ด้วงหนวดยาวอ้อย
ชื่อแมลง ด้วงหนวดยาวอ้อย
ชื่อพื้นเมืองแมลง ด้วงเจาะลำต้น
ชื่อสามัญ Stem boring grub
ชื่อวิทยาศาสตร์ Dorysthenes (Lophosternus) bugueti Guerin.
วงศ์ชีวิต วงจรชีวิต ระยะไข่ 11 - 27 วัน หนอนมีการลอกคราบ 7-8 ครั้ง มี 8-9 วัย และมีอายุประมาณ 1-2 ปี อายุดักแด้ประมาณ 7-18 วัน ตัวเต็มวัยอายุประมาณ 6 - 20 วัน ก็ตาย เมื่อหนอนโตเต็มที่จะเข้าดักแด้ในดินตรงบริเวณโคนกออ้อยลึกจากสันร่องลงไป 10-60 ซม. ก่อนที่หนอนจะเข้าดักแด้หนอนจะใช้ชานอ้อยที่กัดกินจากเนื้ออ้อยจนเป็นเศษอ้อยชิ้นเล็กๆ มาทำเป็นรังห่อหุ้มตลอดลำต้นแล้วหนอนก็เข้าดักแด้อยู่ภายในรัง
ระยะไข่ ไข่ถูกวางเดี่ยว ๆ ในดินบริเวณใกล้ ๆ โคนกออ้อย เพศเมียตัวหนึ่งๆ สามารถวางไข่ได้สูงถึง 41 - 441 ฟอง มีลักษณะรูปยาวรี สีน้ำตาลอ่อน ขนาดยาว 3.0 – 3.5 มม. กว้าง 0.8 – 1.0 มม. เปลือกไข่ค่อนข้างแข็ง
ระยะหนอน หนอนที่ฟักออกมาจากไข่ใหม่ๆ มีลำตัวยาวประมาณ 4 มม. หัวกะโหลกกว้าง 0.7 มม. หนอนชนิดนี้มีนิสัยว่องไวและสามารถเคลื่อนย้ายไปในดินได้อย่างรวดเร็ว หนอน มีสีขาวนวลตลอดลำตัว รูปร่างแบบทรงกระบอกและแบนเล็กน้อย บริเวณอกกว้างกว่าท้องเล็กน้อย หัวกระโหลกมีสีน้ำตาลและมีขนาดเล็กกว่าลำตัวมาก ปากขนาดเล็กแต่มีเขี้ยวแข็งแรง ขามีขนาดเล็กมากจนแทบมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่มาก คือยาว 70 – 100 มม. กว้าง 20 – 30 มม. หัวกะโหลกกว้าง 12 มม
ระยะดักแด้ อายุดักแด้ประมาณ 7-18 วัน ก็ออกเป็นตัวเต็มวัย ดักแด้ เป็นแบบ exarate หนวด ขา และปีกเคลื่อนไหวเป็นอิสระ เห็นได้ชัดเจน ยาวประมาณ 40-50 มม. กว้าง 24-26 มม รังดักแด้เป็นรูปไข่ขนาดยาวประมาณ 60-70 มม. กว้าง 40-50 มม. หนอนที่เข้าดักแด้ใหม่ๆ มีสีขาวนวล แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ส่วนใหญ่พบหนอน 1-3 ตัว ต่อกออ้อย 1 กอ
ตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัย มีสีน้ำตาลแดง ยาวประมาณ 25 - 40 มม. กว้าง 10 - 15 มม. ตรงปลายปล้องสุดท้ายของส่วนท้องเพศเมียมีลักษณะมน ส่วนเพศผู้ตรงปลายเว้าและมีขนที่ด้านล่างของส่วน ตัวเต็มวัยออกจากดักแด้ในดินหลังจากฝนตก 2 - 4 วัน ในเวลากลางคืน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – มิถุนายน และพบว่าออกมากที่สุดในเดือนเมษายน มีนิสัยว่องไวมากในเวลากลางคืนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในบริเวณไร่อ้อยส่วนในเวลากลางวันจะหลบซ่อนตัวอยู่นิ่งๆ ตามโคนต้นอ้อย ถึงแม้ว่าตัวเต็มวัยจะมีปีกแข็งแรงแต่ไม่ชอบบิน
