คุณตาสงวน สุนทรวงษ์ บัณฑิตมสธ. วัย 88 ปี
คุณตาสงวน สุนทรวงษ์ ข้าราชการบำนาญสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เริ่มต้นก้าวเข้าสู่ชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยเมื่อปี 2539 ในวัย 75 ปี โดยเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ.) ศูนย์บริการย่อยโรงเรียนสงวนหญิง จ.สุพรรณบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2550 คุณตาสงวนสำเร็จการศึกษาปริญญานิติศาสตร์บัณฑิตจากมสธ. คว้าปริญญาตรีใบแรกให้กับชีวิต ด้วยคะแนนเฉลี่ย 2.3
คุณตาสงวน บอกว่า “การเรียนที่มสธ.เป็นการเรียนด้วยตนเอง ซึ่งสะดวกมาก ผมสามารถเรียนที่ไหน เวลาใดก็ได้ที่อยากเรียน บางวันผมก็นั่งอ่านหนังสือใต้ต้นไม้ที่บ้าน ไม่ต้องเข้าไปเรียนไกลถึงกรุงเทพฯ การสอบก็ไม่ลำบากเพียงเข้าไปสอบเพียงในตัวจังหวัดเท่านั้น ที่สำคัญ อยากบอกทุกคนว่าการเรียนถึงจะยากขนาดไหนก็อย่าท้อ หากเราสนใจ มุ่งมั่นตั้งใจจริง ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้”
ในวัยหนุ่มคุณตาไม่มีโอกาสได้เรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบชั้นม.6 ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนสัตวแพทย์ที่กทม.จนจบการศึกษา แล้วเข้ารับราชการเป็นเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ สัตวแพทย์อำเภอ ผู้ช่วยสัตวแพทย์จังหวัด สัตวแพทย์จังหวัด และเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรักษาราชการสัตวแพทย์เขต 7 จ.นครปฐม
ในระหว่างการทำงานเรื่อยมากระทั่งเกษียณนี้เอง มักจะมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และญาติมาขอคำปรึกษาเรื่องราวต่างๆ จากคุณตาสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ในบางครั้งคุณตาไม่มีความรู้ทางกฎหมายเพียงพอที่จะให้คำปรึกษา คุณตาจึงตั้งใจมั่นที่ศึกษาหาความรู้ด้านกฎหมายเพิ่มเติมให้มากขึ้น เพื่อนำความรู้มาช่วยเหลือคนที่ไม่มีความรู้ในด้านนี้ ทำให้ตลอดระยะเวลา 11 ปีของการเรียน คุณตามุมานะและตั้งใจหาความรู้อย่างมาก
นางบุญเลิศ สุนทรวงษ์ ภรรยาวัย 71 ปี เล่าว่า ทุกเช้าหลังจากตื่นนอนคุณตาจะต้องอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย ระหว่างวันหากมีเวลาว่างก็จะอ่านหนังสือ ตอนกลางคืนก็จะอ่านหนังสือจนดึก บางวันยายต้องขอแยกห้องนอน เพราะคุณตาเปิดไฟอ่านหนังสือทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งคุณตามีความสุขกับการได้เรียนมาก แทบทุกวันที่ขับรถด้วยตนเองไปสอบที่โรงเรียนสงวนหญิง แม่ค้าแถวนั้นจะแซวคุณตาว่าคราวนี้มาสอบวิชาอะไร ยังสอบไม่ผ่านอีกหรือ คุณตาก็ยิ้มกลับไปแล้วตอบว่ายังไม่ผ่าน
จนเมื่อวันสอบวิชาสุดท้ายเสร็จสิ้นเพียง 2 วันคุณตาสงวนถูกหามส่งโรงพยาบาลด้วยอาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ต้องผ่าตัด 2 ครั้งและพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 39 วัน เมื่อกลับมารักษาตัวที่บ้าน คุณพ่อเดินไม่ได้ พุดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เมื่อลูกหลานนำข่าวดีจาก มสธ.มาบอกว่าวิชาสุดท้ายคุณตาสอบผ่าน จบการศึกษาปริญญาตรีนิติศาสตร์แล้ว
จากนั้นคุณตาสงวนเริ่มมีแรงใจลุกขึ้นเดิน รับประทานอาหารได้มากกว่าปกติ และซ้อมรับปริญญาบัตรด้วยตนเองเสมอ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ยังเดินไม่คล่อง ต้องใช้ไม้เท้าสี่ขาช่วยพยุงในการเดิน จำเป็นต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน คุณตาสงวนจึงไม่ได้เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่าน คุณตาสงวนนอนเฝ้ามองเพื่อนๆ ร่วมรุ่นเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรผ่านทางโทรทัศน์ พร้อมกับยิ้ม ตื้นตันใจจนน้ำตาคลอ
“ท่านเป็นแบบอย่าง และความภาคภูมิใจให้กับลูกและหลาน ท่านดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้เรียนหนังสือ จนจบจากโรงเรียนสัตวแพทย์ในกรุงเทพฯ เปลี่ยนจากลูกชาวนาในจ.สุพรรณบุรีกลายเป็นสัตวแพทย์ ส่วนตัวยิ่งภูมิใจในตัวคุณพ่อมากขึ้นตั้งแต่รู้ว่าท่านเริ่มจะเรียน โดยคุณพ่อจะบอกเสมอว่ายังตายไม่ได้ ยังเรียนไม่จบ ถึงวันนี้วันที่คุณพ่อจบการศึกษาอย่างที่ท่านตั้งใจก็ภูมิใจมากยิ่งขึ้นกับความสำเร็จของท่าน” นางภรณี เอกบรรณสิงห์ บุตรสาววัย 61 ปี กล่าวอย่างภาคภูมิใจในตัวคุณพ่อ และเพื่อเป็นการสานฝันคุณตาสงวนที่จะได้เข้าร่วมพิธีรับปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ รศ.ดร.ปราณี สังขะตะวรรธน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 49/2 ซอย 1 ถนนศรีสำราญ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพื่อร่วมแสดงความยินดีและมอบปริญญาบัตรให้กับนายสงวน สุนทรวงษ์ บัณฑิต สาขานิติศาสตร์ วัย 88 ปี สร้างความปลาบปลื้มยินดีให้กับคุณตาสงวนเป็นที่สุด ใบหน้าจึงฉายรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจพร้อมกับหัวเราะทั้งน้ำตา
รศ.ดร.ปราณี กล่าวว่า คุณตาสงวนเป็นบัณฑิตอีกคนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยภาคภูมิใจ เป็นการแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต การศึกษาไม่มีวันสิ้นสุด อีกทั้งพิสูจน์ว่าการเรียนทางไกลสามารถให้บริการเข้าถึงได้ทุกคน ไม่แบ่งแยกเพศ อายุ ศาสนา และมีส่วนช่วยทำให้คนประสบความสำเร็จในชีวิตได้ หากคนผู้นั้นมุ่งมั่น ตั้งใจแน่วแน่และมีความพยายาม ซึ่งคุณตาสงวนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักศึกษาที่ท้อแท้จนคิดจะละทิ้งการ เรียน ให้ลุกขึ้นสู้เพราะไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หากตั้งใจจริง