• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:2378435031c6bb38c74bbee4fde10853' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nอาจารย์ศิวพร ปกป้อง รองผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว หัวหน้าโครงการวิจัยศึกษาสถานการณ์ของครอบครัวไทย เปิดเผยว่า สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จัดทำโครงการศึกษาสถานการณ์ของครอบครัวไทย ในหัวข้อ “สุขภาวะครอบครัวในสังคมไทย” โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 5,100 คน แบ่งเป็น กลุ่มเด็กและวัยรุ่น อายุ 11-22 ปี จำนวน 2,550 คน และกลุ่มบิดา มารดา หรือบุคคลที่ทำหน้าที่ผู้ปกครอง หรือให้การอุปถัมภ์เด็กที่มีอายุ 11-22 ปี จำนวน 2,550 คน\n</p>\n<p>\nผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ประชากรไทย 17.9 ล้านครอบครัว มีถึง 2.5 ล้านครอบครัว หรือมีเด็กและเยาวชน อายุ 11-22 ปี เกือบ 1.6 ล้านคน ที่เด็กและผู้ปกครองอยู่ในภาวะด้อยสัมพันธภาพ รวมทั้งพร้อมที่จะไม่เข้าใจการดำเนินชีวิต\n</p>\n<p>\nประเด็นหลักที่เด็กเห็นไม่สอดคล้องกับผู้ปกครองมากที่สุดคือ การใช้เงิน ส่วนประเด็นที่ผู้ปกครองไม่พึงพอใจเด็กมากที่สุด คือ การคบเพื่อน และเมื่อเปรียบเทียบสัมพันธภาพของสมาชิกทุกคนในครอบครัวปัจจุบัน พบว่าร้อยละ 24 เห็นว่าความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวแย่ลงกว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา\n</p>\n<p>\nผลสำรวจยังพบว่า ผู้ปกครองร้อยละ 27 เห็นว่าตนเองมีอิทธิพลในระดับน้อยถึงน้อยมาก ในการตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะที่เด็กร้อยละ 20 รู้สึกโชคดีที่ตนเองและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจร่วมกัน แต่เด็กร้อยละ 30 รู้สึกว่าผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจด้านเดียว\n</p>\n<p>\nเด็กร้อยละ 55 จะหยุดติดต่อกับเพื่อนที่ผู้ปกครองไม่ปรารถนาให้คบ แต่เด็ก 1 ใน 3 จะปฏิบัติตรงกันข้ามกับที่ผู้ปกครองต้องการ หรือเด็กร้อยละ 21 จะแอบคบเพื่อนคนนั้นอย่างลับๆ ขณะที่ร้อยละ 16 ไม่สนใจความเห็นของผู้ปกครอง และคบเพื่อนคนนั้นต่อไป\n</p>\n<p>\nผลสำรวจระบุด้วยว่า เด็กร้อยละ 40 ยึดถือพ่อ และอีกร้อยละ 40 ยึดถือแม่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่เป็นบุคคลใกล้ชิดที่มีอิทธิพลต่อเด็กสูงสุด โดยร้อยละ 15 ยึดพ่อแม่เป็นแบบในการประกอบอาชีพ ร้อยละ 10 มองพ่อแม่เป็นแบบของความขยัน รักครอบครัว และการเป็นผู้นำ ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของอัตราการหย่าร้าง และการเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว อาจมีผลต่อการเป็นแบบอย่างในสายตาของเด็ก\n</p>\n<p>\nดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชน (Child Watch) พบว่า โครงสร้างพื้นฐานของครอบครัวไทยมีอัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้น จากปี 2548 ที่คู่สมรส 4.27 คู่ มีการหย่าร้าง 1 คู่ ในปี 2551 คู่สมรส 3.03 คู่ มีการหย่าร้าง 1 คู่\n</p>\n<p>\nนอกจากนี้พบข้อมูลเด็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในกลุ่มเด็กประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ส่วนระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เด็กที่ไม่อยู่กับพ่อแม่มีจำนวนลดลง\n</p>\n<p>\nการที่เด็กไม่อยู่กับพ่อแม่หรือครอบครัว มีความเสี่ยงในด้านต่างๆ มากกว่าเด็กที่อยู่กับพ่อแม่หรือครอบครัว การสำรวจของ Child Watch รายจังหวัด ปี 2550-2551 พบความเสี่ยงที่เกิดกับเด็กทุกระดับการศึกษาในกลุ่มที่ไม่อยู่กับพ่อแม่ ได้แก่ ความเสี่ยงต่อการออกเที่ยวกับเพื่อนตอนกลางคืน ความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ ความเสี่ยงในการดื่มเหล้า ความเสี่ยงในการดูคลิปโป๊ ความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ และความเสี่ยงในการยอมรับการอยู่ก่อนแต่ง\n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n', created = 1719966076, expire = 1720052476, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:2378435031c6bb38c74bbee4fde10853' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

