• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:d43a06dca001b3f03e54c965a4c7fcd9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><span style=\"font-size: large; color: #333333; font-family: Tahoma\"> </span><span style=\"font-size: x-small; font-family: Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif\"><span class=\"style88\"> </span></span></p>\n<div align=\"left\">\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: large; color: #ff00ff\"><strong>กระบวนการเกิดฝน</strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"><span style=\"font-size: medium; color: #990000\"><strong>วงจรวัฏจักรน้ำ </strong></span><span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"><strong><span style=\"color: #3333ff\"></span></strong></span><strong></strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif\"><strong></strong></span>\n</p>\n</div>\n<blockquote><div align=\"justify\">\n<p align=\"center\">\n <span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"><span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"><strong><span style=\"font-size: medium; color: #3333ff\">การหมุนเวียนของน้ำ</span></strong></span></span>\n </p>\n<p align=\"center\">\n <strong><span style=\"color: #ff3366; font-family: MS Sans Serif\">การหมุนเวียนของน้ำเป็น Cycle อาจเริ่มนับได้จากมหาสมุทร เมื่อน้ำระเหยจาก มหาสมุทรไปสู่บรรยากาศ เป็นไอน้ำแล้ว ความแปรปวนของลมฟ้าอากาศจะทำให้เกิด ฝนตกลงสู่ผิวโลก ในทะเลบ้าง บนผิวดินบ้าง น้ำฝนที่ตกบนดินก็จะเกิดการสูญเสียดูดซึม ลงดินเสียเป็นส่วนใหญ่ และด้วยเหตุอื่นบ้างเล็กน้อย เช่น ระเหย ขังในที่ลุ่ม พืชดูดไปใช้ ส่วนที่เหลือก็จะไหลเป็นน้ำท่าลงแม่น้ำลำธารออกทะเล ส่วนที่ซึมลงดินนั้นก็จะค่อย ๆ ซึมออกสู่แม่น้ำลำธาร และไหลออกทะเลไปเช่นกัน แต่อาจช้ากว่ามากซึ่งจะเห็นได้ว่าสุดท้าย น้ำจะระเหยกลายเป็นไอสู่บรรยากาศ หมุนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่รู้จบ</span></strong><span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"> </span>\n </p>\n<div align=\"justify\">\n<p>\n <span style=\"font-size: x-small; font-family: MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif\"><strong></strong></span>\n </p>\n</div>\n<blockquote><div align=\"justify\">\n<p>\n <span style=\"font-size: x-small; color: #993300\">วั<strong>ฏจักรของน้ำ</strong></span><span style=\"font-size: x-small; color: #3333cc\"><strong>(HYDROLOGICCYCLE) คือการเกิดและการหมุนเวียน</strong></span>\n </p>\n<p>\n <strong><span style=\"color: #3333cc\">ของน้ำที่อยู่ในโลกนั่นเอง เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของอุทกวิทยาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขอให้พิจารณาถึงวัฏจักรของน้ำซึ่งเคลื่อนที่หมุนเวียนอยู่เป็นภาคตอนต่าง ๆ น้ำในโลกไม่สูญหายไปไหน แต่จะเปลี่ยนรูปอยู่ในสภาพต่างๆ วนเวียนอยู่ในวัฏจักรของน้ำ อันไม่มีจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดดังแสดงในรูป ซึ่งอาจจะอธิบายได้ดังนี้ ไอน้ำในบรรยากาศเรียกว่า atmospheric moisture ได้แก่ น้ำในรูปของไอน้ำมีอยู่ในบรรยากาศทั่วไปตลอดเวลา อาจมองเห็นได้ในรูปของ เมฆ หมอก และมองเห็นไม่ได้ในรูปของไอน้ำ ไอน้ำนี้เกิดจากการระเหยของน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ บนผิวโลก ไอน้ำในบรรยากาศนี้ ถ้าหากมีมากขึ้นจนถึงจุดอิ่มตัว ความแปรปรวนทางอุตุนิยมวิทยา ของบรรยากาศรอบผิวโลก จะทำให้ไอน้ำกลั่นตัวเป็น ละอองน้ำ และรวมตัวกัน เป็นหยดน้ำตกลงมาสู่ผิวโลกในหลายรูปแบบ เรียกว่า น้ำฟ้าหรือน้ำจากอากาศ (precipitation) ซึ่งถ้าเป็นของเหลวก็คือ ฝน (rian) ถ้าเป็นรูปผลึกก็คือหิมะ (snow) ถ้าเป็นรูปของของแข็งก็คือ ลูกเห็บ (hail,sleet) และน้ำแข็ง (ice) นอกจากนั้นก็มีรูปอื่น คือ น้ำค้าง (dew) หรือน้ำค้างแข็งตัว (frost) ในเมืองหนาวน้ำฝน</span></strong>\n </p>\n<p><table border=\"0\" width=\"750\" cellPadding=\"0\" cellSpacing=\"0\" class=\"nomargin\">\n<tbody>\n<tr>\n<td height=\"151\" width=\"772\" align=\"left\"></td>\n</tr>\n</tbody>\n</table>\n</p>\n</div>\n</blockquote>\n</div>\n</blockquote>\n<p></p>\n<p>\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: Microsoft Sans Serif\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif\"><br />\n</span><br />\n </span></span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-size: x-small; font-family: Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif\"></span>\n</p>\n', created = 1714454349, expire = 1714540749, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:d43a06dca001b3f03e54c965a4c7fcd9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c99254d35e88e2fd3ca9b6ec5588bb14' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"color: #00ffff\">:)</span>\n</p>\n', created = 1714454349, expire = 1714540749, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c99254d35e88e2fd3ca9b6ec5588bb14' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

