• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ff3fa1b80cf2afa1b0bd512ef8f34b6e' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n          ขณะที่เพื่อน AFS รุ่นเดียวกัน บินไปสหรัฐอเมริกา ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงใบไม้ร่วง อากาศกำลังดี 10 กว่าองศาเซลเซียส “ตั๋ง” โชติ จินดารัตนชลกิจ ยังติดโครงการลูกเสือโลกอยู่ที่อังกฤษ ต้องบินรอบเก็บตกต้นเดือนกันยายน  เวลาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจึงลดลงจาก 11 เดือน เหลือเพียง 10 เดือน\n</p>\n<p>\n          <strong>ไปลูกเสือโลกได้อะไร<br />\n</strong>          “โครงการนี้รับนักเรียนไทยระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย 60 คน รวมทั้งค่ายที่มาจากทั่วโลกประมาณ 4 หมื่นคน ไปอยู่ครึ่งเดือน ได้ใช้ชีวิต ทักษะลูกเสือ ได้รู้จักการทำอาหารจากสิ่งที่มีอยู่จำกัด กินได้โดยไม่ท้องเสีย”\n</p>\n<p>\n          <strong>ค่าใช้จ่าย<br />\n</strong>          7,990 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมเงินสดติดตัวไปเอง 700 เหรียญสหรัฐ บัตรเดบิต 1 ใบ เฉลี่ยใช้ทั้งปีมากกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐ\n</p>\n<p>\n      <strong>    กรอกใบสมัครก่อนไป<br />\n</strong>          ก่อนเข้าโครงการนี้ ต้องกรอกรายละเอียดบุคลิกลักษณะส่วนตัว เป็นคนแบบไหน ชอบอะไร เพื่อจับคู่กับครอบครัวอเมริกันที่เหมาะสมที่สุด <br />\n          เทคนิคการตอบแบบสอบถาม พยายามเลือกข้อที่ใกล้เคียงกับตนเอง และไม่สร้างเงื่อนไขที่อาจทำให้การจับคู่ระหว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนและ Host Family รอนานขึ้น หรือการเลือกตอบทุกข้อก็มีส่วนทำให้โฮสต์คาดหวังจะเห็นในสิ่งที่เราเป็น เช่น ชอบคุย ชอบเล่นกีฬา ชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ <br />\n          : โฮสต์รับนักเรียนแลกเปลี่ยนครั้งแรก พ่อ แม่ทำงานสังคมสงเคราะห์ มีลูกสาวสองคน (คนเล็กอายุ 8 ขวบ คนโตอายุมากกว่าตั๋ง 1 เดือน) อีกสองคนเป็นผู้พิการทางสมองที่พ่อแม่รับมาอยู่ด้วย ครอบครัวนี้ดูแลตั้งแต่ตื่นเช้า พาไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าว แรก ๆ คิดว่าจะไหวเหรอ จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ คิดอีกทีขนาดโฮสต์ยังรับ แสดงว่ามีจิตใจดี ไม่น่าจะมีปัญหา เราคุยกับเขาได้เลย คนหนึ่งฟังได้ยินแต่ไม่พูดด้วย แต่จะส่งสัญญาณแทน เช่น เอามือปิดปากเวลาจะกินข้าว ส่วนอีกคนพูดไม่ได้ ถ้าตั้งใจพูดจะตะกุกตะกัก และถ้าถามอะไร จะตอบคำหลังทุกครั้ง