว่ากระดานMagna doodleนี้สามารถทำให้โลกของเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีโดยไม่ก่อให้เกิดฝุ่นและกองขยะกระดาษมากมาย จึงได้คิดทำโครงงานนี้

***วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า/เป้าหมาย
-เพื่อรักษาทรัพยากรของธรรมชาติให้มีสภาพที่ดี
-เพื่อศึกษาส่วนประกอบและทดลองทำกระดานMagna doodle

***สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี)
สบู่เหลวสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการทำตัวกระดานได้

***วิธีดำเนินงาน
1.คิดค้นหาโครงงานฟิสิกส์
2.ปรึกษาอาจารย์
3.ศึกษาข้อมูลวิธีการทำสิ่งประดิษฐ์
4.ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์
5.ทดสอบสิ่งประดิษฐ์
6.สรุปผล

***แผนการดำเนินงาน
วันที่ 23 พ.ค. 52 คิดค้นหาโครงงาน * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 25-27 พ.ค. 52 สืบค้นข้อมูล * กลธิรา , ศิวพร
วันที่ 28 พ.ค. 52 ปรึกษาอาจารย์ * สมาชิกทุกคนในกลุ่ม
วันที่ 06-14 มิ.ย. 52 ทดลองทำสิ่งประดิษฐ์ * ศิวพร , ญาดา
วันที่ 15 มิ.ย. 52 ทดสอบสิ่งประดิษฐ์ * นาตยา , กลธิรา
วันที่ 16 มิ.ย. 52 สรุปผล * นาตยา ,ญาดา

***ผลที่คาดว่าจะได้รับ
สบู่เหลวนำมาทำเป็นส่วนผสมในการทำกระดานและสามารถเขียนได้

***เอกสารอ้างอิง
http://www.rmutphysics.com/charud/howstuffwork/magna-doodle/magna-doodle...

โครงงานวิทยาศาสตร์(ชีววิทยา)
เรื่อง เหม็น...เหม็น...หายเกลี้ยง

ชื่อผู้ทำโครงงาน
1.นางสาวนิศรินทร์ อาบีดิน เลขที่ 28 ชั้น 5/8
2.นางสาวกัญญาลักษณ์ อัญชันบุตร เลขที่ 31 ชั้น 5/8
3.นางสาวศุภนุช เอกรณรงค์ชัย เลขที่ 34 ชั้น 5/8
4.นางสาวชนิกานต์ อภิสิทธิ์สมัย เลขที่ 40 ชั้น 5/8

อาจารย์ที่ปรึกษา
1.คุณครูธนพล กลิ่นเมือง
2.คุณครูกุลรณี อารีมิตร
3.คุณครูพวงทิพย์ วีระณรงค์

ที่มาและความสำคัญ
เนื่องจากห้องน้ำสาธาณะ เป็นห้องน้ำสำหรับส่วนรวม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าห้องน้ำสาธารณะเป็นห้องน้ำที่มีผู้ใช้บริการมาก
และไม่สามารถทราบได้เลยว่าผู้ใช้บริการแต่ละท่านมีสุขนิสัยอย่างไร และเมื่อมีผู้ใช้บริการมาก ปัญหาที่ตามมาคือ เชื้อโรค สิ่งสกปรก และกลิ่นเหม็น ทำให้ผู้ใช้บริการหลายท่านไม่อยากใช้บริการห้องน้ำสาธารณะเพราะปัญหาเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดโครงงานนี้ขึ้นมา
ในห้องน้ำสาธาณะมีคนใช้บริการจำนวนมาก และพนักงานทความสะอาดไม่สามารถทำความสะอาดได้ในทุกเวลา ก่อให้เกิดเชื้อโรค สิ่งสกปรก และกลิ่นเหม็น ทำให้ผู้ใช้บริการหลายท่านไม่อยากใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ แม้ว่าในปัจจุบันจะมีบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับน้ำยาขจัดกลิ่น และ กันสัตว์ดับกลิ่น แล้วก็ตาม แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคาสูง ด้วยเหตุนี้จึงก่อให้เกิดแนวความคิดเกี่ยวกับน้ำยาดับกลิ่นจากพืช และกันสะจากพืช ซึ่งสามารถทำได้ง่าย และมีต้นทุนต่ำ โดยพืชเหล่านี้หาได้ง่าย และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการดับกลิ่นและดูดกลิ่น อันได้แก่ มะกรูด ดอกแก้ว เปลือกส้ม ยูคาลิปตัส ฝานมะนาว ดอกจำปี ฯลฯ มาผสมกับสารเคมีบางประเภท เพื่อที่จะมาช่วยทำปฏิกิริยา ให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ และนำมาทดสอบประสิทธิภาพการดูดกลิ่นว่าสมุนไพรชนิดใดผสมกับสมุนไพรชนิดใด แล้วมีประสิทธิภาพดีที่สุด มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ อย่างเช่นน้ำยาดับกลิ่น และกันสัตว์ดับกลิ่น
ซึ่งโครงงานนี้ช่วยให้แม่บ้านหลายท่านประหยัดต้นทุน และเวลา ในการทำความสะอาดห้องน้ำ (ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย) และช่วยให้ห้องน้ำสาธารณะน่าใช้บริการมากขึ้นด้วย

จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษาว่าพืชชนิดใดบ้างที่มีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพที่ดีในการดับกลิ่นและดูดกลิ่น
2. เพื่อห้องสุขามีบรรยากาศที่น่าใช้บริการ
3. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4. เพื่อฝึกฝนทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
5. เพื่อนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
6. เพื่อสมาชิกในกลุ่มมีความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
ตัวแปรต้น น้ำยาขจัดกลิ่น และ กันสัตว์ดับกลิ่น
ตัวแปรตาม บรรยากาศภายในห้องน้ำ
ตัวแปรควบคุม ระยะเวลา อุณหภูมิ ผู้เข้าใช้บริการ ปริมาณของผลิตภัณฑ์

ระยะเวลาในการดำเนินงาน 1 เดือน

สมมติฐาน
คาดว่าพืชที่จัดอยู่ในประเภทสมุนไพรช่วยดูดกลิ่น และดับยกลิ่นได้ดีที่สุด โดยมีพืชประเภทดอกไม้ช่วยให้มีบรรยากาศที่ดี

วิธีการดำเนินการ
1. คิดหัวข้อโครงงาน
2. ศึกษาคุณสมบัติของพืชแต่ละชนิดที่น่าสนใจ
3. เขียนเค้าโครงงาน
4. ปรึกษาครูที่ปรึกษาโครงงาน
5. ทดลอง
6. บันทึกผล

แผนปฏิบัติงาน
26-27พ.ค. คิดหัวข้อโครงงาน
27-29พ.ค. เริ่มเขียนเค้าโครงงาน และปรึกษาครูที่ปรึกษาโครงงาน
30พ.ค.-30มิ.ย. เริ่มลงมือปฏิบัติงาน

ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ศึกษาว่าพืชชนิดใดบ้างที่มีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพที่ดีในการดับกลิ่นและดูดกลิ่น
2. ห้องสุขามีบรรยากาศที่น่าใช้บริการ
3. ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
4. ฝึกฝนทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
5. นำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
6. สมาชิกในกลุ่มมีความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน

เอกสารอ้างอิง
http://thanswers.yahoo.com/question/index?qid=20070626204310AAbvPiB
http://www.takraihom.net/product_3305_27638_tH.html2

