• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e8a5c24611a841d9d4409719ef3614f5' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>ห้ามลบ</strong> </span><span style=\"color: #0610f8\">ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.<br />\nหากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล<br />\nซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง</span> <br />\nครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล\n</p>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nความหมายของ Tense\n</p>\n<p>\nTense คือ รูปของคำกริยาที่บอกเวลาของการกระทำ ในภาษาอังกฤษการกระทำที่เกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกันจะใช้รูปของคำกริยาที่แตกต่างกัน เช่น\n</p>\n<p>\n1. I am playing football now. ( ฉันกำลังเล่นฟุตบอล )\n</p>\n<p>\n2. I played football yesterday. ( ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ )\n</p>\n<p>\nในประโยคที่ 1 รูปของคำกริยาคือ am playing บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลกำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดประโยคนี้ออกมา\n</p>\n<p>\nในประโยคที่ 2 รูปของคำกริยาคือ played บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลเกิดขึ้นเมื่อวานนี้\n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p><p>ชนิดของ Tense\n</p>\n<p>\nTense แบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ\n</p>\n<p>\n1. Present Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นปัจจุบัน\n</p>\n<p>\n2. Past Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นอดีต\n</p>\n<p>\n3. Future Tense ใช้กับการกระทำที่เป็นอนาคต\n</p>\n<p>\nแต่ละ Tense ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 Tense ย่อย จึงมีทั้งหมด 12 Tense ดังนี้\n</p>\n<p>\n 1. Present Simple Tense <br />\n 2. Past Simple Tense <br />\n 3. Future Simple Tense <br />\n 4. Present Progressive Tense <br />\n 5. Past Progressive Tense <br />\n 6. Future Progressive Tense <br />\n 7. Present Perfect Tense <br />\n 8. Past Perfect Tense <br />\n 9. Future Perfect Tense <br />\n 10. Present Perfect Progressive Tense <br />\n 11. Past Perfect Progressive Tense <br />\n 12. Future Perfect Progressive Tense <br />\n </p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>1.3 โครงสร้างของ Tense\n</p>\n<p>\nทั้ง 12 Tense ย่อยมีโครงสร้างของประโยคดังนี้\n</p>\n<p>\nPresent Tense <br />\n1. Present Simple Tense                       S + V.1 <br />\n2. Present Progressive Tense                  S + is ,am , are + V.1 เติม ing <br />\n3. Present Perfect Tense                      S + have , has + V.3 <br />\n4. Present Perfect Progressive Tense          S + have , has + been + V.1 เติม ing\n</p>\n<p>\nPast Tense <br />\n1. Past Simple Tense                          S + V.2 <br />\n2. Past Progressive Tense                     S + was , were + V.1 เติม ing <br />\n3. Past Perfect Tense                         S + had + V.3 <br />\n4. Past Perfect Progressive Tense             S + had + been + V.1 เติม ing\n</p>\n<p>\nFuture Tense  <br />\n1. Future Simple Tense                        S + will , shall +V.1 <br />\n2. Future Progressive Tense                   S + will, shall + be + V.1 เติม ing <br />\n3. Future Perfect Tense                       S + will , shall + have , has + V.3 <br />\n4. Future Perfect Progressive Tense           S +will , shall + have + been + V.1 เติม ing <br />\n \n</p>\n<p>\n <br />\nS ย่อมาจาก Subject หมายถึง ประธานของประโยค\n</p>\n<p>\nV.1 ย่อมาจาก Verb 1 หมายถึง กริยาช่องที่ 1\n</p>\n<p>\nV.2 ย่อมาจาก Verb 2 หมายถึง กริยาช่องที่ 2\n</p>\n<p>\nV.3 ย่อมาจาก Verb 3 หมายถึง กริยาช่องที่ 