เหล้าปั่น ภัยเงียบน้ำเมา
ผลการศึกษาในปี 2550 ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำรวจกลุ่มตัวอย่างเยาวชนระดับมัธยมศึกษาจนถึงระดับปวช. จำนวน 53,010 คน ใน 24 จังหวัด พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า กลุ่มตัวอย่างนักเรียนชายในระดับ ม.2 เคยมีประวัติเคยดื่มแอลกอฮอล์แล้วถึงร้อยละ 33.7 และหญิงร้อยละ 22.1 โดยเฉลี่ยอายุเมื่อเริ่มดื่มครั้งแรกเท่ากับ 11.9 ปี และ 12 ปี ตามลำดับ
การประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 4 ในปีนี้จัดขึ้นในหัวข้อ “ยุติวิกฤติปัญหาสุรา...ด้วยกฎหมาย” โดยความร่วมมือของ ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) และ เครือข่ายกว่า 20 องค์กร โดยกลุ่มนักศึกษาปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันทำการวิจัยในหัวข้อ รูปแบบการสื่อสาร และปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดื่มเหล้าปั่นของวัยรุ่น ด้วยการศึกษาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง
มิ้ว-ทัศนาวดี แก้วสนิท นักศึกษาปริญญาโทปี 2 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการวิจัยเรื่องราวของเหล้าปั่นในเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นที่ดื่มจริง จำนวน 9 คน จากการที่ได้ลงไปศึกษาเรื่องราวของเหล้าปั่นอย่างลึกซึ้งก็พบข้อมูลที่น่ากลัวว่ากลุ่มนักดื่มเหล้าปั่นส่วนใหญ่จะเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนใหญ่อายุ 13–19 ปี กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้น จนถึงระดับอุดมศึกษา
สาเหตุในการดื่มมีหลากหลาย ดื่มง่าย เพื่อนชักชวน รวมไปถึงกลยุทธ์ในการขาย ทั้งในเรื่องของรูปแบบภาชนะที่ใช้ในการใส่ที่โปร่งใสเพื่อให้เห็นถึงสีสันของเหล้าปั่นได้อย่างชัดเจน ราคาถูก ทำให้เยาวชนสามารถซื้อหาได้ง่าย รวมไปถึงบรรยากาศในการตกแต่งร้านเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ร้านเหล้าปั่นส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ในละแวกเดียวกับสถานศึกษาแทบทั้งสิ้น ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แน่นอนว่าทำให้เอื้อประโยชน์ต่อการเกิดนักดื่มหน้าใหม่ทั้งในกลุ่มเด็กเยาวชนและสตรีได้ไม่ยาก อีกทั้งการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายแบบ ลด แลก แจก แถม เป็นปัจจัยหนุนที่ช่วยเพิ่มปริมาณการดื่ม
“ทุกวันนี้วัยรุ่นหันมาดื่มเหล้าปั่นกันมาก ยิ่งดื่มตั้งแต่เด็กก็จะทำให้เลิกได้ช้ากว่า เพราะระยะเวลาในการดื่มจะยาวนานตามไปด้วย เพราะฉะนั้ต้องแก้ที่ตัวผู้ดื่มเอง เพราะการเริ่มดื่มเหล้าปั่น เหมือนเป็นการจุดฉนวนนำไปสู่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รุนแรงขึ้นและเพิ่มปริมาณการดื่มมากขึ้นสถานศึกษาเองก็ควรจะต้องสอดส่องดูแลนักเรียนนักศึกษาอย่างใกล้ชิดและเข้มงวด ให้คำแนะนำถึงอันตรายจากสีสันจากเหล้าปั่นเหล่านี้ไม่ให้เยาวชนของชาติตกเป็นทาสของน้ำเมา เพราะร้านเหล้าปั่นส่วนใหญ่อยู่ใกล้สถานศึกษา และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ เนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมไปถึงเหล้าปั่น จึงยังไม่สามารถทำอะไรกับร้านเหล่านี้ได้ นักศึกษาบางคนซื้อใส่ถุงดูดเข้าสถานศึกษาเลยก็มี เพราะถ้ามองภายนอกก็จะไม่รู้ว่าเป็นเหล้าปั่น ลักษณะเหมือนน้ำผลไม้ปั่นธรรมดา ซึ่งอันตรายมากค่ะ”