ชื่อโครงงาน โครงงาน “สีผมสวยด้วยผงใบกาว”
ผู้จัดทำ นางสาวณัฐชา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
นางสาวอุษณีย์ ลายรัตน์
นางสาวแก้วเพชร กองแก้ว
นางสาวปรีดาภรณ์ เกตุสมพงษ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8
คุณครูที่ปรึกษา คุณครูกุลรณี อารีมิตร
ที่มาและเหตุผล
เนื่องจากในปัจจุบัน พืชสมุนไพรต่างๆได้ถูกนำมาประโยชน์ในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค เช่น การดื่มเพื่อสุขภาพ หรือรักษาโรค หรือแม้แต่กระทั่งนำมากำจัดยุง เป็นต้น ดังนั้น พวกเราจึงได้คิดที่จะนำพืชที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อม มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นๆบ้าง นั่นก็คือ การนำมาย้อมสีผม ซึ่งพวกเราเลือกใช้ใบกาว ในการทดลอง เนื่องจากพวกเราได้ช่วยกันศึกษามาแล้วน่าจะสามารถนำมาย้อมสีผมได้ โดยเราทดลองด้วยกัน 2 วิธีคือใช้ทั้งสารสกัดใบกาวสดและผงของใบกาว ซึ่งอาจจะมีผลที่แตกต่างกันต่อผมที่นำมาย้อม
ทั้งนี้เหตุผลที่พวกเราเลือกที่จะนำใบกาวมาใช้ในการย้อมสีผมก๊เพราะว่าใบกาวเป็นพืช ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียหรือเกิดผลเสียต่อเส้นผมน้อยกว่าสีย้อมผมปกติธรรมดาตามท้องตลาดทั่วไป แต่ยังคงมีด้วยประสิทธิภาพที่ดี.

วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพในการเปลี่ยนสีผมของผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ตามอัตราส่วน
ที่เหมาะสม
2. เพื่อนำพืชในท้องถิ่นมาใช้ประโยชน์และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ
สมมุติฐาน
ผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์จะมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนสีผมได้เหมือนกับสารสกัดใบกาวสดและสามารถนำมาใช้แทนกันได้
วิธีการดำเนินงาน
1) ประชุม วางแผนคิดโครงงานที่สนใจและต้องการจะทำ
2) แบ่งกันไปหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงงาน ความรู้เพิ่มเติม แล้วนำมาปรึกษากัน
3) เริ่มเขียนเค้าโครงงาน
4) เริ่มวางแผนการทำงาน
- ปรึกษาผู้ที่มีความรู้
- หาวัสดุอุปกรณ์ เพื่อนำมาใช้ในการทดลอง
5) เริ่มปฏิบัติงาน
- ทำการทดลอง
วัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงาน
การทดลองที่ 1
1. ตัวอย่างเส้นผมที่นำมาทดลอง
2. สารสกัดใบกาวสด ตามอัตราส่วนที่เลือกไว้
3. น้ำเปล่า
การทดลองที่ 2
1. ผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ มวลตามอัตราส่วนที่เลือกไว้
2. น้ำสะอาด ปริมาตรตามอัตราส่วนเหมาะสมที่เลือกไว้
3. ตัวอย่างเส้นผมที่นำมาทำการทดลอง
วิธีการทดลอง
การทดลองที่ 1
มวลของใบกาว : ปริมาตรของน้ำสะอาด 100 กรัม : 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร
1. นำใบกาวสดมวล 100 กรัม มาปั่นให้ละเอียด
2. นำใบกาวที่ได้จากข้อ 1 ใส่ลงในกะละมังใบเล็ก
3. เติมน้ำสะอาด ปริมาณ 30 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงในกะละมังที่มีใบกาวปั่น
ละเอียด
4. คั้นใบกาวในกะละมังใบเล็กจนกระทั่งใบมีสีซีด
5. กรองเอาสารที่ได้จากข้อ 4 โดยใช้ผ้าขาวบางและใช้ตะแกรงกรอง
6. ได้สารที่สกัดมาจากการสกัดใบกาว
7. นำสารสกัดใบกาวสดลงในหลอดทดลองเพื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนอื่น
8. นำสารสกัดจากใบกาวสด ตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้มาชโลมเส้นผมที่นำมา
ทดลอง
9. หมักตัวอย่างผสมกับสารสกัดใบกาวสดโดยหมักไว้นาน 30 นาที
10. ครบ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
11. สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีผม
การทดลองที่ 2
1. นำผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ใส่ลงในบีกเกอร์ แล้วเติมน้ำสะอาดลงไปในบีกเกอร์มวล
ของผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ต่อปริมาตรของน้ำสะอาด เป็นไปตามอัตราส่วนที่เลือกไว้
2. นำเอาส่วนผสมของข้อที่ 1 มาชโลมตัวอย่างเส้นผมที่นำมาทดลอง
3. หมักตัวอย่างผมกับผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ไว้นาน 30 นาที
4. ครบ 30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า
5. สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสีผม
ขอบเขตการศึกษา
ตัวแปรต้น สารสกัดใบกาวสด , ผงใบกาว
ตัวแปรตาม สีของผม
ตัวแปรควบคุม อัตราส้วนของน้ำ , ระยะเวลาในการหมักผม
สถานที่ดำเนินการ : โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย,บ้านผู้จัดทำ
ระยะเวลาในการดำเนินงาน : 2 เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้อัตราส่วนที่เหมาะสมของผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์ต่อน้ำสะอาดใน
การเปลี่ยนสีผม
2. ได้ทราบถึงประสิทธิภาพในการเปลี่ยนสีผมของผงสกัดใบกาวบริสุทธิ์
3. ได้นำพืชในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพ
เอกสารอ้างอิง
อ้างอิง http://www.tet2.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=560691&Ntype=3