สองคนนี้สร้างสีสันให้ครอบครัว ทำให้เราเรียนรู้ที่จะต้องใจเย็นขึ้น โมโหไม่ได้ เขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"300\" src=\"/files/u20/chote.jpg\" height=\"450\" style=\"width: 244px; height: 427px\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n          <strong>ของที่ระลึกฝากโฮสต์<br />\n</strong>          : ของไทย ๆ เช่น กระเป๋า กล่องทิชชู่ สร้อย เสื้อลายตุ๊ก ๆ วัดพระแก้ว แล้วก็ซื้อปลอกคอให้สุนัขด้วย\n</p>\n<p>\n          <strong>มีชื่อฝรั่งไหม</strong><br />\n          : คนอเมริกันอ่านชื่อตั๋งไม่ได้ แอดไวเซอร์เรียกตัวแรกของชื่อจริงกับนามสกุล รวมเป็น cj แต่ที่บ้านของโฮสต์ยังเรียกว่าโชติ\n</p>\n<p>\n         <strong> โรงเรียนที่ไปเรียน</strong><br />\n          : University School of Milwaukee, Brown Deer Port Washington, Wisconsin เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก 1,200 คน สอนอนุบาลถึงม.6 เทียบกับบางโรงเรียนมีนักเรียน 3,000-4,000 คน สอนเฉพาะม.3-ม.6 ค่าเทอมประมาณ 18,000 เหรียญต่อปี รวมทุกอย่าง ทุกคนต้องใส่ยูนิฟอร์ม เสื้อเชิ้ตขาว ไทค์สีอะไรก็ได้ กางเกงสีกากี ใส่สูทโรงเท้าหนัง และในฐานะที่ตั๋งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่ต้องเสียค่าเทอม<br />\n          : มาตรฐานโรงเรียนเอกชนสูงกว่ารัฐบาล หลักสูตรวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนรัฐบาล เทียบเท่ากับม.4 โรงเรียนเอกชน นักเรียนที่นั่นไม่ต้องแข่งขันมาก เพราะมหาวิทยาลัยเยอะ ทุกคนมีที่เรียนแน่ ถ้ามีเงินจ่าย บ้านเราต้องเลือกคณะเลย ถ้าไม่สนใจต้องลาออกแล้วเลือกเข้าไปใหม่ ที่นั่นไปเรียนแล้วยังไม่ต้องเลือกคณะ พอปีสองปีสามค่อยเลือกสายที่ต้องการเรียน ภายใต้เงื่อนไขว่ามีหน่วยกิตพอเรียนสายนั้น ทำให้ไม่เครียด ศักยภาพบ้านเขาทำได้ ค่านิยมเขาไม่ได้มุ่งต้องเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ\n</p>\n<p>\n          <strong>เลือกเรียนอะไรบ้าง<br />\n</strong>          : ฟิสิกส์ เคมี ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เทอมแรกลงวาดรูป ส่วนเทอมสองลงถ่ายภาพ<br />\nใช้เวลาพอสมควรกับการวาดภาพเพราะไม่ถนัด\n</p>\n<p>\n          <strong>ชิวิตประจำวัน<br />\n</strong>          : เรียนจันทร์ถึงศุกร์ ตื่นหกโมงเช้า ไม่ต้องอาบน้ำ เพราะอากาศหนาว แค่ล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าว โฮสต์ซิสขับรถพาไปโรงเรียน (อยู่โรงเรียนเดียวกับโฮสต์ซิส) ด้วยความอยากได้เพื่อน ลงชมรมกีฬาทุกอย่าง พอได้ยินประกาศว่ามีชมรมปิงปอง