สภานอร์ดิก
เปิดฟ้าสาธารณรัฐสวอมี (2)
เสาร์พรุ่งนี้ 14 ธ.ค. เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป นิติภูมิจะไปพูดรับใช้พี่น้องชาวตราดเรื่อง “เปิดโลกธุรกิจยุคใหม่” ที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ตราด ใครว่างเชิญครับ
วันนี้ขออนุญาตรับใช้เรื่องของสาธารณรัฐสวอมีกันต่อ ผมก็ดัดจริตเขียนไปยังงั้นเองครับ คนทั่วไปในสังคมโลก เรียกสาธารณรัฐสวอมีว่า “ฟินแลนด์”
ใครไปฟินแลนด์ตอนฤดูร้อนก็คงจะทราบว่า หน้าร้อนนั้นสั้นนัก และมีพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเที่ยงคืนยาวนานถึง 73 วัน นั่งรถไฟจากกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย ไปกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ สองข้างทางท่านจะเห็นว่ามีแต่ป่ากับทะเลสาบ ประเทศ นี้มีพื้นที่เพียง 3 แสนกว่าตารางกิโลเมตร (ประเทศไทยมี 5 แสนกว่า) แต่เป็นพื้นที่ป่าซะ 64.6% พื้นที่ทะเลสาบ 9.5% ประเทศเล็กแค่นี้ แต่มีทะเลสาบทั้งหมดถึง 6 หมื่นแห่ง เอาแค่ ทะเลสาบเดียวก็มีพื้นที่มากกว่าบางอำเภอของไทย อย่างทะเลสาบไซมา ที่มีพื้นที่ถึง 4.4 พันตารางกิโลเมตร
เรื่องประเทศใหญ่ทำตามอำเภอใจของตน โดยไม่สนใจความทุกข์ ระทมของประเทศเล็ก มีให้ได้เห็นมาหลายยุคทุกสมัย ฟินแลนด์เองก็เจอมาแล้ว สมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 พระองค์ทรงมีนโยบายกลืนชาติฟินแลนด์ เพื่อที่จะผนวกฟินแลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย พระเจ้าซาร์และขุนนางรัสเซียก็ชุมนุมสุมความคิดกัน ว่าจะกลืนยังไงดีโดยที่ไม่ต้องมีสงคราม สุดท้ายก็ไปสรุปตรงเรื่องของภาษา ถ้าคนฟินแลนด์ซึ่งในสมัยนั้นหันมาพูดภาษารัสเซียแล้ว ไม่ช้าไม่นาน ดินแดนฟินแลนด์จะต้องเป็นของรัสเซียแน่
ว่าแล้วพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ก็ทรงออกแถลงการณ์เพื่อบังคับให้รัสเซีย เป็นภาษาทางราชการ ของฟินแลนด์ และออกประกาศว่าพระองค์มีพระราชอำนาจ ที่จะยกเลิก กฎหมายใดๆ ของฟินแลนด์ โดยที่ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบ จากสภาไดเอต หากกฎหมาย ดังกล่าวมี ผลกระทบกระเทือนต่อผลประโยชน์ของรัสเซีย