พื้นที่แพร่ระบาด พบมากในดินร่วนทรายที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และกาญจนบุรี ส่วนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็พบเข้าทำลายอ้อยและมันสำปะหลังมากที่ขอนแก่น อุดรธานี และบุรีรัมย์ ภาคเหนือพบที่จังหวัดกำแพงเพชร
ระยะเวลาที่แพร่ระบาด ตัวเต็มวัยออกจากดักแด้ในดินหลังจากฝนตก 2 - 4 วัน ในเวลากลางคืน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – มิถุนายน และพบว่าออกมากที่สุดในเดือนเมษายน สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการแพร่ระบาด พบระบาดมากในสภาพดินร่วนปนทรายที่มี pH 6.9 ดินมีอินทรีย์วัตถุ 1.15 - 1.22% สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการแพร่ระบาด พบระบาดมากในสภาพดินร่วนปนทรายที่มี pH 6.9 ดินมีอินทรีย์วัตถุ 1.15 - 1.22%
ลักษณะการทำลายของแมลง หนอนเริ่มเข้าทำลายอ้อยเกือบตลอดอายุการเจริญเติบโต หนอนเริ่มเข้าทำลายตั้งแต่ระยะเริ่มปลูกอ้อย โดยเจาะไชเข้าไปกัดกินเนื้ออ้อยภายในท่อนพันธุ์ ทำให้ท่อนพันธุ์อ้อยไม่งอก หน่ออ้อยอายุ 1-3 เดือนจะถูกกัดกินตรงส่วนโคนที่ติดกับเหง้าให้ขาดออกทำให้หน่ออ้อยแห้งตายเมื่อหนอนโตขึ้นมีขนาดยาวประมาณ 40 มม. จะเริ่มเจาะไชจากส่วนโคนลำต้นขึ้นไปเพื่อกินเนื้ออ้อย
ความเสียหายที่เกิดกับอ้อย เข้าทำลายทางโคนต้นใต้ดินแล้วเจาะไชเข้ากัดกินภายในลำต้น กัดกินหน่ออ้อยส่วนโคนจนขาดทำให้แห้งตาย
การควบคุมกำจัดแมลง ขณะไถไร่ ควรเดินเก็บหนอนตามรอยไถ 1-2 ครั้ง , ปลูกพืชหมุนเวียนมันสำปะหลังหรือสับปะรด, ปลายมีนาคม-ต้นเมษายนด้วงหนวดยาวเริ่มออกเป็นตัวเต็มวัยให้ใช้วิธีกลขุดหลุมดักจับตัวเต็มวัย
สารเคมีป้องกันและวิธีการใช้
carbofuran
ในแหล่งระบาดใช้สารเคมีอัตรา 10 กก./ไร่ โรยบนท่อนพันธุ์ตอนปลูก หรือตอนแต่งกอโรยข้างกออ้อยทั้งสองด้านและใส่ซ้ำอัตราเดิมหลังปลูกหรือสับตอ 45 วัน
chlordane
อัตราการใช้ 200 มล. / น้ำ 20 ลิตร หลังวางท่อนพันธุ์อ้อยพ่นสารฆ่าแมลงในร่องอ้อยแล้วกลบดินใช้น้ำประมาณ 80 ลิตร/ไร่
Fipronil
ในแหล่งที่มีการระบาด หลังวางท่อนพันธุ์อ้อยแล้วให้พ่นในอัตรา 80 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร
จัดทำโดย
นายรัตนพันธ์ ชัยชมภู เลขที่ 3
นาย พิชัยยุธร พิมมะศรี เลขที่ 9
นาย ภัควัต ไกรรักษ์ เลขที่ 14