• user warning: Duplicate entry '536306482' for key 'PRIMARY' query: INSERT INTO accesslog (title, path, url, hostname, uid, sid, timer, timestamp) values('"ดอกมะลิ" ก่อนจะเป็นสัญลักษณ์วันแม่(ไม่สมบูรณ์)', 'node/34265', '', '18.118.126.11', 0, '0de9d23aadee7875718a52b706c10c72', 129, 1716158200) in /home/tgv/htdocs/modules/statistics/statistics.module on line 63.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:299aa3455849cad00104dc3553003369' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\nPassé composé\n</p>\n<p>\n<u>Passé composé 1</u>\n</p>\n<p>\nว่ากันถึงกาลอดีต หรือ เรื่องที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต คนที่กระจายกริยา être และ avoir ในกาลปัจจุบันถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะได้เปรียบมาก แต่ถ้าใครยังกระจายกริยา 2 ตัวนี้ในกาลปัจจุบันไม่ได้ มาดูกันเลย\n</p>\n<p align=\"center\">\n                    Avoir                  Etre\n</p>\n<p align=\"center\">\n  Je, J’              ai                    suis   \n</p>\n<p>\n                                                      Tu                 as                    es\n</p>\n<p>\n                                                    Il/Elle                a                    est \n</p>\n<p>\n                                                    Nous             avons               sommes\n</p>\n<p>\n                                                   Vous               avez                  êtes\n</p>\n<p>\n                                                 Ils/Elles              ont                   sont\n</p>\n<p>\nแล้ว participe passé มันคืออะไร ?<br />\nจะว่าไปแล้ว มันก็คล้ายกับกริยาช่องที่ 3 ในภาษาอังกฤษ ที่ต้องใช้คู่กับกริยาช่วย เดี๋ยวจะอธิบายโดยละเอียดให้ดู แต่สิ่งที่ควรรู้ก่อนก็คือ เวลาทำกาลอดีต ในภาษาฝรั่งเศสเรามีกริยาช่วย 2 ตัวคือ Être และ Avoir อย่างที่ให้ฝึกกระจายไว้ด้านบน ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกว่าใช้ตัวไหนดี\n</p>\n<p>\n1. กริยาที่ใช้ avoir มาช่วย กริยาส่วนมากใช้ avoir มาช่วย โดยต้องกระจาย กริยา avoir ให้ถูกต้องตรงกับประธานของประโยค ก่อนที่จะนำมาประกอบกับกริยาหลักในรูป Participe passé เช่น กริยา Parler\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"400\" src=\"http://www.bonjourajarnton.com/images/1179975206/participe-passe.jpg\" height=\"209\" />\n</div>\n<p>\nวิธีการทำ Participe passé (เรียกสั้น ๆ ว่า PP. ออกเสียงว่า เป-เป ไม่ใช่ ปี-ปี เพราะ ปี-ปี แปลว่า ฉี่) มีกฎให้จำง่าย ๆ คือ\n</p>\n<p>\n<u>กริยากลุ่มที่ 1</u> ลงท้ายด้วย ER ตัด ER ทิ้งแล้วเติม é\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"202\" src=\"http://www.bonjourajarnton.com/images/1179975206/pp-er.jpg\" height=\"275\" />\n</div>\n<p>\nเช่น Parler ตัด er ก็จะเหลือ Parl นำมาเติม é ก็จะได้ Parlé แล้วจึงนำมารวมกับกริยา Avoir ที่กระจายแล้วก็จะได้\n</p>\n<p>\n                                               J’               <u>ai parlé<br />\n</u>                                              Tu              <u>as parlé<br />\n</u>                                             Il/elle           <u> a parlé<br />\n</u>                                             Nous         <u>avons parlé<br />\n</u>                                            Vous           <u>avez parlé</u><br />\n                                          Ils/elles           <u>ont parlé</u>\n</p>\n<p>\nแค่นี้เราก็ได้อดีตของกริยา Parler แล้ว รวดเร็วทันใจดีแท้\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง\n</p>\n<p>\nJ’ai parlé de mon projet avec mon père.