ผมเคยเล่นให้ทีมอัสสัมชัญ เมื่อตอนมัธยมต้น จึงสมัครเข้าชมรมนี้ โคชเห็นเราตีเป็น ลองให้ตีกับหุ่นยนต์ เราก็หวด ทั้งยิมไม่เคยเห็นคนหวดแบบนี้ นอกจากอาจารย์ที่สอน จึงเริ่มโด่งดังด้านปิงปองของโรงเรียน โคชถามอยากตีจริงจังไหม เดี๋ยวหาชมรมนอกโรงเรียนให้ เลยโทรศัพท์กลับมาที่บ้านบอกพ่อให้ส่งไม้ปิงปอง(คู่ใจ)ไปให้ เริ่มซ้อมที่ชมรมในเมือง อยู่ห่างจากบ้าน 40 นาที ไปกลับชั่วโมงกว่า ตีหกโมงครึ่งถึงสามทุ่มครึ่ง ทุกวันศุกร์เย็น ที่นั่นไม่มีสอนปิงปองจริงจัง เราไปช่วยสอนเทคนิคการทำแต้ม แล้วเขาสอนเรากลับ พอมีแข่งก็แข่งกับเขา ชนะรัฐมารายการเดียว เพราะรายการอื่นมีแต่ผู้ใหญ่หมด<br />\n          : ส่วนใหญ่นักเรียนแลกเปลี่ยนจะหมดเวลาไปกับกีฬา โครงการ AFS จะแนะนำให้เล่นกีฬา เพราะเรียนในโรงเรียนเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้าย ถ้าเล่นกีฬา อยู่ทีมเดียวกันต้องคุยกัน ส่วนผู้หญิงจะลงชมรมทำกับข้าว หรือบางคนใช้วิธีเข้าหาเพื่อนด้วยการถามชื่อ ยืมหนังสือ หรือถามคำศัพท์\n</p>\n<p>\n         <strong> โฮสต์กับเพื่อนพูดถึงเรา<br />\n</strong>          : น้องเห็นผมเป็นเพื่อนเล่นสนุกสนาน ส่วนลูกสาวอีกคน ผมช่วยทำการบ้าน และแบ่งเบาภาระในบ้าน พ่อแม่เขียนเฟรนด์ชิพให้ผม เขาไม่คิดว่าจะมีเด็กแลกเปลี่ยนคนไหนเข้ากับสมาชิกที่พิการในบ้านได้ขนาดนี้ เราไม่เคยบ่น ไม่เคยมีปัญหา เราดูมีความสุขที่ได้อยู่กับพวกเขา ส่วนเพื่อน ๆ ว่าเราเป็นคนง่าย ๆ ช่วยสอนการบ้านให้เพื่อน เป็นคนไทยคนเดียวที่เขารู้จัก นิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แจกของตลอด คริสต์มาสอีฟก็แจก ก่อนกลับก็แจก เป็นพวงกุญแจช้าง ก่อนกลับของอะไรที่ไม่อยากเอากลับ แล้วไม่อยากทิ้ง เช่น เสื้อ ให้เขาไปเลย เพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนบางคนแพคกระเป๋าไปเต็มแล้ว  มีของที่อยากเอากลับด้วย ทำให้น้ำหนักเกิน ต้องส่งกลับเมืองไทย เปลืองเงิน ของที่ผมเอากลับเป็นหนังสือนิยาย ผลงานศิลปะ ผลงานถ่ายรูป เฟรนด์ชิฟ ถ้วยรางวัล เสื้อผ้าที่เพื่อนหรือโฮสต์ซื้อให้ แต่เสียดายไม่ได้ซื้อถุงมือเบสบอลกับลูกฟุตบอลกลับมาด้วย\n</p>\n<p>\n         <strong> แลกเปลี่ยนความเป็นไทย<br />\n</strong>          : โอสต์พ่อค่อนข้างมีการศึกษา รู้ว่าไทยอยู่ตรงไหน พอเราก้าวไปในครอบครัวเขา เมื่อไหร่มีข่าวเกี่ยวกับไทยในทีวี จะเริ่มติดตามข่าว มาถามเรา โฮสต์ใจดี สอนการใช้ชีวิตแบบอเมริกัน และมีถามบ้างเรื่องการเมือง ว่าจริง ๆ เกิดอะไรขึ้น เขาไม่ค่อยเชื่อข่าว เราก็อธิบายให้ฟัง ทำอาหารให้โฮสต์กินด้วย มีกล้วยบวดชี ขนมปังหน้าหมู ข้าวต้มกระดูกหมู ยำปลากระป๋อง กุ้งทอดกระเทียม หมูทอดกระเทียม ผัดผัก ต้มยำ แกงเขียวหวาน ผัดไทย (อยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้ทำ นอกจากออกค่าย แต่กินแล้วไม่ท้องเสียแน่!)