2.5 ล้านครอบครัวไทยด้อยสัมพันธภาพ

อาจารย์ศิวพร ปกป้อง รองผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว หัวหน้าโครงการวิจัยศึกษาสถานการณ์ของครอบครัวไทย เปิดเผยว่า สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จัดทำโครงการศึกษาสถานการณ์ของครอบครัวไทย ในหัวข้อ “สุขภาวะครอบครัวในสังคมไทย” โดยสอบถามกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 5,100 คน แบ่งเป็น กลุ่มเด็กและวัยรุ่น อายุ 11-22 ปี จำนวน 2,550 คน และกลุ่มบิดา มารดา หรือบุคคลที่ทำหน้าที่ผู้ปกครอง หรือให้การอุปถัมภ์เด็กที่มีอายุ 11-22 ปี จำนวน 2,550 คน

ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ประชากรไทย 17.9 ล้านครอบครัว มีถึง 2.5 ล้านครอบครัว หรือมีเด็กและเยาวชน อายุ 11-22 ปี เกือบ 1.6 ล้านคน ที่เด็กและผู้ปกครองอยู่ในภาวะด้อยสัมพันธภาพ รวมทั้งพร้อมที่จะไม่เข้าใจการดำเนินชีวิต

ประเด็นหลักที่เด็กเห็นไม่สอดคล้องกับผู้ปกครองมากที่สุดคือ การใช้เงิน ส่วนประเด็นที่ผู้ปกครองไม่พึงพอใจเด็กมากที่สุด คือ การคบเพื่อน และเมื่อเปรียบเทียบสัมพันธภาพของสมาชิกทุกคนในครอบครัวปัจจุบัน พบว่าร้อยละ 24 เห็นว่าความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวแย่ลงกว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ปกครองร้อยละ 27 เห็นว่าตนเองมีอิทธิพลในระดับน้อยถึงน้อยมาก ในการตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขณะที่เด็กร้อยละ 20 รู้สึกโชคดีที่ตนเองและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจร่วมกัน แต่เด็กร้อยละ 30 รู้สึกว่าผู้ปกครองเป็นผู้ตัดสินใจด้านเดียว

เด็กร้อยละ 55 จะหยุดติดต่อกับเพื่อนที่ผู้ปกครองไม่ปรารถนาให้คบ แต่เด็ก 1 ใน 3 จะปฏิบัติตรงกันข้ามกับที่ผู้ปกครองต้องการ หรือเด็กร้อยละ 21 จะแอบคบเพื่อนคนนั้นอย่างลับๆ ขณะที่ร้อยละ 16 ไม่สนใจความเห็นของผู้ปกครอง และคบเพื่อนคนนั้นต่อไป

ผลสำรวจระบุด้วยว่า เด็กร้อยละ 40 ยึดถือพ่อ และอีกร้อยละ 40 ยึดถือแม่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่เป็นบุคคลใกล้ชิดที่มีอิทธิพลต่อเด็กสูงสุด โดยร้อยละ 15 ยึดพ่อแม่เป็นแบบในการประกอบอาชีพ ร้อยละ 10 มองพ่อแม่เป็นแบบของความขยัน รักครอบครัว และการเป็นผู้นำ ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของอัตราการหย่าร้าง และการเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว อาจมีผลต่อการเป็นแบบอย่างในสายตาของเด็ก

ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันรามจิตติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชน (Child Watch) พบว่า โครงสร้างพื้นฐานของครอบครัวไทยมีอัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้น จากปี 2548 ที่คู่สมรส 4.27 คู่ มีการหย่าร้าง 1 คู่ ในปี 2551 คู่สมรส 3.03 คู่ มีการหย่าร้าง 1 คู่

นอกจากนี้พบข้อมูลเด็กที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในกลุ่มเด็กประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ส่วนระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา เด็กที่ไม่อยู่กับพ่อแม่มีจำนวนลดลง

การที่เด็กไม่อยู่กับพ่อแม่หรือครอบครัว มีความเสี่ยงในด้านต่างๆ มากกว่าเด็กที่อยู่กับพ่อแม่หรือครอบครัว การสำรวจของ Child Watch รายจังหวัด ปี 2550-2551 พบความเสี่ยงที่เกิดกับเด็กทุกระดับการศึกษาในกลุ่มที่ไม่อยู่กับพ่อแม่ ได้แก่ ความเสี่ยงต่อการออกเที่ยวกับเพื่อนตอนกลางคืน ความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ ความเสี่ยงในการดื่มเหล้า ความเสี่ยงในการดูคลิปโป๊ ความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ และความเสี่ยงในการยอมรับการอยู่ก่อนแต่ง


 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 470 คน กำลังออนไลน์