\n</p>\n<p>\n ฉันคุยเรื่องโครงการกับพ่อแล้ว\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<br />\n<u>Passé composé 2</u>\n</p>\n<p>\n<u>กริยากลุ่มที่ 2</u> ลงท้ายด้วย IR ตัด IR ทิ้ง เติม i\n</p>\n<p>\nเช่น Finir ตัด ir ก็จะเหลือ fin นำมาเติม i ก็จะได้ fini แล้วจึงนำมารวมกับกริยา Avoir ที่กระจายแล้วก็จะได้\n</p>\n<p>\n<img border=\"0\" width=\"1\" src=\"http://www.bonjourajarnton.com/images/1179976054/pp-ir.jpg\" height=\"1\" />\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"176\" src=\"http://www.bonjourajarnton.com/images/1179976054/pp-ir.jpg\" height=\"280\" />\n</div>\n<p>\n<u>ตัวอย่าง</u>\n</p>\n<p>\nJ’ai fini mon devoir hier.\n</p>\n<p>\nฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อวานนี้\n</p>\n<p>\n<u>Passé composé 3</u>\n</p>\n<p>\n<u>กริยากลุ่มที่ 3</u> ที่ลงท้ายด้วย RE, OIR และ IR\n</p>\n<p>\nอันนี้ ของจริง กริยากลุ่มนี้มีการกระจายที่หลากหลายมาก สับสนอลหม่าน เป็นที่สุด โดยพอจะรวมเป็นกลุ่มได้ดังนี้\n</p>\n<p>\nกลุ่มที่ลงท้ายด้วย is (เทคนิคเดียวกัน จำ Prendre ตัวเดียวก็พอ)<br />\nprendre = pris  apprendre = appris  อัปปรี ตัวนี้ผิดบ่อยสุด<br />\ncomprendre = compris surprendre = surpris<br />\nmettre = mis   remettre = remis<br />\nsoumettre = soumis  permettre = permis\n</p>\n<p>\nกลุ่มที่ลงท้ายด้วย U แบบหางยาว ได้แก่<br />\nattendre = attendu  entendre = entendu<br />\nvendre = vendu  vouloir = voulu<br />\nconnaître =  connu  recevoir = reçu<br />\nvivre = vécu   falloir = fallu\n</p>\n<p>\nแบบหางสั้น ได้แก่<br />\navoir = eu   boire = bu<br />\ndevoir = dû   croire = cru<br />\nsavoir = su   lire = lu<br />\npouvoir = pu   voir = vu<br />\nplaire = plu   pleuvoir = plu\n</p>\n<p>\nกลุ่มที่ลงท้ายด้วย t <br />\ndire = dit   faire = fait<br />\nconduire = conduit  séduire = séduit<br />\nécrire = écrit   décrire = décrit<br />\nouvrir = ouvert  couvrir = couvert\n</p>\n<p><u><span style=\"font-size: 12pt; color: red; font-family: Tahoma\" lang=\"TH\">ระวัง</span></u><span style=\"font-size: 12pt; font-family: Tahoma\" lang=\"FR\"><o:p></o:p></span> </p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"300\" src=\"http://www.bonjourajarnton.com/images/1179976504/etre-ete.jpg\" height=\"284\" />\n</div>\n<p>\n<u>วิธีใช้</u>\n</p>\n<p>\nPassé composé ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยแล้วในอดีต คนพูดไม่ได้สนใจว่าเกิดนานแค่ไหน  เน้นว่าเกิดแล้วจบแล้ว ก็แล้วกัน เช่น\n</p>\n<p>\nIl a ouvert la fenêtre. <br />\nเขาเปิดหน้าต่าง  (เปิดไปแล้ว เปิดเสร็จแล้ว)<br />\nLes professeurs ont compris. <br />\nครู(หลายคน)เข้าใจแล้ว\n</p>\n<p>\nบางครั้งจะมีคำบ่งเวลาอดีต เช่น <br />\nhierเมื่อวานนี้ (อิ-แยร์), <br />\nle mois dernierเดือนที่แล้ว (เลอ มัว แด็ก-นิ-เย) <br />\nl’année passée ปีก่อน (ลัน-เน่ ปัส-เซ่) <br />\n il y a 2 jours สองวันที่แล้ว (อิล ลิ ยา เดอ ฌูร์)  เป็นต้น\n</p>\n<p>\n<u>Passé composé 4 (étre)</u>\n</p>\n<p>\n2. กริยาที่ต้องการ être มาช่วยใน Passé composé กริยากลุ่มนี้มีไม่มากนัก และต้องท่องให้แม่น นอกจากนี้ยังต้องระวังการเปลี่ยนเพศและพจน์ตามประธานที่เรียกว่า Accord(อัก-กอร์ ไม่ใช่ แอคคอร์ด)  ด้วย กริยาที่ต้องใช้ être มาช่วย ได้แก่\n</p>\n<p>\nVerbe                       Participe passé                     