การขยายพันธุ์

รูปภาพของ sss30328

 

หน้าแรก  ประวัติความเป็นมา  ลักษณะทั่วไป  การเพาะปลูก  การขยายพันธุ์  การดูแลรักษา  

ลักษณะรากและลำต้น  ลักษณะดอกผลและเมล็ด  คุณค่าทางโภชนากร  ประโยชน์ของจำปี 

คุณค่าทางเศรษฐกิจ  ประมวลภาพ  คลิปวิดีโอ

 

 

การขยายพันธุ์

 

               สามารถกระทำได้หลายวิธี  นับตั้งแต่ การเพาะเมล็ด การปักชำ การทาบกิ่ง การเสียบยอด การติดตา และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งมีรายละเอียดของแต่ละวิธีแตกต่างกันออกไป ดังเช่น
       

ที่มาของภาพ : http://www.nanagarden.com/picture/Forum/For8532_1.jpg

 

         การเพาะเมล็ด    จากงานวิจัยของฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร วว. ได้มีการทดลองในเรื่องการงอกของเมล็ดจำปี พบว่า เมล็ดที่เก็บจากโคนต้นจะมีอัตราการงอกต่ำ และมีต้นกล้าที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง แต่เมล็ดที่ได้จากผลแก่ที่เก็บจากบนต้น จะมีอัตราการงอกสูง และมีต้นกล้าที่แข็งแรงกว่า ดังนั้น คำแนะนำในการเพาะเมล็ดจำปี จึงเริ่มตั้งแต่ การเลือกเก็บผลแก่ที่มีสีเปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีผลย่อยที่อยู่โคนช่อผลแตกเป็นช่อเล็กๆ เพียง 1-2 ผล และยังไม่ร่วงหล่นจากต้น ให้นำผลแก่นี้มาผึ่งไว้ที่ร่ม 2-3 วัน รอยแตกจะกว้างขึ้น แล้วมีเมล็ดหลุดออกมา นำเมล็ดมาแช่น้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยมีการเปลี่ยนน้ำทุก 12 ชั่วโมง แล้วบี้เอาเปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงออกทิ้งไป จะเห็นแต่เมล็ดในสีดำและแข็ง นำเมล็ดมาเพาะรวมกันในกระบะทราย แล้วราดด้วยยากันรา และคลุมป้องกันความชื้นด้วยถงพลาสติก (เพื่อไม่ต้องรดน้ำเลยตลอดช่วงเวลาการเพาะเมล็ด) ในเวลา 1 เดือน ก็เริ่มงอก เมื่อใบเลี้ยงคู่แรกคลี่กางดี จึงแยกนำลงปลูกในถงเพาะชำ และตั้งไว้ในเรือนเพาะชำ จนมีอายุ 1 ปี จะมีความสูง 30-40 เซนติเมตร และมีใบจำนวน 8-10 ใบ จึงนำออกมาตั้งกลางแจ้งเพื่อให้ปรับตัว ก่อนนำไปปลูกลงแปลงกลางแจ้ง ข้อดีของวิธีการขยายพันธุ์แบบนี้คือ ได้ต้นกล้าที่มีระบบรากแข็งแรง เจริญเติบโต ต้นไม่ค่อยล้ม เมื่อเป็นต้นใหญ่แล้วจะมีทรงพุ่มแผ่กว้างสวยงาม  แต่จะออกดอกได้ช้า ในการปลูกต้นจำปีโดยวิธีการเพาะเมล็ดต่อไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสที่จะได้ต้นจำปีที่มีความแปรผัน แตกต่างไปจากต้นแม่พันธุ์เดิม หรือได้ต้นที่มีความเหมือนกับต้นแม่พันธุ์เดิมได้  เนื่องจากเป็นการขยายพันธุ์แบบใช้เพศที่มีการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ

 

 

ที่มาภาพ : https://goo.gl/BLCEeJ

 