หยาดน้ำฟ้า

 

กระบวนการเกิดฝน

วงจรวัฏจักรน้ำ

การหมุนเวียนของน้ำ

การหมุนเวียนของน้ำเป็น Cycle อาจเริ่มนับได้จากมหาสมุทร เมื่อน้ำระเหยจาก มหาสมุทรไปสู่บรรยากาศ เป็นไอน้ำแล้ว ความแปรปวนของลมฟ้าอากาศจะทำให้เกิด ฝนตกลงสู่ผิวโลก ในทะเลบ้าง บนผิวดินบ้าง น้ำฝนที่ตกบนดินก็จะเกิดการสูญเสียดูดซึม ลงดินเสียเป็นส่วนใหญ่ และด้วยเหตุอื่นบ้างเล็กน้อย เช่น ระเหย ขังในที่ลุ่ม พืชดูดไปใช้ ส่วนที่เหลือก็จะไหลเป็นน้ำท่าลงแม่น้ำลำธารออกทะเล ส่วนที่ซึมลงดินนั้นก็จะค่อย ๆ ซึมออกสู่แม่น้ำลำธาร และไหลออกทะเลไปเช่นกัน แต่อาจช้ากว่ามากซึ่งจะเห็นได้ว่าสุดท้าย น้ำจะระเหยกลายเป็นไอสู่บรรยากาศ หมุนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่รู้จบ

วัฏจักรของน้ำ(HYDROLOGICCYCLE) คือการเกิดและการหมุนเวียน

ของน้ำที่อยู่ในโลกนั่นเอง เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของอุทกวิทยาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขอให้พิจารณาถึงวัฏจักรของน้ำซึ่งเคลื่อนที่หมุนเวียนอยู่เป็นภาคตอนต่าง ๆ น้ำในโลกไม่สูญหายไปไหน แต่จะเปลี่ยนรูปอยู่ในสภาพต่างๆ วนเวียนอยู่ในวัฏจักรของน้ำ อันไม่มีจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดดังแสดงในรูป ซึ่งอาจจะอธิบายได้ดังนี้ ไอน้ำในบรรยากาศเรียกว่า atmospheric moisture ได้แก่ น้ำในรูปของไอน้ำมีอยู่ในบรรยากาศทั่วไปตลอดเวลา อาจมองเห็นได้ในรูปของ เมฆ หมอก และมองเห็นไม่ได้ในรูปของไอน้ำ ไอน้ำนี้เกิดจากการระเหยของน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ บนผิวโลก ไอน้ำในบรรยากาศนี้ ถ้าหากมีมากขึ้นจนถึงจุดอิ่มตัว ความแปรปรวนทางอุตุนิยมวิทยา ของบรรยากาศรอบผิวโลก จะทำให้ไอน้ำกลั่นตัวเป็น ละอองน้ำ และรวมตัวกัน เป็นหยดน้ำตกลงมาสู่ผิวโลกในหลายรูปแบบ เรียกว่า น้ำฟ้าหรือน้ำจากอากาศ (precipitation) ซึ่งถ้าเป็นของเหลวก็คือ ฝน (rian) ถ้าเป็นรูปผลึกก็คือหิมะ (snow) ถ้าเป็นรูปของของแข็งก็คือ ลูกเห็บ (hail,sleet) และน้ำแข็ง (ice) นอกจากนั้นก็มีรูปอื่น คือ น้ำค้าง (dew) หรือน้ำค้างแข็งตัว (frost) ในเมืองหนาวน้ำฝน



 

 

สร้างโดย: 
ครูณัฐจิตติ
รูปภาพของ kesra

:)

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 383 คน กำลังออนไลน์