Verbe                       Participe passé<br />\nallerไป                            allé                             venirมาจาก                         venu\n</p>\n<p>\n                                                                   revenirกลับมาจาก                  revenu\n</p>\n<p>\n                                                                  devenirกลายเป็น                    devenu\n</p>\n<p>\narriverมาถึง                    arrivé                          partirไปจาก                         parti\n</p>\n<p>\nentrerเข้า                      entré                          sortirออกจาก                        sorti\n</p>\n<p>\nmonterขึ้น                     monté                        descendreลง                     descendu\n</p>\n<p>\nnaîtreเกิด                        né                             mourirตาย                           mort\n</p>\n<p>\n                                                                    décéderตาย                      décédé\n</p>\n<p>\ntomberตก                    tombé                          passerผ่าน                         passé\n</p>\n<p>\nretournerย้อนกลับมา     retourné                        resterอยู่พัก                        resté\n</p>\n<p>\n                                                                  demeurerอยู่พัก                   demeuré\n</p>\n<p>\nPassé composé ที่ต้องใช้กับกริยา être จึงมีหน้าตาดังตัวอย่างนี้\n</p>\n<p>\n                                Je suis<br />\n                                Tu es<br />\n                              Il/elle est<br />\n                             Nous sommes  +  participe passé (accord)<br />\n                              Vous êtes<br />\n                             Ils/elles sont\n</p>\n<p>\n<u>ตัวอย่าง</u><br />\nJe suis allé (alléeถ้า Je เป็นหญิง) en ville.<br />\nTu es revenu (revenueถ้า Tu เป็นหญิง) à 2 heures.<br />\nIl est monté dans l’autobus/Elle est née le 24 juillet.<br />\nNous sommes venusชายพหูพจน์หรือชายหญิงรวมกัน (venuesหญิงพหูพจน์) en retard.<br />\nVous êtes partiชายเอกพจน์ (partieหญิงเอกพจน์, partisชายพหูพจน์, partiesหญิงพหูพจน์).<br />\nIls sont restés/Elles sont restées.\n</p>\n<p>\nระวังประธาน Nous ที่จะต้องเป็นพหูพจน์เสมอ และประธาน Vous ที่สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เพศชายและเพศหญิง แบบโฟร์อินวัน\n</p>\n<p>\nกริยา sortir (เอาออกมา), monter (เอาขึ้น), descendre (เอาลง) ถ้ามีกรรมตรง (COD) ตามหลัง จะต้องใช้ avoir เป็นตัวช่วย ไม่ใช้กริยา Être เช่นเดียวกับ passer (ใช้เวลา) เมื่อตามหลังด้วยเวลา\n</p>\n<p>\n<u>ตัวอย่าง</u><br />\nIl a passé 2 ans(เวลา) en France.<br />\nเขาอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 2 ปี<br />\nSylvie a monté sa valise (COD) au 2e étage. <br />\nซิลฟีเอากระเป๋าขึ้นชั้นสอง<br />\nNous avons sorti nos livres(COD)  du cartable. <br />\nเราเอาหนังสือออกจากกระเป๋า<br />\nLes mères ont descendu les enfants(COD)  de l’arbre.<br />\nแม่เอาเด็กลงมาจากต้นไม้\n</p>\n<p>\nเมื่อใช้กับ avoir จึงไม่มีการ accord ที่ pp. ตามเพศและพจน์ของประธาน ยกเว้นเมื่อเปลี่ยนกรรมตรงเป็นสรรพนามแล้ววางไว้หน้า avoir+pp. \n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n', created = 1716158210, expire = 1716244610, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:299aa3455849cad00104dc3553003369' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