<br />\n <br />\n        <strong>  เสน่ห์เมืองที่อยู่<br />\n</strong>          : ทะเลสาบมิชิแกน ใส สะอาด เย็น น่าเล่นมาก เมืองที่อยู่เป็นเมืองท่าเรือ มีปาร์ตี้โจรสลัด มีประภาคารสวย ตื่นเช้าออกนอกบ้านได้ยินเสียงคลื่น อากาศเย็น แม้แดดออกก็ยังน่าเดิน ฤดูหนาวอุณหภูมิไม่เกิน 0 องศาเซลเซียส หนาวสุดติดลบ 42 องศาเซลเซียส ผมเคยไปชิคาโกสองครั้ง มีพิพิธภัณฑ์เยอะ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ  มีดาวน์ทาวน์ขายของแล้วก็ได้เที่ยวดีซี น่าอยู่ อาคารไม่สูง พิพิธภัณฑ์เยอะ และ นิวยอร์ก คล้ายสยาม มีที่เดินเที่ยว ที่เที่ยวเรียงลำดับความประทับใจ  ดีซี นิวยอร์ก และชิคาโก<br />\n <br />\n          <strong>อาหารการกิน<br />\n</strong>          : ไปถึงแรก ๆ ท้องเสีย เพราะปลี่ยนโซนอาหาร ขากลับก็เป็น กลับมากินยำวุ้นเส้น อาหารที่นั่นชอบอะไร ตอบไม่ได้ เพราะที่ชอบจำชื่อไม่ได้ น้ำหนักขึ้นเจ็ดกิโลกรัม ไม่ได้ตั้งใจจะลดอยู่แล้ว ดูไม่อ้วนขึ้นมาก เพราะกางเกงใส่ได้ทุกตัว\n</p>\n<p>\n          <strong>คุ้มค่าที่ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน</strong><br />\n          : ในชีวิตคงไม่ได้มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกแล้ว ได้สร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์กับเพื่อนต่างชาติและครอบครัว หวังว่าจะมีประโยชน์ในอนาคต ที่สำคัญกลับมามีความคิดเปลี่ยนไป คิดอะไรใหม่ ทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ เช่น เขียนหนังสือ\n</p>\n<p>\n         <strong> ของที่เตรียมไป<br />\n</strong>          : เสื้อผ้า หนังสือเกี่ยวกับประเทศไทย ของที่ระลึก อุปกรณ์กันหนาว แว่นกันแดด กล้อง ทอคกิ้งดิค ดิคชันนารี ซีดีเปล่า อาหารกล่อง แล้วแต่คนด้วย ผมไปลูกเสือบ่อย จัดง่ายๆ อยู่ง่ายๆ อะไรก็ได้ ก็จัดน้อยหน่อย ถ้าเป็นผู้หญิงจัดอีกแบบ\n</p>\n<hr id=\"null\" />\n<p align=\"right\">\n<a href=\"mailto:watta.ryo@gmail.com\">watta.ryo@gmail.com</a> , <a href=\"mailto:bangkok2516@gmail.com\">bangkok2516@gmail.com</a>\n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n', created = 1719803150, expire = 1719889550, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ff3fa1b80cf2afa1b0bd512ef8f34b6e' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS อเมริกา

