ขนมจาก จากกันแล้วหรือ
![รูปภาพของ ssspoonsak รูปภาพของ ssspoonsak](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-9.jpg)
ความสำคัญทางเศรฐกิจของขนมไทยที่เลือก
หากกล่าวถึงขนมจากมีความสำคัญอย่างไรกับเศรฐกิจไทย คงต้องกล่าวถึงส่วนสำคัญ นั่นคือต้นจากว่ามีความสำคัญอย่างไรด้วย
- ความสำคัญของขนมจาก
การทำขนมจากขาย เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ จะเห็นได้ว่าตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็มักจะมีขนมจากขาย นักท่องเที่ยวก็นิยมซื้อขนมจากกลับไปเป็นของฝาก ถึงแม้ขนมจากจะเป็นขนมค่อนข้างโบราณ แต่ลูกค้าก็ยังนิยมรัปทานกันอยู่ ดังนั้นการจะสร้างรายได้กับการทำขนมจากขายก็ไม่ใช่เรื่องยาก
การทำขนมจากขายเงินลงทุนครั้งแรกจะอยู่ประมาณ 5,000 - 8,000 บาท เงินทุนหมุนเวียนประมาณ 1,000 บาท ทำเลการขายขนมจาก สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดนัด ที่ขายของฝาก และแห่งชุมชนต่างๆ
การทำขนมจากทำไม่ยาก และยังสามารถสร้างรายได้งามพอสมควรทีเดียว เพื่อนๆคนไหนที่อยากได้อาชีพเสริม หรืออาชีพอิสระเป็นของตัวเอง ก็ลองทำขนมจากขายดู ยิ่งถ้ามีตลาดกว้างก็จะทำให้การขายขนมจากไปได้ไกล เคล็ดลับในการทำธุรกิจนิดนึง คือ ก่อนที่จะทำขาย ต้องทำแจกเสียก่อน เพราะการแจกจะทำให้ได้ลูกค้าไกล้ๆ ตัวกลุ่มหนึ่ง และการทำตลาดก็จะง่ายขึ้น ลองทำดู
- ความสำคัญของต้นจาก
ต้นจากเป็นพืชสารพัดประโยชน์ ชาวบ้านรู้จักต้นจากและรู้จักการใช้ประโยชน์จากต้นจากมาตั้งแต่ บรรพบุรุษมาช้านาน หลายๆ ส่วนของต้นจากล้วนมีคุณค่าทั้งสิ้น ใบอ่อนใช้ทำเป็นที่มวนบุหรี่ดูดและใช้ห่อ ขนม ใบแก่นำมาทำตับจากมุงหลังคาบ้าน ทำฝาผนังและมีความทนทานนานประมาณ 3-4 ปี หลังคาตับจาก จะมีความสวยงามและกลมกลืนกับธรรมชาติเป็นอย่างยิ่งและเย็นสบายดีในหน้าร้อน ใบแก่ของจากยังใช้ห่อ ขนมจากปิ้งที่นิยมรับประทานกันทั่วไป งวงตาลเมื่อปาดแล้วจะได้น้ำตาลจากที่สามารถนำมาทำน้ำตาลได้ เหมือนกับน้ำตาลจากต้นตาลและต้นมะพร้าว หรือใช้ทำเหล้าจาก และทำน้ำส้มจากได้ด้วย เมล็ดใช้กินสดมี รสชาดเหมือนลูกตาล และนำมาทำลูกชิดหรือลูกจากที่รู้จักกันดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าต้นจากมีประโยชน์มากมาย สารพัดต่อชุมชน
- ลักษณะของต้นจาก