โครงงานวิทยาศาสตร์(ชีววิทยา)
เรื่อง ลบ liquid ด้วยเปลือกผลไม้
ชื่อผู้ทำโครงงาน
1.นางสาวลลิตา คำเพ็ง เลขที่ 3 ชั้น 5/8
2.นางสาวฑิตาพร ลิ้มภูวนนท์ เลขที่ 6 ชั้น 5/8
3.นางสาวชนาพร สันตะวาลิ้ม เลขที่ 7 ชั้น 5/8
4.นางสาวลภัสรดา เผือกพันธ์ เลขที่ 44 ชั้น 5/8
อาจารย์ที่ปรึกษา
1.คุณครูธนพล กลิ่นเมือง
2.คุณครูกุลรณี อารีมิตร
3.คุณครูพวงทิพย์ วีระณรงค์
ที่มาและความสำคัญ
ในขณะนี้บนโต๊ะเรียนมีรอยหรือคราบ liquid มากมายซึ่งทำให้ดูสกปรกและรำคาญตาอาจทำให้เสียสมาธิในการเรียนเราจึงหาวิธีลบคราบเหล่านี้โดยไม่ใช้สารเคมีเนื่องจากสารเคมีมีราคาสูงและมีกลิ่นเหม็นซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดหาวิธีลบคราบเหล่านี้โดยใช้ของเหลือใช้จากธรรมชาติซึ่งในที่นี้กลุ่มของข้าพเจ้าได้นำเปลือกมะกรูด มะนาว ส้มโอ มะดัน ซึ่งเป็นการนำสิ่งของเหลือใช้มาใช้ประโยชน์
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษาการนำเปลือกผลไม้มาใช้ในการลบรอยน้ำยาลบคำผิดบนโต๊ะ
2. เพื่อนำของเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
3. เพื่อนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
4. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักวิทยาศาสตร์
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
นำเปลือกผลไม้มาทดลอง 4 ชนิด ได้แก่ เปลือกมะกรูด ส้มเขียวหวาน มะนาว
และส้มโอ โดยการถูรอยน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper ) ที่ติดตาม
โต๊ะเรียน เก้าอี้ แผ่นไม้ เปรียบเทียบความสามารถในการหลุดลอกของน้ำยาลบคำผิดลิควิดเปเป้อร์ ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper )
สมมติฐาน
คลาดว่าเปลือกมะกรูดจะขจัดรอย liquid ได้ดีที่สุด
อุปกรณ์และวิธีการทดลอง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
1. เปลือกผลไม้ ( มะกรูด , มะนาว , ส้มโอ , มะดัน )
2. มีดปอกผลไม้
3. แผ่นไม้
4. น้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper )
วิธีการทดลอง
1. นำแผ่นไม้มาแบ่งพื้นที่ทดลอง 4 ส่วน
2. นำน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper ) มาขีดเขียนให้เท่าๆกัน
3. หั่นเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิดในปริมาณที่เท่าๆกัน
4. นำเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิด มาถูบริเวณที่ติดน้ำยาลบคำผิด
5. เปรียบเทียบว่าเปลือกผลไม้ชนิดใดสามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดได้ดี
ประโยชน์
1. ทำให้โต๊ะหรือพื้นที่ติดรอยน้ำยาลบคำผิดหลุดออกและสะอาดขึ้น
2. ประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องไปซื้อสารเคมีมาลบรอยน้ำยาลบคำผิด
3. เป็นการรักษาพื้นโต๊ะหรือเก้าอี้ไม่ให้เป็นรอย
4. ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ เพราะเปลือกผลไม้ได้จากธรรมชาติ
เอกสารอ้างอิง
http://www.geocities.com/psplant/ps_seminar_Chatchai.htm
http://palungjitrescuedisaster.com/wiki/index.php/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%...