       การปักชำ    จัดเป็นวิธีการขยายพันธุ์จำปีที่ง่ายและรวดเร็วอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งจะได้ต้นกล้าที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่พันธุ์อีกด้วย  โดยการตัดปลายกิ่งให้มีความยาว 20-30 เซนติเมตร ริดใบที่โคนกิ่งออก แช่ในน้ำยากระตุ้นราก แล้วนำไปปักชำในแปลงพ่นหมอกกลางแจ้ง เป็นเวลา 3-4 เดือน ก็จะออกราก แยกนำไปปลูกในถุงเพาะชำ จนตั้งตัวและเจริญเติบโตได้ดี จึงนำออกมาปลูกกลางแจ้งได้ สำหรับเทคนิคในการปักชำนี้ก็คือ ถ้ามีการปักชำจากกิ่งที่เคยออกดอกมาแล้ว เมื่อนำไปปลูกก็จะออกดอกได้ง่าย ในทางตรงกันข้าม ถ้าปักชำจากกิ่งที่ได้จากต้นกล้าขนาดเล็ก หรือกิ่งที่ยังไม่เคยออกดอกมาก่อน เมื่อนำไปปลูกแล้วจะออกดอกได้ช้า และเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว พบว่ากิ่งปักชำอ่อนๆ จะออกรากได้ง่ายกว่างกิ่งปักชำแก่ๆ

 

ที่มาภาพ : https://goo.gl/hbCOZI

 

        การทาบกิ่ง     ควรใช้ต้นตอที่หาเมล็ดได้ง่าย ต้นตอมีความทนทาน เจริญเติบโตเร็ว เช่น จำปา จำปีป่า จำปาป่า จำปีหลวง ต้นตอมีอายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี มีความสูงประมาณ 50-80 เซนเติเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร วิธีการทาบก็ใช้การปาดข้างทั้งต้นตอและกิ่งพันธุ์ให้ยาว 5-8 เซนติเมตร นำมาประกบกันและพันด้วยเทปพลาสติก ควรผูกโยงต้นตอกับคานหรือกิ่งด้านบน เพื่อป้องกันกิ่งฉีก ในเวลา 1 เดือน ก็สามารถตัดนำมาปลูกชำได้ สำหรับเทคนิคในการทบกิ่งจำปี ก็คืด การปาดกิ่งต้นตอนั้นจะต้องปาดให้เหลือส่วนของยอดไว้ด้วย ไม่ใช่ปาดให้ขาดเหมือนกับทาบมะม่วง เมื่อทาบแล้ว 20 วัน ก็ตัดส่วนยอดของต้นตอทิ้งได้ และก่อนจะตัดกิ่งทาบไปปลูกชำ ควรเตือนกิ่งทาบด้วยการควั่นรอบกิ่งของโคนกิ่งพันธุ์ 1 สัปดาห์แล้ว จึงตัดกิ่งทาบออก กิ่งทาบจะปรับตัวหันไปดูดน้ำจากต้นตอ เป็นการกระตุ้นให้รากของต้นตอทำงานได้ดีขึ้น ข้อดีของการขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง ก็คือจะได้ต้นกล้าที่มีลักษณะตรงตามแม่พันธุ์ แต่จะออกดอกได้เร็วหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าไปทาบมาจากกิ่งที่เคยออกดอกมาแล้วหรือยัง หากทาบจากกิ่งที่เคยออกดอกมาแล้ว เมื่อนำไปปลูกแล้วก็จะออกดอกได้เร็ว แต่ถ้าทาบกิ่งมาจากต้นขนาดเล็ก หรืกิ่งที่ยังไม่เคยออกดอกมาก่อน เมื่อนำไปปลูกแล้วก็จะออกดอกได้ช้า

 

ที่มาภาพ : http://www.marigoldthai.com/images/1211003843/DSCN2086.jpg

 