          ขณะที่เพื่อน AFS รุ่นเดียวกัน บินไปสหรัฐอเมริกา ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงใบไม้ร่วง อากาศกำลังดี 10 กว่าองศาเซลเซียส “ตั๋ง” โชติ จินดารัตนชลกิจ ยังติดโครงการลูกเสือโลกอยู่ที่อังกฤษ ต้องบินรอบเก็บตกต้นเดือนกันยายน  เวลาที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจึงลดลงจาก 11 เดือน เหลือเพียง 10 เดือน

          ไปลูกเสือโลกได้อะไร
          “โครงการนี้รับนักเรียนไทยระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย 60 คน รวมทั้งค่ายที่มาจากทั่วโลกประมาณ 4 หมื่นคน ไปอยู่ครึ่งเดือน ได้ใช้ชีวิต ทักษะลูกเสือ ได้รู้จักการทำอาหารจากสิ่งที่มีอยู่จำกัด กินได้โดยไม่ท้องเสีย”

          ค่าใช้จ่าย
          7,990 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมเงินสดติดตัวไปเอง 700 เหรียญสหรัฐ บัตรเดบิต 1 ใบ เฉลี่ยใช้ทั้งปีมากกว่า 2,000 เหรียญสหรัฐ

          กรอกใบสมัครก่อนไป
          ก่อนเข้าโครงการนี้ ต้องกรอกรายละเอียดบุคลิกลักษณะส่วนตัว เป็นคนแบบไหน ชอบอะไร เพื่อจับคู่กับครอบครัวอเมริกันที่เหมาะสมที่สุด 
          เทคนิคการตอบแบบสอบถาม พยายามเลือกข้อที่ใกล้เคียงกับตนเอง และไม่สร้างเงื่อนไขที่อาจทำให้การจับคู่ระหว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนและ Host Family รอนานขึ้น หรือการเลือกตอบทุกข้อก็มีส่วนทำให้โฮสต์คาดหวังจะเห็นในสิ่งที่เราเป็น เช่น ชอบคุย ชอบเล่นกีฬา ชอบเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ 
          : โฮสต์รับนักเรียนแลกเปลี่ยนครั้งแรก พ่อ แม่ทำงานสังคมสงเคราะห์ มีลูกสาวสองคน (คนเล็กอายุ 8 ขวบ คนโตอายุมากกว่าตั๋ง 1 เดือน) อีกสองคนเป็นผู้พิการทางสมองที่พ่อแม่รับมาอยู่ด้วย ครอบครัวนี้ดูแลตั้งแต่ตื่นเช้า พาไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าว แรก ๆ คิดว่าจะไหวเหรอ จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ คิดอีกทีขนาดโฮสต์ยังรับ แสดงว่ามีจิตใจดี ไม่น่าจะมีปัญหา เราคุยกับเขาได้เลย คนหนึ่งฟังได้ยินแต่ไม่พูดด้วย แต่จะส่งสัญญาณแทน เช่น เอามือปิดปากเวลาจะกินข้าว ส่วนอีกคนพูดไม่ได้ ถ้าตั้งใจพูดจะตะกุกตะกัก และถ้าถามอะไร จะตอบคำหลังทุกครั้ง สองคนนี้สร้างสีสันให้ครอบครัว ทำให้เราเรียนรู้ที่จะต้องใจเย็นขึ้น โมโหไม่ได้ เขาไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้

 

 

          ของที่ระลึกฝากโฮสต์
          : ของไทย ๆ เช่น กระเป๋า กล่องทิชชู่ สร้อย เสื้อลายตุ๊ก ๆ วัดพระแก้ว แล้วก็ซื้อปลอกคอให้สุนัขด้วย

          มีชื่อฝรั่งไหม
          : คนอเมริกันอ่านชื่อตั๋งไม่ได้ แอดไวเซอร์เรียกตัวแรกของชื่อจริงกับนามสกุล รวมเป็น cj แต่ที่บ้านของโฮสต์ยังเรียกว่าโชติ

          โรงเรียนที่ไปเรียน
          : University School of Milwaukee, Brown Deer Port Washington, Wisconsin เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก 1,200 คน สอนอนุบาลถึงม.6 เทียบกับบางโรงเรียนมีนักเรียน 3,000-4,000 คน สอนเฉพาะม.3-ม.6 ค่าเทอมประมาณ 18,000 เหรียญต่อปี รวมทุกอย่าง ทุกคนต้องใส่ยูนิฟอร์ม เสื้อเชิ้ตขาว ไทค์สีอะไรก็ได้ กางเกงสีกากี ใส่สูทโรงเท้าหนัง และในฐานะที่ตั๋งเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ไม่ต้องเสียค่าเทอม
          : มาตรฐานโรงเรียนเอกชนสูงกว่ารัฐบาล หลักสูตรวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนรัฐบาล เทียบเท่ากับม.4 โรงเรียนเอกชน นักเรียนที่นั่นไม่ต้องแข่งขันมาก เพราะมหาวิทยาลัยเยอะ ทุกคนมีที่เรียนแน่ ถ้ามีเงินจ่าย บ้านเราต้องเลือกคณะเลย ถ้าไม่สนใจต้องลาออกแล้วเลือกเข้าไปใหม่ ที่นั่นไปเรียนแล้วยังไม่ต้องเลือกคณะ พอปีสองปีสามค่อยเลือกสายที่ต้องการเรียน ภายใต้เงื่อนไขว่ามีหน่วยกิตพอเรียนสายนั้น ทำให้ไม่เครียด ศักยภาพบ้านเขาทำได้ ค่านิยมเขาไม่ได้มุ่งต้องเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ

          เลือกเรียนอะไรบ้าง
          : ฟิสิกส์ เคมี ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เทอมแรกลงวาดรูป ส่วนเทอมสองลงถ่ายภาพ
ใช้เวลาพอสมควรกับการวาดภาพเพราะไม่ถนัด

          ชิวิตประจำวัน
          : เรียนจันทร์ถึงศุกร์ ตื่นหกโมงเช้า ไม่ต้องอาบน้ำ เพราะอากาศหนาว แค่ล้างหน้า แปรงฟัน กินข้าว โฮสต์ซิสขับรถพาไปโรงเรียน (อยู่โรงเรียนเดียวกับโฮสต์ซิส) ด้วยความอยากได้เพื่อน ลงชมรมกีฬาทุกอย่าง พอได้ยินประกาศว่ามีชมรมปิงปอง ผมเคยเล่นให้ทีมอัสสัมชัญ เมื่อตอนมัธยมต้น จึงสมัครเข้าชมรมนี้ โคชเห็นเราตีเป็น ลองให้ตีกับหุ่นยนต์ เราก็หวด ทั้งยิมไม่เคยเห็นคนหวดแบบนี้ นอกจากอาจารย์ที่สอน จึงเริ่มโด่งดังด้านปิงปองของโรงเรียน โคชถามอยากตีจริงจังไหม เดี๋ยวหาชมรมนอกโรงเรียนให้ เลยโทรศัพท์กลับมาที่บ้านบอกพ่อให้ส่งไม้ปิงปอง(คู่ใจ)ไปให้ เริ่มซ้อมที่ชมรมในเมือง อยู่ห่างจากบ้าน 40 นาที ไปกลับชั่วโมงกว่า ตีหกโมงครึ่งถึงสามทุ่มครึ่ง ทุกวันศุกร์เย็น ที่นั่นไม่มีสอนปิงปองจริงจัง เราไปช่วยสอนเทคนิคการทำแต้ม แล้วเขาสอนเรากลับ พอมีแข่งก็แข่งกับเขา ชนะรัฐมารายการเดียว เพราะรายการอื่นมีแต่ผู้ใหญ่หมด
          : ส่วนใหญ่นักเรียนแลกเปลี่ยนจะหมดเวลาไปกับกีฬา โครงการ AFS จะแนะนำให้เล่นกีฬา เพราะเรียนในโรงเรียนเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้าย ถ้าเล่นกีฬา อยู่ทีมเดียวกันต้องคุยกัน ส่วนผู้หญิงจะลงชมรมทำกับข้าว หรือบางคนใช้วิธีเข้าหาเพื่อนด้วยการถามชื่อ ยืมหนังสือ หรือถามคำศัพท์

          โฮสต์กับเพื่อนพูดถึงเรา
          : น้องเห็นผมเป็นเพื่อนเล่นสนุกสนาน ส่วนลูกสาวอีกคน ผมช่วยทำการบ้าน และแบ่งเบาภาระในบ้าน พ่อแม่เขียนเฟรนด์ชิพให้ผม เขาไม่คิดว่าจะมีเด็กแลกเปลี่ยนคนไหนเข้ากับสมาชิกที่พิการในบ้านได้ขนาดนี้ เราไม่เคยบ่น ไม่เคยมีปัญหา เราดูมีความสุขที่ได้อยู่กับพวกเขา ส่วนเพื่อน ๆ ว่าเราเป็นคนง่าย ๆ ช่วยสอนการบ้านให้เพื่อน เป็นคนไทยคนเดียวที่เขารู้จัก นิสัยดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แจกของตลอด คริสต์มาสอีฟก็แจก ก่อนกลับก็แจก เป็นพวงกุญแจช้าง ก่อนกลับของอะไรที่ไม่อยากเอากลับ แล้วไม่อยากทิ้ง เช่น เสื้อ ให้เขาไปเลย เพื่อนนักเรียนแลกเปลี่ยนบางคนแพคกระเป๋าไปเต็มแล้ว  มีของที่อยากเอากลับด้วย ทำให้น้ำหนักเกิน ต้องส่งกลับเมืองไทย เปลืองเงิน ของที่ผมเอากลับเป็นหนังสือนิยาย ผลงานศิลปะ ผลงานถ่ายรูป เฟรนด์ชิฟ ถ้วยรางวัล เสื้อผ้าที่เพื่อนหรือโฮสต์ซื้อให้ แต่เสียดายไม่ได้ซื้อถุงมือเบสบอลกับลูกฟุตบอลกลับมาด้วย