โครงงานวิทยาศาสตร์(ชีววิทยา)
เรื่อง ลบ liquid ด้วยเปลือกผลไม้
ชื่อผู้ทำโครงงาน
1.นางสาวลลิตา คำเพ็ง เลขที่ 3 ชั้น 5/8
2.นางสาวฑิตาพร ลิ้มภูวนนท์ เลขที่ 6 ชั้น 5/8
3.นางสาวชนาพร สันตะวาลิ้ม เลขที่ 7 ชั้น 5/8
4.นางสาวลภัสรดา เผือกพันธ์ เลขที่ 44 ชั้น 5/8
อาจารย์ที่ปรึกษา
1.คุณครูธนพล กลิ่นเมือง
2.คุณครูกุลรณี อารีมิตร
3.คุณครูพวงทิพย์ วีระณรงค์
ที่มาและความสำคัญ
ในขณะนี้บนโต๊ะเรียนมีรอยหรือคราบ liquid มากมายซึ่งทำให้ดูสกปรกและรำคาญตาอาจทำให้เสียสมาธิในการเรียนเราจึงหาวิธีลบคราบเหล่านี้โดยไม่ใช้สารเคมีเนื่องจากสารเคมีมีราคาสูงและมีกลิ่นเหม็นซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายกลุ่มของข้าพเจ้าจึงคิดหาวิธีลบคราบเหล่านี้โดยใช้ของเหลือใช้จากธรรมชาติซึ่งในที่นี้กลุ่มของข้าพเจ้าได้นำเปลือกมะกรูด มะนาว ส้มโอ มะดัน ซึ่งเป็นการนำสิ่งของเหลือใช้มาใช้ประโยชน์
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษาการนำเปลือกผลไม้มาใช้ในการลบรอยน้ำยาลบคำผิดบนโต๊ะ
2. เพื่อนำของเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
3. เพื่อนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม
4. เพื่อส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักวิทยาศาสตร์
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
นำเปลือกผลไม้มาทดลอง 4 ชนิด ได้แก่ เปลือกมะกรูด ส้มเขียวหวาน มะนาว
และส้มโอ โดยการถูรอยน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper ) ที่ติดตาม
โต๊ะเรียน เก้าอี้ แผ่นไม้ เปรียบเทียบความสามารถในการหลุดลอกของน้ำยาลบคำผิดลิควิดเปเป้อร์ ( ลิควิดเปเปอร์ : liquid paper )
สมมติฐาน
คลาดว่าเปลือกมะกรูดจะขจัดรอย liquid ได้ดีที่สุด
อุปกรณ์และวิธีการทดลอง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง
1. เปลือกผลไม้ ( มะกรูด , มะนาว , ส้มโอ , มะดัน )
2. มีดปอกผลไม้
3. แผ่นไม้
4. น้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper )
วิธีการทดลอง
1. นำแผ่นไม้มาแบ่งพื้นที่ทดลอง 4 ส่วน
2. นำน้ำยาลบคำผิด ( ลิควิดเปเปอร์ liquid paper ) มาขีดเขียนให้เท่าๆกัน
3. หั่นเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิดในปริมาณที่เท่าๆกัน
4. นำเปลือกผลไม้ทั้ง 4 ชนิด มาถูบริเวณที่ติดน้ำยาลบคำผิด
5. เปรียบเทียบว่าเปลือกผลไม้ชนิดใดสามารถลบรอยน้ำยาลบคำผิดได้ดี
ประโยชน์
1. ทำให้โต๊ะหรือพื้นที่ติดรอยน้ำยาลบคำผิดหลุดออกและสะอาดขึ้น
2. ประหยัดค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องไปซื้อสารเคมีมาลบรอยน้ำยาลบคำผิด
3. เป็นการรักษาพื้นโต๊ะหรือเก้าอี้ไม่ให้เป็นรอย
4. ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ เพราะเปลือกผลไม้ได้จากธรรมชาติ