ต้นจาก มีชื่อสามัญว่า Nypa Palm และชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Nypa fruticans Wurmb จัดเป็นพืชในป่าชายเลนชนิดหนึ่ง พบมากตามชายฝั่งคลองบริเวณปากแม่น้ำลำคลองที่มีระบบน้ำ กร่อย จะขึ้นเป็นกลุ่มๆ ตามดินเลน ตะกอนแม่น้ำที่มีลักษณะ เหนียวและค่อนข้างแข็ง และจะพบขึ้นกระจัดกระจายทั่วไปปะ ปนกับไม้ป่าชายเลนชนิดอื่นๆ เช่น ปรง ลำพู ลำแพน แสม โกงกาง ตะบูน เป็นต้น มีการขยายพันธุ์ได้ทั้งโดยการแตกหน่อ และการงอกของเมล็ด จากเป็นพืชในตระกูล Palm ที่มีกอและ มีการแตกใบจากกอเป็นก้านๆ มีใบเรียงเหมือนใบมะพร้าว ดอกเป็นสีแสดเข้ม และมีลูกเป็นเม็ดๆ เกาะกันเป็นกลุ่มทะลาย ลูกจากสามารถรับประทานได้และมีรสชาดดี
- การขยายพันธ์ุของต้นจาก
ต้นจากขยายพันธุ์ได้เองตามธรรมชาติ โดยการแตกกอและ เมล็ด เมื่อเมล็ดแก่แล้วจะหลุดร่วงล่องลอยไปตามน้ำพอน้ำแห้ง ก็จะติดกับดินเลนแล้วเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างไรก็แล้วแต่เรา สามารถทำการปลูกจากได้ โดยการเก็บรวบรวมเมล็ดที่แก่จัด (โดยทั่วไปเมล็ดจะแก่ได้ที่ประมาณเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม ดังนั้นจึงเก็บหาเมล็ดได้ในช่วงนี้ของทุกปีเมล็ดที่แก่จัดส่วนมาก แล้วจะร่วงหล่นจากทลายเอง แล้วนำเมล็ดเหล่านั้นมาเพาะ เมล็ดจากอาจจะมีความงอกต่ำ แต่ข้อสังเกตของการเลือกเมล็ด ที่จะนำมาเพาะคือ ให้เลือกเฉพาะเมล็ดที่มีหน่อเล็กๆ ให้เห็น เท่านั้น เพราะว่าเมล็ดที่มีหน่อเล็กๆ นี้จะมีความงอกแน่นอน ส่วนเมล็ดที่ไม่มีหน่อเล็กๆ จะมีอัตราความงอกต่ำมาก ดังนั้น ควรเลือกเฉพาะเมล็ดที่มีหน่อเล็กมาทำการเพาะชำ กล้าจากจะ มีการเติบโตช้ามาก ดังนั้นอาจจะใช้เวลาเพาะนานถึง 1-2 ปี ในระหว่างที่เพาะกล้าจากควรทำการรดน้ำบ้างโดยเฉพาะใน ช่วงหน้าแล้ง และเป็นช่วงที่มีน้ำลงนานๆ ต้นกล้าที่จะนำไป ปลูก ถ้าหน่อยังเล็กอยู่อาจจะเสี่ยงต่อการกัดกินของสัตว์น้ำโดย เฉพาะปู ดังนั้นควรจะเลือกต้นกล้าที่มีขนาดโตและเริ่มมีใบแตก ออกมาแล้วไปปลูก
เรือนเพาะชำสามารถทำได้ง่ายๆ โดยการกั้นพื้นที่ด้วยอวน หรือตาข่าย ที่บริเวณน้ำกร่อยท่วมถึง เป็นที่ดินเลนเหนียว และมีร่มเงา กั้นแปลงด้วยไม้แล้วนำถุงเพาะชำที่มีดินเลนมาเรียง ไว้ให้เต็มในบริเวณไม้ที่กั้นเอาไว้ แล้วนำเมล็ดมาทำการเพาะชำ ในถุงเพาะชำเหล่านี้
บางพื้นที่มีการเก็บต้นกล้าที่งอกเองตามธรรมชาติมาปลูก แต่วิ ธีการนี้ต้องรู้จักการเก็บและเหลือต้นกล้าบางส่วนไว้ด้วย เพื่อ ให้ต้นกล้าได้มีโอกาสเจริญเติบโตทดแทนต้นแก่ต่อไป การเก็บ ต้นกล้าและเมล็ดตามธรรมชาติจะมีผลเสียบ้างที่ทำให้เมล็ดและ ต้นกล้าไม่มีโอกาสไปขยายพันธุ์สู่ที่อื่นๆดังนั้นจึงควรเหลือเมล็ด และต้นกล้าไว้ให้มีการขยายพันธุ์เองบ้างตามธรรมชาติ การเก็บ ต้นกล้าจากจากธรรมชาติมาปลูกจะมีความเสี่ยง คือ มีอัตรา การตายสูง เพราะเวลาถอนหรือขุดจะทำให้ระบบราก ขาดหรือ กระทบกระเทือนต่อระบบราก ดังนั้นควรเลือกกล้าจากที่ยังไม่มี รากแทงลงสู่ดิน