Passé composé

Passé composé

Passé composé 1

ว่ากันถึงกาลอดีต หรือ เรื่องที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต คนที่กระจายกริยา être และ avoir ในกาลปัจจุบันถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะได้เปรียบมาก แต่ถ้าใครยังกระจายกริยา 2 ตัวนี้ในกาลปัจจุบันไม่ได้ มาดูกันเลย

                    Avoir                  Etre

  Je, J’              ai                    suis   

                                                      Tu                 as                    es

                                                    Il/Elle                a                    est 

                                                    Nous             avons               sommes

                                                   Vous               avez                  êtes

                                                 Ils/Elles              ont                   sont

แล้ว participe passé มันคืออะไร ?
จะว่าไปแล้ว มันก็คล้ายกับกริยาช่องที่ 3 ในภาษาอังกฤษ ที่ต้องใช้คู่กับกริยาช่วย เดี๋ยวจะอธิบายโดยละเอียดให้ดู แต่สิ่งที่ควรรู้ก่อนก็คือ เวลาทำกาลอดีต ในภาษาฝรั่งเศสเรามีกริยาช่วย 2 ตัวคือ Être และ Avoir อย่างที่ให้ฝึกกระจายไว้ด้านบน ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกว่าใช้ตัวไหนดี

1. กริยาที่ใช้ avoir มาช่วย กริยาส่วนมากใช้ avoir มาช่วย โดยต้องกระจาย กริยา avoir ให้ถูกต้องตรงกับประธานของประโยค ก่อนที่จะนำมาประกอบกับกริยาหลักในรูป Participe passé เช่น กริยา Parler

วิธีการทำ Participe passé (เรียกสั้น ๆ ว่า PP. ออกเสียงว่า เป-เป ไม่ใช่ ปี-ปี เพราะ ปี-ปี แปลว่า ฉี่) มีกฎให้จำง่าย ๆ คือ

กริยากลุ่มที่ 1 ลงท้ายด้วย ER ตัด ER ทิ้งแล้วเติม é

เช่น Parler ตัด er ก็จะเหลือ Parl นำมาเติม é ก็จะได้ Parlé แล้วจึงนำมารวมกับกริยา Avoir ที่กระจายแล้วก็จะได้

                                               J’               ai parlé
                                              Tu              as parlé
                                             Il/elle            a parlé
                                             Nous         avons parlé
                                            Vous           avez parlé
                                          Ils/elles           ont parlé

แค่นี้เราก็ได้อดีตของกริยา Parler แล้ว รวดเร็วทันใจดีแท้

ตัวอย่าง

J’ai parlé de mon projet avec mon père.

 ฉันคุยเรื่องโครงการกับพ่อแล้ว

 


Passé composé 2

กริยากลุ่มที่ 2 ลงท้ายด้วย IR ตัด IR ทิ้ง เติม i

เช่น Finir ตัด ir ก็จะเหลือ fin นำมาเติม i ก็จะได้ fini แล้วจึงนำมารวมกับกริยา Avoir ที่กระจายแล้วก็จะได้

ตัวอย่าง

J’ai fini mon devoir hier.

ฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อวานนี้

Passé composé 3

กริยากลุ่มที่ 3 ที่ลงท้ายด้วย RE, OIR และ IR

อันนี้ ของจริง กริยากลุ่มนี้มีการกระจายที่หลากหลายมาก สับสนอลหม่าน เป็นที่สุด โดยพอจะรวมเป็นกลุ่มได้ดังนี้

กลุ่มที่ลงท้ายด้วย is (เทคนิคเดียวกัน จำ Prendre ตัวเดียวก็พอ)
prendre = pris  apprendre = appris  อัปปรี ตัวนี้ผิดบ่อยสุด
comprendre = compris surprendre = surpris
mettre = mis   remettre = remis
soumettre = soumis  permettre = permis

กลุ่มที่ลงท้ายด้วย U แบบหางยาว ได้แก่
attendre = attendu  entendre = entendu
vendre = vendu  vouloir = voulu
connaître =  connu  recevoir = reçu
vivre = vécu   falloir = fallu

แบบหางสั้น ได้แก่
avoir = eu   boire = bu
devoir = dû   croire = cru
savoir = su   lire = lu
pouvoir = pu   voir = vu
plaire = plu   pleuvoir = plu

กลุ่มที่ลงท้ายด้วย t
dire = dit   faire = fait
conduire = conduit  séduire = séduit
écrire = écrit   décrire = décrit
ouvrir = ouvert  couvrir = couvert