บทคัดย่อ

โครงงานวิทยาศาสตร์ (ชีววิทยา)

เรื่อง เครื่องกลั่นน้ำพลังงานแสงอาทิตย์

ผู้จัดทำโครงงาน

1.) นางสาววาทินี หมายมั่นศร ม.5/8 เลขที่ 1

2.) นางสาวภัทรินทร์ ดิเรกโรจน์วุฒิ ม.5/8 เลขที่ 18

3.) นางสาวนุชจยา หงษ์อุดม ม.5/8 เลขที่ 22

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน

อาจารย์ธนพล กลิ่นเมือง

ที่มาและความสำคัญ
น้ำเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เพราะร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยน้ำ 2 ใน 3

ของน้ำหนักแต่หากมองในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศไทยคือว่าค่อนข้างจะไม่ค่อยมีปัญหาด้านการขาดแคลนน้ำเท่าไหร่

โดยพื้นที่ที่มีปัญหาจะเป็นแถบชนบทจะเป็นเรื่องของการขาดแคลนน้ำสะอาด

โดยส่วนใหญ่แล้ว เครื่องกรองน้ำที่ใช้งบประมาณมาก จะไม่สามารถทำน้ำให้สะอาดใส 100%

แต่หากใช้วิธีกลั่นจะทำให้ไม่ได้รับแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์เลย แม้ว่าน้ำที่กลั่นออกมานั้นจะสะอาดก็ตาม ถ้าหากนำน้ำที่กลั่นแล้วมา

เติมแร่ธาตุลงไป คงจะเป็นประโยฃน์เป็นอย่างมาก ทางผู้จัดทำจึงคิดทำการทดลองนี้ขึ้นมา

วัตถุประสงค์

- เพื่อทำเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก

- สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ในพื้นที่ ที่ขาดแคลนน้ำสะอาด

- น้ำที่ได้จากการกรองนั้น เป็นน้ำที่สามารถดื่มได้จริงและยังส่งเสริมแร่ธาตุลงไป เช่น เหล็ก ไอโอดีน ฯลฯ ในอัตราส่วนพอเหมาะ

สมมติฐาน

น้ำที่ได้จากการกรอง กลั่น นำมาเติมแร่ธาตุนี้ จะได้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากกว่าน้ำที่มีขายทั่วไป

ขอบเขตการศึกษา

ตัวแปรต้น น้ำธรรมดา น้ำประปา น้ำที่ได้จากการกรอง

ตัวแปรตาม คุณภาพน้ำ

ตัวแปรควบคุม ปริมาณน้ำ อุณหภูมิ

เวลาในการดำเนินงาน 1 เดือน

วิธีการดำเนินการ

1.ศึกษาการใช้หินชนิดต่างๆเพื่อเสริมแร่ธาตุ

2.ออกแบบโครงงาน

3.สร้าง

4.ทดลอง

5.เปรียบเทียบ

6.บันทึกผล

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

ได้เครื่องกรองน้ำชนิดใหม่ ทำได้ง่าย และไม่เปลืองค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในการซื้อน้ำ

แผนการนำเสนอ

นำเสนอชิ้นงานสิ่งประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถกรองน้ำให้สะอาดบริสุทธิ์ 100% และทำให้ได้แร่ธาตุที่มี