การเตรียมการก่อนปลูก อาจจะมีการถางวัชพืชบ้างเล็กน้อย เพื่อให้การปลูกง่ายขึ้นและต้นกล้าได้รับแสงแดดอย่างพอเพียง บริเวณสถานที่ปลูกจากควรจะเป็นพื้นที่ริมลำคลองและริมแม่น้ำ และเป็นบริเวณที่มีดินเหนียวและแข็งเป็นส่วนประกอบ หลัง จากปลูกแล้วควรจะมีการกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน โดยเฉพาะในระยะแรกๆ เพื่อไม่ให้วัชพืชรบกวนการเจริญเติบ โตต่อต้นจากอ่อน
- ขั้นตอนการทำตับจาก
การตัดใบจาก ชาวบ้านจะออกตัดจากได้ในช่วงระหว่าง 5 ค่ำ ถึง 12 ค่ำ เพราะเป็นช่วงที่น้ำตาย (ระดับน้ำเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่แตกต่างกันมากนัก) และเป็นระยะเวลาที่น้ำท่วมไม่มากนัก ทำให้สะดวกต่อการเดินเข้าไปตัดใบจากได้ การตัดแต่ละครั้งจะมีการเหลือก้านอ่อนเอาไว้ 2-3 ก้านต่อต้น เพื่อให้ก้านเหล่านี้มีการเจริญเติบโตต่อไป หลังจากตัดครั้งแรกไปแล้วประมาณ 3 เดือน ก็จะวนมาตัดที่ต้นเก่าได้อีกครั้งหนึ่ง ชาวบ้านจะออกทำ การตัดใบจากตลอดทั้งปี ถ้าฝนไม่ตกหนักจนเกินไป
เมื่อทำการตัดก้านจากแล้วจะริดใบจากออกจากก้าน แล้วนำมาใบจากมามัดรวมกันเป็นมัดๆ วิธีการมัดจะนำใบจากมาวางเรียง
ให้ดีในบริเวณที่ปักไม้หรือก้านจากเอาไว้ จากนั้นใช้เชือกที่ลอกออกมาจากเปลือกก้านจากมัดให้แน่น เมื่อมัดจากเสร็จสิ้นแล้ว ลำเลียงลงเรือ บรรทุกกลับมาบริเวณทำผลิตภัณฑ์ตับจากของกลุ่ม หรือบางคนก็จะลำเลียงไปทำตับจากที่บ้านของตนเอง
การทำตับจาก จะมีการเรียงใบที่เหมาะสมและจัดใบให้เท่ากัน การเรียงใบจะทำครั้งละประมาณ 2-3 ใบแล้วพับรอบก้านไม้ไผ่ ที่เตรียมไว้ จากนั้นเย็บยึดใบจากเข้าด้วยกันด้วยตอกหรือเชือกฟาง คนหนึ่งจะทำตับจากได้ประมาณ 100 ตับต่อวัน ถ้ามีความชำนาญ ตอกจะทำจากไม้ไผ่ชนิดหนึ่งที่เรียกเป็นภาษา ชาวบ้านว่า ไผ่ราชวัง ที่มีปล้องยาวและเมื่อทำเป็นตอกแล้วจะมีความเหนียวมากเป็นพิเศษ ตับจากอันหนึ่งจะมีความยาว 1.2 เมตร
หลังจากเย็บตับจากเสร็จแล้ว ชาวบ้านจะนำตับจากมามัดรวม กันเป็นชุดๆ ชุดหนึ่งมีทั้งหมด 25 ตับ ซึ่งจะจำหน่ายที่ราคา 75 บาทต่อชุด หรือราคา 3 บาทต่อหนึ่งตับ ลูกค้าส่วนมากจะ เป็นผู้ที่สัญจรผ่านไปมา และลูกค้าที่ทราบข่าวและบอกเล่ากัน ฟังปากต่อปาก รวมทั้งลูกค้าที่เป็นผู้ที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร และชุมชนใกล้เคียง