        การเสียบยอด   เป็นการขยายพันธุ์ที่จะได้กิ่งยอดตรงตามลักษณะของแม่พันธุ์ ใช้ได้กับต้นตอทั้งที่มีขนาดเล็กและมีขนาดใหญ่ สำหรับต้นตอที่มีขนาดเล็ก ควรใช้ต้นตอที่หาเมล็ดได้ง่าย ต้นตอมีความทนทาน เจริญเติบโตเร็ว เช่น จำปา จำปาป่า จำปีป่า จำปีหลวง ต้นตอควรมีอายุ มากกว่า 6 เดือน ซึ่งจะมีความสูงมากกว่า 50 เซนติเมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร วิธีการเสียบยอด โดยการปาดโคนต้นตอลงมา 5-6 เซนติเมตร ให้ลึกในระดับเปลือกแล้วเฉือนเอียงเป็นมุมประมาณ 45 องศา แล้วปาดกิ่งพันธุ์ให้มีแผลยาวเท่ากับต้นตอ โดยกิ่งพันธุ์นี้จะมีตาข้างอยู่เพียง 1 ตา นำกิ่งพันธุ์เข้าเสียบกับต้นตอ พันด้วยเทปพลาสติกให้มิด กันไม่ให้น้ำเข้าได้ ประมาณ 3 สัปดาห์ ตาของกิ่งพันธุ์จะเริ่มแตกออกมา จึงใช้มีดคมๆ เฉือนเทปพลาสติก ให้ยอดแทงออกมา พร้อมทั้งตัดยอดของต้นตอออก ตาของกิ่งพันธุ์ก็จะโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนำไปปลูกให้พักตัวในเรือนเพาะชำระยะหนึ่ง ก็สามารถนำออกปลูกได้ สำหรับการเสียบยอดกับต้นตอที่มีขนาดใหญ่ จะแตกตาและมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในหมู่เกษตรกรเป็นอย่างมาก  เนื่องจากจะเพิ่มจำนวนยอดพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากในเวลารวดเร็ว ยอดพันธุ์จะอวบอ้วนสมบูรณ์ นำไปขยายพันธุ์ต่อได้ดี เกษตรกรมักเรียกการเสียบยอดกับต้นตอที่มีขนาดใหญ่นี้ว่า การฝากยอด ซึ่งมีข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการขยายพันธุ์แบบนี้คือ สามารถนำยอดที่อยู่ไกลๆ มาเสียบได้ โดยการตัดยอดพันธุ์แล้วพรมน้ำ นำใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้ได้ถึง 1 สัปดาห์

 

ที่มาภาพ : https://goo.gl/EvU9Wj

       การติดตา   ก็เป็นการขยายพันธุ์ที่จะได้กิ่งยอดที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์อีกวิธีหนึ่ง ใช้ได้กับต้นตอทั้งที่มีขนาดเล็กและมีขนาดใหญ่ สำหรับต้นตอก็ใช้ประเภทและขนาดเหมือนกับวิธีการขยายพันธุ์แบบเสียบยอด สำหรับวิธีการติดตาให้เปิดเปลือกของต้นตอเป็นรูปตัว  U คว่ำ หรือ ตัว T แล้วแบะเปลือกออก เฉือนตาของกิ่งพันธุ์เป็นรุปโล่ห์พร้อมทั้งแกะเอาเนื้อไม้ที่ติดมาออก นำตาเสียบเข้ากับต้นตอ พันด้วยเทปพลาสติกใสให้มิด กันไม่ให้น้ำเข้าได้ ประมาณ 3 สัปดาห์ ตาของกิ่งพันธุ์จะเริ่มแตกออกมา จึงใช้มีดคมๆ เฉือนเทปพลาสติกให้ยอดแทงออกมา พร้อมทั้งตัดยอดของต้นตอออก ตาของกิ่งพันธุ์ก็จะโตอย่างรวดเร็ว เมื่อนำไปปลูกให้พักตัวในเรือนเพาะชำระยะหนึ่ง ก็สามารถนำออกปลูกได้ สำหรับการติดตากับต้นตอที่มีขนาดใหญ่ จะมีวิธีการเหมือนกับต้นตอขนาดเล็ก แต่จะแตกตาและมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อดีของการขยายพันธุ์แบบติดตาคือจะได้จำนวนต้นกล้าเท่ากับจำนวนตาที่มีอยู่ จึงถือว่าเป็นวิธีการที่จะได้ต้นกล้าจำนวนมากในเวลารวดเร็วในอีกวิธีหนึ่ง

 

ที่มาภาพ : http://www.thaibiotech.info/Picture/Plants-Tissue-Culture.jpg

 

       การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช  เป็นวิธีการที่ได้ต้นกล้าจำนวนมากในเวลารวดเร็ว แต่ต้นกล้าจะมีขนาดเล็กและใช้เวลาในการปลูกเลี้ยงและบำรุงรักษาเป็นเวลานาน สำหรับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของจำปีสิรินธร โดยการนำยอดอ่อนขนาดเล็กมาเลี้ยงในวุ้น ซึ่งเป็นอาหารปลอดเชื้อ ในการขยายพันธุ์โดยวิธีการนี้พบว่า ต้นกล้ายังพัฒนาระบบรากได้ไม่ดีนัก

 

 

 

 

 

ที่มาของข้อมูล : http://www.rspg.org/jumpeesirin/jpsirin5.htm

ที่มาของภาพที่ทำแบนเนอร์ : https://goo.gl/VBYJR7

ผู้จัดทำ : กมลวรรณ   ดานะ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 541 คน กำลังออนไลน์