          แลกเปลี่ยนความเป็นไทย
          : โอสต์พ่อค่อนข้างมีการศึกษา รู้ว่าไทยอยู่ตรงไหน พอเราก้าวไปในครอบครัวเขา เมื่อไหร่มีข่าวเกี่ยวกับไทยในทีวี จะเริ่มติดตามข่าว มาถามเรา โฮสต์ใจดี สอนการใช้ชีวิตแบบอเมริกัน และมีถามบ้างเรื่องการเมือง ว่าจริง ๆ เกิดอะไรขึ้น เขาไม่ค่อยเชื่อข่าว เราก็อธิบายให้ฟัง ทำอาหารให้โฮสต์กินด้วย มีกล้วยบวดชี ขนมปังหน้าหมู ข้าวต้มกระดูกหมู ยำปลากระป๋อง กุ้งทอดกระเทียม หมูทอดกระเทียม ผัดผัก ต้มยำ แกงเขียวหวาน ผัดไทย (อยู่เมืองไทยไม่ค่อยได้ทำ นอกจากออกค่าย แต่กินแล้วไม่ท้องเสียแน่!)
 
          เสน่ห์เมืองที่อยู่
          : ทะเลสาบมิชิแกน ใส สะอาด เย็น น่าเล่นมาก เมืองที่อยู่เป็นเมืองท่าเรือ มีปาร์ตี้โจรสลัด มีประภาคารสวย ตื่นเช้าออกนอกบ้านได้ยินเสียงคลื่น อากาศเย็น แม้แดดออกก็ยังน่าเดิน ฤดูหนาวอุณหภูมิไม่เกิน 0 องศาเซลเซียส หนาวสุดติดลบ 42 องศาเซลเซียส ผมเคยไปชิคาโกสองครั้ง มีพิพิธภัณฑ์เยอะ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ  มีดาวน์ทาวน์ขายของแล้วก็ได้เที่ยวดีซี น่าอยู่ อาคารไม่สูง พิพิธภัณฑ์เยอะ และ นิวยอร์ก คล้ายสยาม มีที่เดินเที่ยว ที่เที่ยวเรียงลำดับความประทับใจ  ดีซี นิวยอร์ก และชิคาโก
 
          อาหารการกิน
          : ไปถึงแรก ๆ ท้องเสีย เพราะปลี่ยนโซนอาหาร ขากลับก็เป็น กลับมากินยำวุ้นเส้น อาหารที่นั่นชอบอะไร ตอบไม่ได้ เพราะที่ชอบจำชื่อไม่ได้ น้ำหนักขึ้นเจ็ดกิโลกรัม ไม่ได้ตั้งใจจะลดอยู่แล้ว ดูไม่อ้วนขึ้นมาก เพราะกางเกงใส่ได้ทุกตัว

          คุ้มค่าที่ได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน
          : ในชีวิตคงไม่ได้มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกแล้ว ได้สร้างเครือข่ายสายสัมพันธ์กับเพื่อนต่างชาติและครอบครัว หวังว่าจะมีประโยชน์ในอนาคต ที่สำคัญกลับมามีความคิดเปลี่ยนไป คิดอะไรใหม่ ทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ เช่น เขียนหนังสือ

          ของที่เตรียมไป
          : เสื้อผ้า หนังสือเกี่ยวกับประเทศไทย ของที่ระลึก อุปกรณ์กันหนาว แว่นกันแดด กล้อง ทอคกิ้งดิค ดิคชันนารี ซีดีเปล่า อาหารกล่อง แล้วแต่คนด้วย ผมไปลูกเสือบ่อย จัดง่ายๆ อยู่ง่ายๆ อะไรก็ได้ ก็จัดน้อยหน่อย ถ้าเป็นผู้หญิงจัดอีกแบบ


watta.ryo@gmail.com , bangkok2516@gmail.com


 


 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 601 คน กำลังออนไลน์