ประเทศเล็กที่มีวัฒนธรรมและภาษาด้อยกว่า ไม่ว่าชาติไหนๆ มักจะโดนประเทศใหญ่ ได้คืบเอาศอกทั้งนั้น ฟินแลนด์กับรัสเซียนี่เป็นตัวอย่าง เมื่อตกอยู่ใต้อาณานิคมทางภาษา ทางปัญญา ทางวัฒนธรรมแล้ว ต่อมารัสเซียก็ออกพระราชกฤษฎีกา ให้ชายชาวฟินน์ เข้ารับราชการทหารในกองทัพรัสเซีย เหตุการณ์สมัยนั้น หลายอย่างเหมือนกับ ที่อเมริกาทำ กับชาติต่างๆ อย่างไม่เกรงอกเกรงใจอยู่ในขณะนี้ คือถืออำนาจบาตรใหญ่ไปบังคับชาติเล็กๆ คนฟินน์เข้าไปในรัสเซียยากมาก โดนตรวจแล้วตรวจอีก แต่คนรัสเซียเข้าไปในดินแดน ของฟินแลนด์ได้เหมือนเป็นประเทศของตนเอง พอยอมบ่อยๆ นานๆเข้า ชาวฟินน์ก็ถูก บังคับให้ยอมรับกฎหมายสิทธิเท่าเทียมกัน ให้สิทธิ์แก่พลเมืองรัสเซียในฟินแลนด์ เท่ากับชาวฟินน์ทุกประการ
พวกพ่อค้าประชาชนและนักการเมืองที่มีผลประโยชน์อิงอยู่กับรัสเซีย ก็เฉย เพราะคิดว่า ถ้าจะต่อต้านไป ก็มีแต่จะเสียกับเสีย ส่วนคนหนุ่มสาวตามมหาวิทยาลัย พวกนี้ยังไม่ได้ทำงาน ยังไม่มีกิจการ จิตใจบริสุทธิ์ และยังมีเวลาคิดเพื่อประเทศชาติ นิสิตนักศึกษาก็ จึงพยายามเคลื่อนไหวสู้รบตบมือกับรัสเซีย แต่กองทัพฟินแลนด์ถูกแทรกแซง และถูกรัสเซียสั่งยุบไปนานหลายปี คนฟินน์ก็จึงไม่มีทักษะที่จะไปสู้กะใคร ในที่สุดนิสิตนักศึกษาพวกนี้ก็จึงต้องหนีออกนอกประเทศ ไปยังประเทศเยอรมนี เพื่อขอฝึกอาวุธในกองทัพเยอรมัน
เพราะเป็นประเทศเล็ก ฟินแลนด์จึงไม่ไปสร้างรอยแผลไว้ให้กับประเทศใดๆ ไม่ไปพยายาม ทำตัวเป็นหัวหน้าเพื่อให้ จ.ติมอร์ตะวันออกแยกแตกออกมาจากอินโดนีเซีย หรือเริ่มไปทำตัวเด่น พื่อสนับสนุนให้ จ.อาเจะห์แยกตัวจากอินโดนีเซีย ไปตั้งประเทศใหม่อีกแล้ว
เอ๊ย ขอโทษครับ เขียนผิดไป แหม เขียนเรื่องของยุโรปเหนืออยู่ดีๆ ไหงดันกลายมา เป็นเรื่อง ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปได้ สงสัยจะกังวลเรื่องในอนาคต ที่ หหลายประเทศ อาจจะสนับสนุนให้ 4 จังหวัดภาคใต้แยกตัวออกไปจากแผ่นดินไทย เหมือนที่ประเทศไทย ไปร่วมกิจกรรมเพื่อทำให้ จ.ติมอร์ตะวันออก และ จ.อาเจะห์ แยกออกจากอินโดนีเซีย ไปตั้งประเทศใหม่ นั่นเอง
เป็นประเทศเล็ก ฟินแลนด์จึงดำเนินนโยบายต่างประเทศเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในขณะเดียวกัน ก็พยายามสร้างสัมพันธ์อันดี กับนานาอารยประเทศ นอกจากนั้น ฟินแลนด์ยังเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศต่างๆ อย่างเช่น เป็นสมาชิกสภานอร์ดิก (มี สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอซ์ แลนด์ และ ฟินแลนด์) และ เป็นสมาชิกสหภาพ หยุโรปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2538
เรื่องราวของสาธารณรัฐสวอมี หรือสาธารณรัฐฟินแลนด์ ประเทศเล็กๆ แต่มั่นคงและ ประสบความสำเร็จสูงในการดำเนินงานการเมืองโลกและพัฒนาประเทศ ก็จบลงตรงแค่นี้นี่ละครับ.
ตรวจแล้ว การนำผลงานของคนอื่นมาลงเป็นผลงานของตนเองเป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะกระทำเป็นอย่างยิ่ง