ระวัง

วิธีใช้

Passé composé ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยแล้วในอดีต คนพูดไม่ได้สนใจว่าเกิดนานแค่ไหน  เน้นว่าเกิดแล้วจบแล้ว ก็แล้วกัน เช่น

Il a ouvert la fenêtre.
เขาเปิดหน้าต่าง  (เปิดไปแล้ว เปิดเสร็จแล้ว)
Les professeurs ont compris.
ครู(หลายคน)เข้าใจแล้ว

บางครั้งจะมีคำบ่งเวลาอดีต เช่น
hierเมื่อวานนี้ (อิ-แยร์),
le mois dernierเดือนที่แล้ว (เลอ มัว แด็ก-นิ-เย)
l’année passée ปีก่อน (ลัน-เน่ ปัส-เซ่)
 il y a 2 jours สองวันที่แล้ว (อิล ลิ ยา เดอ ฌูร์)  เป็นต้น

Passé composé 4 (étre)

2. กริยาที่ต้องการ être มาช่วยใน Passé composé กริยากลุ่มนี้มีไม่มากนัก และต้องท่องให้แม่น นอกจากนี้ยังต้องระวังการเปลี่ยนเพศและพจน์ตามประธานที่เรียกว่า Accord(อัก-กอร์ ไม่ใช่ แอคคอร์ด)  ด้วย กริยาที่ต้องใช้ être มาช่วย ได้แก่

Verbe                       Participe passé                     Verbe                       Participe passé
allerไป                            allé                             venirมาจาก                         venu

                                                                   revenirกลับมาจาก                  revenu

                                                                  devenirกลายเป็น                    devenu

arriverมาถึง                    arrivé                          partirไปจาก                         parti

entrerเข้า                      entré                          sortirออกจาก                        sorti

monterขึ้น                     monté                        descendreลง                     descendu

naîtreเกิด                        né                             mourirตาย                           mort

                                                                    décéderตาย                      décédé

tomberตก                    tombé                          passerผ่าน                         passé

retournerย้อนกลับมา     retourné                        resterอยู่พัก                        resté

                                                                  demeurerอยู่พัก                   demeuré

Passé composé ที่ต้องใช้กับกริยา être จึงมีหน้าตาดังตัวอย่างนี้

                                Je suis
                                Tu es
                              Il/elle est
                             Nous sommes  +  participe passé (accord)
                              Vous êtes
                             Ils/elles sont

ตัวอย่าง
Je suis allé (alléeถ้า Je เป็นหญิง) en ville.
Tu es revenu (revenueถ้า Tu เป็นหญิง) à 2 heures.
Il est monté dans l’autobus/Elle est née le 24 juillet.
Nous sommes venusชายพหูพจน์หรือชายหญิงรวมกัน (venuesหญิงพหูพจน์) en retard.
Vous êtes partiชายเอกพจน์ (partieหญิงเอกพจน์, partisชายพหูพจน์, partiesหญิงพหูพจน์).
Ils sont restés/Elles sont restées.

ระวังประธาน Nous ที่จะต้องเป็นพหูพจน์เสมอ และประธาน Vous ที่สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เพศชายและเพศหญิง แบบโฟร์อินวัน

กริยา sortir (เอาออกมา), monter (เอาขึ้น), descendre (เอาลง) ถ้ามีกรรมตรง (COD) ตามหลัง จะต้องใช้ avoir เป็นตัวช่วย ไม่ใช้กริยา Être เช่นเดียวกับ passer (ใช้เวลา) เมื่อตามหลังด้วยเวลา

ตัวอย่าง
Il a passé 2 ans(เวลา) en France.
เขาอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 2 ปี
Sylvie a monté sa valise (COD) au 2e étage.
ซิลฟีเอากระเป๋าขึ้นชั้นสอง
Nous avons sorti nos livres(COD)  du cartable.
เราเอาหนังสือออกจากกระเป๋า
Les mères ont descendu les enfants(COD)  de l’arbre.
แม่เอาเด็กลงมาจากต้นไม้

เมื่อใช้กับ avoir จึงไม่มีการ accord ที่ pp. ตามเพศและพจน์ของประธาน ยกเว้นเมื่อเปลี่ยนกรรมตรงเป็นสรรพนามแล้ววางไว้หน้า avoir+pp. 


 

สร้างโดย: 
อ.รัชนี บุตรรัตน์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 238 คน กำลังออนไลน์