หนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือน

รูปภาพของ sss29712

       “หาวเป็นดาวเป็นเดือน” วลีนี้มีที่มาจากการแสดงโขน และเป็นวลีที่คนไทยรู้จักกันดีว่าหมายถึง หนุมานทหารเอกของพระราม ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ และถือว่าเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของหนุมานซึ่งกำเนิดจากเทพอาวุธและกำลังของพระอิศวร

หนุมานมีของวิเศษประจำกายคือ กุณฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้ว รวมทั้งความสามารถพิเศษคือหาวเป็นดาวและเดือนได้ (จะสังเกตเห็นได้ว่าศีรษะโขนของหนุมาน ในปากช่างจะประดิษฐ์ให้มี รูปดาวล้อมเดือนเล็กๆ ประดับอยู่) การหาวนี้เป็นสิ่งสำคัญที่หนุมานใช้พิสูจน์ ดีเอ็นเอ ของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งนิติวิทยาศาสตร์ อย่างในปัจจุบัน

การที่ผู้เขียนกล่าวเช่นนี้ เป็นเพราะทุกครั้งที่หนุมานแผลงฤทธิ์ หรือแสดงอิทธิฤทธิ์นั้น ใช้เพื่อการพิสูจน์ให้รู้ว่าตนเป็นหนุมานตัวจริง และในบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ฉบับรัชกาลที่ ๑ นั้นพบว่าตลอดเรื่องรามเกียรติ์ หนุมานได้แสดงอิทธิฤทธิ์โดยการหาวเป็นดาวเป็นเดือนทั้งหมด ๕ ตอน ดังนี้

๑. ตอนกำเนิดหนุมาน เมื่อครบกำหนดคลอด 90 วัน หนุมานกระโดดออกมาจากปากนางสวาหะผู้เป็นมารดาแล้วแผลงฤทธิ์

๒. ตอนหนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี เมื่อพระรามใช้ให้หนุมานองคต และชมพูพานไปสืบมรรคา หรือสืบดูเส้นทางการยกทัพไปกรุงลงกา พร้อมทั้งนำแหวนและสไบไปมอบให้นางสีดาและทูลนางสีดาว่าพระรามกำลังยกทัพมาช่วย
    ระหว่างการเดินทางหนุมานได้พบกันนางบุษมาลีซึ่งเป็นนางฟ้าที่ถูกพระอินทร์สาปให้ลงมาอยู่ในเมืองบายนแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลาสามหมื่นปี จนกว่าจะพบทหารพระนารายณ์จึงจะพ้นคำสาป หนุมานจึงต้องแผลงฤทธิ์เพื่อให้นางบุษมาลีเชื่อว่าตนคือ หนุมานทหารพระนารายณ์จริงและหนุมานก็ได้นางบุษมาลีเป็นเมียในที่สุด ในบทพระราชนิพนธ์ได้กล่าวถึงตอนหนุมานแผลงฤทธิ์หาวเป็นดาวเป็นเดือนเพื่อพิสูจน์ตัว

๓. ตอนหนุมานพบมัจฉานุ ในศึกไมยราพ เมื่อนางสุพรรณมัจฉาตกเป็นเมียของหนุมานแล้วนางได้คลอดบุตรออกมาตั้งชื่อว่ามัจฉานุมีรูปร่างลักษณะเหมือนหนุมานทุกประการเพียงแต่มีหางเป็นหางปลาเหมือนแม่
    นางสุพรรณมัจฉากลัวทศกัณฐ์รู้ว่าตนมีบุตรกับศัตรูจำต้องทิ้งมัจฉานุไว้ที่ชายหาดและได้สั่งความไว้ว่าหากพบหนุมานทหารพระรามผู้มีกุณฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้วและสามารถหาวเป็นดาวเดือนได้ให้เข้าไปกราบไหว้เพราะคือพ่อของมัจฉานุ เมื่อหนุมานหักด่านไมยราพ จนไปพบมัจฉานุซึ่งไมยราพเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรมนั้น  เพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเป็นพ่อของมัจฉานุ หนุมานจึงแผลงฤทธิ์ เป็นสี่หน้าแปดกร หาวเป็นดาวเดือนและตะวัน

4. หนุมานเกี้ยวนางวานรินในศึกวิรุญจำบัง นางวานรินเป็นนางฟ้าทำหน้าที่เฝ้าดวงประทีปในห้องของพระอิศวร อยู่มาวันหนึ่งพระอิศวรเป็นเจ้า นั่งสนทนากับบรรดาฤษีและเทวดาอยู่เป็นเวลานาน นางวานรินจึงออกไปพูดคุยกับเพื่อนนางฟ้าจนเพลินทำให้ดวงประทีปของพระอิศวรดับลง พระอิศวรจึงสาปให้ลงมาเฝ้าเขาอังกาศแต่ผู้เดียวไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนนางฟ้าได้อีก
    นางวานรินทร์ต้องรอจนกระทั่งพระนารายณ์ใช้ให้หนุมานมาตามหาวิรุญจำบัง แล้วนางบอกที่ซ้อนของวิรุญจำบังให้กับหนุมาน นางจึงจะพ้นคำสาป
    ครั้นเมื่อหนุมานออกติดตามหาวิรุญจำบัง จนไปพบปราสาทของนางวานรินทร์จึงปลอมเป็นมานพหนุ่ม เข้าไปพุดคุยไต่ถามนางถึงที่ซ้อนของวิรุญจำบัง นางวานรินทร์ไม่เชื่อว่ามานพหนุ่มคือ หนุมาน จึงมีเหตุให้พิสูจน์กันขึ้น

๕. อสุรผัดตามหาพ่อ อสุรผัดเป็นลูกของหนุมานที่เกิดกับนางเบญกาย หลังจากเสร็จศึกทศกัณฐ์ พิเภกได้ครองกรุงลงกา หนุมานออกบวชเป็นฤษีที่เขาแก้วมณฑปแล้วนั้น
    ท้าวจักรวรรดิ์เพื่อนของทศกัณฐ์ยกทัพมายึดเมืองลงกาคืนให้กับทศพิน ลูกคนสุดท้องของทศกัณฐ์ และจับพิเภกขังไว้ นางเบญกายจึงบอกให้อสุรผัดไปแจ้งข่าวแก่บิดาให้มาช่วยเหลืออสุรผัดเมื่อเดินทางมาถึงเขาแก้วมณฑปพบหนุมานที่แปลงเป็นดาบส อ้างว่าเป็นบิดาตนจึงไม่เชื่อ หนุมานจึงต้องแผลงฤทธิ์หาวเป็นดาวเดือนอีกครั้ง

นางสาว พัสวี่ เกษมวัฒนชัย ม.6/6 เลขที่9

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 613 คน กำลังออนไลน์