“มาร์ค” อ้ำอึ้งสางปัญหาบินไทย [12 มี.ค. 52 - 04:20]
“มาร์ค” อ้ำอึ้งสางปัญหาบินไทย [12 มี.ค. 52 - 04:20]
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ได้พิจารณาเรื่องการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จากท่าอากาศยานดอนเมืองไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นผู้กำหนดการตัดสินใจของการบินไทย จึงให้ถือเป็นการตัดสินใจของการบินไทยเอง
อย่างไรก็ตาม ครม.เศรษฐกิจได้ตั้งข้อสังเกตไว้ทั้งสิ้น 3 ข้อ คือ 1. ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อการบริหารสนามบินว่าจะใช้ สนามบินเดียวหรือสองสนามบิน เพราะจะต้องมีสมมติฐานและตัวเลขที่ชัดเจน รวมทั้งต้องดูขีดความสามารถในการแข่งขันของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ความเป็นไปได้ของการเป็นศูนย์กลางทางการบิน (ฮับ) ซึ่งจำเป็นต้องมีสนามบินแห่งเดียวหรือไม่ โดยให้กระทรวงคมนาคมทำรายละเอียดกลับมาเสนอภายใน 2 สัปดาห์ 2. การบินไทยอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูปรับโครงสร้างองค์กร รวมทั้งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนฝ่ายบริหารในเดือนหน้า จึงมีข้อสังเกตว่าควรให้ผู้บริหารชุดใหม่ได้เข้ามาตัดสินใจเรื่องนี้หรือไม่ และ 3. แม้การตัดสินใจครั้งนี้ทำเพื่อต้องการลดต้นทุนในการดำเนินการ แต่การทำธุรกิจจำเป็นต้องดูแลความรู้สึกของลูกค้าด้วย โดยดูว่าจะฝืนความรู้สึกของลูกค้าที่เป็นคนไทยที่ใช้บริการเที่ยวบินในประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมืองหรือไม่
ขณะที่ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ยืนยันว่าการบินไทยจะย้ายมาให้บริการที่สุวรรณภูมิแน่นอนในวันที่ 29 มี.ค. 2552 นี้ ส่วนสายการบินนกแอร์และวันทูโกแอร์ไลน์จะย้ายมาให้บริการที่สุวรรณภูมิภายในสิ้นปีนี้ โดยการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยนั้นเป็นความต้องการของฝ่ายบริหารการบินไทยเองที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ ส่วนสนามบินดอนเมืองก็จะไม่ปิดให้บริการ แต่จะให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เป็นต้น
สำหรับสาเหตุที่การบินไทยเสนอขอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อขอย้ายฐานการบินมายังสนามบินสุวรรณภูมินั้น ประเด็นหลักคือเพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยการให้บริการที่ดอนเมืองทำให้ การบินไทยขาดทุน เนื่องจากมีรายได้จากการให้บริการเฉลี่ย 600 ล้านบาท/ปี แต่รายจ่ายเฉลี่ยที่ 640 ล้านบาท/ปี ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายจากการใช้น้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นจากการจัดการจราจรทางอากาศอีกปีละ 109 ล้านบาท
“การย้ายสนามบินไม่ใช่นโยบายของกระทรวง แต่เป็นข้อเสนอของฝ่ายบริหารการบินไทยเองที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย เมื่อเสนอแผนงานมา ผมก็เห็นชอบตามนั้นไม่ได้ไปแทรกแซง ทั้งนี้ เรื่องการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยมาให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น เป็นเรื่องแน่นอนแล้ว แต่ที่ต้องทบทวนใหม่คือนโยบายสนามบินเดียว (ซิงเกิลแอร์พอร์ต)”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริหารการบินไทยไม่ต้องการรอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ชุดใหม่เข้ามาตัดสินใจเพราะจะทำให้เรื่องล่าช้า เนื่องจากฝ่ายปฏิบัติการได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ทั้งเรื่องการจัดย้ายและการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าให้กับลูกค้า โดยหลังศึกษาโดยละเอียด พบว่าในภาวะปัจจุบันการใช้ 2 สนามบินทำให้แข่งขันลำบาก “ในอดีตการบินไทยเคยมีส่วนแบ่งตลาดผู้โดยสารในประเทศมากที่สุด แต่ปัจจุบันต้องพ่ายแพ้ต่อสายการบินไทยแอร์เอเชีย ทำให้เสียโอกาสในการหาผู้โดยสาร โดยเฉพาะในเส้นทางบินต่างประเทศที่เข้าไทย เพราะการบินไทยมีตารางการบินที่แยกกัน
ด้านนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวหลังเข้าพบนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ว่า ได้นำข้อมูลและข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาการบินไทยในส่วนของกลุ่มสหภาพฯมามอบให้ รมว.คลัง รวมทั้งยืนยันคัดค้านการย้ายเที่ยวบินจากท่า อากาศยานดอนเมืองกลับไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดย รมว.คลังระบุ กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่การบินไทยจะดูแลเพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ต่อไป และยังรับปากว่าจะแต่งตั้งกรรมการและสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ที่เป็นคนดีมีฝีมือเข้าแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการบินไทยขณะนี้
ขณะเดียวกัน นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สภาท่าอากาศยานสากล (Airport Council International หรือ ACI) ได้ประกาศผลสนามบินให้บริการดีเด่น ประจำปี 2551 โดยสนามบินสุวรรณภูมิได้รับรางวัลที่ 5 ในประเภทรองรับผู้โดยสารมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี ซึ่งมีท่าอากาศยานขนาดนี้เข้าร่วมประกวดทั้งหมด 12 แห่ง โดยขยับขึ้นจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว.
ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=127422