ประโยชน์ต่อร่างกายให้ได้คุณภาพสูงสุด

โครงงาน : เคมี
ชื่อโครงงาน : น้ำยาล้างจานกำจัดแมลง
ชื่อครูที่ปรึกษา : คุณครูพวงทิพย์ วีระณรงค์
ชื่อผู้ทำโครงงาน : นส.ชัชชญา ธนดำรงเลิศ ม.5/7 เลขที่ 4
นส.วรวรรณ ทองแผ่น ม.5/7 เลขที่ 7
นส.แก้วกาญจน์ ตติยะพงษ์เผ่าพันธุ์ ม.5/7 เลขที่ 16
บทคัดย่อ : ในปัจจุบันมนุษย์พยายามคิดค้นผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงหลากหลายรูปแบบ แต่ล้วนแล้วประกอบด้วยสารเคมี ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายทั้งสิ้น แต่เพราะความสะดวกสบายและประสิทธิภาพของสารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำให้มนุษย์เลือกใช้สารเคมีมากกว่าผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ทางคณะผู้จัดทำเห็นว่า เราควรลดใช้สารเคมีด้วยการใช้สิ่งใกล้ตัว นั่นคือ น้ำยาล้างจาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกครัวเรือนต้องใช้ หลักการง่ายๆคือ ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำในอัตราส่วนที่พอเหมาะแล้วนำมาฉีด ปฏิกิริยาทางเคมีที่น้ำยาล้างจานปิดกั้นออกซิเจนภายในน้ำ จะไปปิดกั้นช่องทางหายใจ ไม่ให้แมลงได้รับออกซิเจนเช่นกัน จนทำให้แมลงตายในที่สุด
คณะผู้จัดทำ
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%...

ชื่อโครงงาน : สำรวจและ สืบค้นความเป็นมา ความเกี่ยวข้องของสัตว์ในแต่ละ phylum และ
วิวัฒนาการของสัตว์ภายใน โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย

ชื่อผู้ทำโครงงาน : น.ส. ลาตีฟะฮ์ ฮาเซีย ชั้นม.5/6 เลขที่ 5
น.ส.ณัฏฐนิช หรูดำเกิงกิจ ชั้นม.5/6 เลขที่ 7
น.ส. กรรณภิรมย์ เนียมสุวรรณ ชั้นม.5/6 เลขที่ 21

ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน : อ. ธนพล

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน/ความเป็นมา : ที่กลุ่มของข้าพเจ้าจัดทำโครงงานนี้เพราะเกิดความสงสัยถึงความเกี่ยวข้องของสัตว์ต่าง ๆที่อยู่ใน phylum เดียวกัน ว่ามีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร และต้องการจะทราบจำนวนของสัตว์ต่าง ๆในโรงเรียน เพื่อใช้เป้นประโยชน์ในภายหน้า

วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า/เป้าหมาย : ทราบจำนวนของของสัตว์แต่ละชนิดในร.ร. ทราบวิวัฒนาการ และความเกี่ยวของใน phylum ของสัตว์

วิธีดำเนินงาน :
1. สำรวจจำนวนของสัตว์แต่ละชนิดภายในโรงเรียน
2. ระบุของมูลของสัตว์แต่ละชนิด
3. จะแนกสัตว์ตามหมวดหมู่
4. เก็บสัตว์บางชนิดไว้เป้นตัวอย่าง (ดองเก็บไว้)
5. จัดทำโครงงานที่ใช้นำเสนอ

แผนการดำเนินงาน : 28 พ.ค. – 1 ก.ค. วางแผนงาน 3มิ.ย.-10มิ.ย. เริ่มสำรวจ
11มิ.ย.- 20มิ.ย. จัดจำแนกและเขียนผังวิวัฒนาการ 21 มิ.ย. – 10 ก.ค. ทำโครงงานนำเสนอ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ : ได้ทราบจำนวนแน่ชัดของสัตว์แต่ละชนิดในโรงเรียนรับความรู้ในเรื่องของสัตว์แต่ละชนิดตามวัตถุประสงค์