วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
พระราชครูวามเทพมุนี เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายด้ายพระขวัญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผูกด้ายพระขวัญที่ข้อพระกรพระเจ้าหลานเธอฯ เสร็จแล้วสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงผูกด้ายพระขวัญที่ข้อพระกรพระเจ้าหลานเธอฯ ทั้ง 2 ข้าง จากนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอฯ ไปประทับพักยังรถเข็นที่ประทับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ และชัยมงคลคาถา อาทิ สมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศ พระธรรมวโรดม พระพรหมวชิรญาณ เป็นต้น จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนาถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากห้องพระราชพิธี
เมื่อพระสงฆ์ออกจากห้องพิธีแล้ว พระราชครูวามเทพมุนีจะได้เข้าไปกราบถวายบังคมแล้วยกพระอู่ขึ้นแขวนที่สะดึงและแขวนภาพแม่ซื้อประจำวันศุกร์ซึ่งเป็นวันประสูติของพระเจ้าหลานเธอฯ คือ ยะสะนงเยาว์ มีศีรษะเป็นวัว เทพที่คอยปกปักรักษาพระเจ้าหลานเธอฯ พระราชครูปูลาดพระยี่ภู่ (เบาะรองนอน) วางศิลาบด อันหมายถึงความหนักแน่น มั่นคง ยั่งยืนผลฟักเขียวทาดินสอพองซึ่งมีความหมายถึงการรักษาความอยู่เย็นเป็นสุขไว้ให้ยืนนาน และถุงพรรณพืชประกอบด้วย ข้าวเปลือก ถั่ว งา อันมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ลงในพระอู่และหลั่งน้ำเทพมนตร์ แล้วเจิมสะดึงและพระอู่
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานทองคำแท่งจารึกอักษรพระนามแก่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ทำประทีป คือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง, ผู้ทำเกาะ คือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง" และพระราชทานเครื่องราชภัณฑ์ตามราชประเพณีลงในพระอู่ อันประกอบด้วย หีบทองคำบรรจุดวงพระชาตา ทองคำแท่งปิดอักษรพระราชทานพระนาม ทองคำแท่งติดอักษรพระนามพระเจ้าหลานเธอ 6 แท่งน้ำหนัก 10 ชั่ง หรือ 80 บาท เงินตราบรรจุถุงเหรียญ 10 บาท หนัก 10 ชั่ง จำนวน 800 บาท พระแสงขรรค์เพชรน้อยและพระแสงปืนนพรัตน์ ซึ่งเป็นเครื่องราชภัณฑ์สำหรับพระโอรสเท่านั้น ขันสรงพระพักตร์ ทองคำขอบลงยา พานรองพร้อม กาทองคำ ถาดรองพร้อม จากนั้นพนักงานฝ่ายในคอยรับเชิญเครื่องราชภัณฑ์ออกจากพระอู่ไปตั้งที่เดิม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางเครื่องราชภัณฑ์แล้วประทับพระราชอาสน์ที่เดิม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชครูวามเทพมุนี ถวายน้ำเทพมนตร์ที่พระหัตถ์พระเจ้าหลานเธอฯ และถวายใบมะตูม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญเสด็จพระเจ้าหลานเธอฯ ลงบรรทมในพระอู่ โดยมีพยาบาลพระพี่เลี้ยงเฝ้าถวายงานอยู่ข้างพระอู่ คือ นาวาอากาศตรีหญิงสุรัญชนา เกษมจิตต์ และร้อยเอกหญิงนฤมล สัมผัส สังกัดหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
เมื่อพระเจ้าหลานเธอฯ บรรทมในพระอู่เรียบร้อยแล้ว พระราชครูวามเทพมุนีได้ไกวพระอู่และพราหมณ์ผู้ช่วย 2 ท่านได้ถวายเห่กล่อม ซึ่งประกอบบทบูชาพราหมณ์ พระนารายณ์ พระอิศวร พระพิฆเนศ และบทขอพรพระเป็นเจ้าทุกพระองค์ โดยเมื่อจบในแต่ละบทพราหมณ์จะเป่าสังข์ 1 ครั้ง จากนั้นพนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์จบเป็นตอนๆ พร้อมด้วยโหรหลวงลั่นฆ้องชัย ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตร และดุริยางค์ โดยพระเจ้าหลานเธอฯ อยู่ในพระอาการบรรทมแต่ยังไม่สบายพระองค์นักจึงทรงส่งพระสุรเสียงและได้รับการถวายน้ำนมจากพยาบาลพระพี่เลี้ยงเป็นระยะ
พราหมณ์เห่กล่อมจบ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พราหมณ์เบิกแว่น พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการรับแว่นเวียนเทียนสมโภช 3 รอบ เมื่อเวียนเทียนครบ 2 รอบแล้ว พระราชครูวามเทพมุนีจะคลี่ผ้าห่มคลุมบายศรีแก้ว ทอง เงิน ออกแล้วเชิญไปถวายโดยวางที่โต๊ะข้างพระอู่ จากนั้นพระครูเทพมุนีถวายเจิมและถวายด้ายพระขวัญพาดที่พระบาท เสร็จแล้วพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ผูกข้อพระบาททั้ง 2 ข้างของพระเจ้าหลานเธอฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาถวายฯ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินออกจากห้องพระราชพิธีประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ส่งเสด็จ
จากนั้นเวลา 16.50 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จฯ ออกห้องพระราชพิธี โปรดเกล้าฯ ให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูติบัตรของพระเจ้าหลานเธอฯ พร้อมทั้งพระราชทานพระราชวโรกาสให้ข้าราชการน้อมเกล้าฯ ถวายของขวัญแด่พระเจ้าหลานเธอฯ ตามแต่สมควร
โดยระหว่างนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงผลัดเปลี่ยนกันอุ้มพระเจ้าหลานเธอฯ ด้วยพระพักตร์ที่เปี่ยมสุข ก่อนจะเสด็จฯ ประทับรถยนต์พระที่นั่งเพื่อเสด็จฯ ยังพระที่นั่งอัมพรสถานเพื่อสักการะพระพุทธรูปประจำพระที่นั่งอัมพรสถานทั้ง 4 พระองค์ ซึ่งพระเจ้าหลานเธอฯ ยังทรงอยู่ในพระอาการสงบนิ่ง ไม่ส่งพระสุรเสียงงอแงแม้แต่น้อย ก่อนจะเสด็จฯ กลับวังศุโขทัยในเวลาประมาณ 17.00 น.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3