3\n</p>\n<p>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>1. Present Simple Tense\n</p>\n<p>\n1.1 ประโยค Present Simple Tense เชิงบอกเล่า\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง : Subject + Verb 1 (s )\n</p>\n<p>\n( ประธาน + กริยาช่องที่ 1 ( s ) )\n</p>\n<p>\n( เมื่อประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 หลังคำกริยาจะต้องเติม s )\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง : 1.I go to school by car. (ฉันไปโรงเรียนโดยรถยนต์)\n</p>\n<p>\n2. He walks to school. ( เขาเดินไปโรงเรียน )\n</p>\n<p>\n3. You play football every day. ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวัน )\n</p>\n<p>\n<br />\n1.2 ประโยค Present Simple Tense เชิงปฏิเสธ\n</p>\n<p>\nเมื่อต้องการแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธ ทำได้ด้วยการใช้ Verb to do มาช่วย มีหลักการใช้ดังนี้\n</p>\n<p>\ndo ใช้กับประธานพหูพจน์ และ I กับ you\n</p>\n<p>\ndoes ใช้กับประธานเอกพจน์ ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง : Subject + do / does + not + Verb 1\n</p>\n<p>\n( ประธาน + do / does + not + กริยาช่องที่ 1 )\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง : 1. I do not ( don’t ) go to school by car. ( ฉันไม่ไปโรงเรียนโดยรถยนต์ )\n</p>\n<p>\n2. He does not ( doesn’t ) walk to school. ( เขาไม่เดินไปโรงเรียน )\n</p>\n<p>\n3. You do not play football every day. ( คุณไม่เล่นฟุตบอลทุกวัน )\n</p>\n<p>\n<br />\n1.3ประโยค Present Simple Tense เชิงคำถามและการตอบ\n</p>\n<p>\nเมื่อต้องการแต่งประโยคใน Present Simple Tense ให้มีความหมายเชิงคำถาม ทำได้ด้วยการนำ do หรือ does มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างของประโยคดังนี้\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง : Do / Does + Subject + Verb 1 ?\n</p>\n<p>\n( Do / Does + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 )\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง : 1. Does he walk to school ? (เขาเดินไปโรงเรียนใช่หรือไม่ )\n</p>\n<p>\n-Yes, he does. ( ใช่ เขาเดินไปโรงเรียน )\n</p>\n<p>\n-No, he doesn’t. ( ไม่ใช่ เขาไม่ได้เดินไปโรงเรียน )\n</p>\n<p>\n2. Do you play football every day ? ( คุณเล่นฟุตบอลทุกวันใช่หรือไม่ )\n</p>\n<p>\n-Yes, I do. ( ใช่ ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน )\n</p>\n<p>\n-No, I don’t. ( ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เล่นฟุตบอลทุกวัน )\n</p>\n<p>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>หลักการใช้ Present Simple Tense\n</p>\n<p>\nใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงตลอดไปหรือเป็นความจริงตามธรรมชาติ เช่น <br />\n1. The sun rises in the east.( พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก )\n</p>\n<p>\n2. Fire is hot. ( ไฟร้อน )\n</p>\n<p>\n2. ใช้กับการกระทำที่กระทำอยู่จนเป็นนิสัย มักจะมีกลุ่มคำที่มีความหมายว่า เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ อยู่ด้วย เช่น\n</p>\n<p>\nI get up at six o’clock every day. ( ฉันตื่นนอนเวลา 6 นาฬิกาทุกวัน ) <br />\nHe plays football every day. ( เขาเล่นฟุตบอลทุกวัน )\n</p>\n<p>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>หลักการเติม s ที่คำกริยา\n</p>\n<p>\n1.กริยาที่ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, o, หรือ x ให้เติม e ก่อนแล้วจึงเติม s เช่น\n</p>\n<p>\npass - passes = ผ่าน\n</p>\n<p>\nbrush - brushes = แปรงฟัน\n</p>\n<p>\ncatch - catches = จับ\n</p>\n<p>\ngo - goes = ไป\n</p>\n<p>\nbox - boxes = ชก\n</p>\n<p>\n2.กริยาที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น ie แล้วจึงเติม s เช่น\n</p>\n<p>\ncry - cries = ร้องไห้\n</p>\n<p>\nfry - fries = ทอด\n</p>\n<p>\ntry - tries = พยายาม\n</p>\n<p>\nข้อยกเว้น ถ้ากริยานั้นหน้า y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย เช่น\n</p>\n<p>\nplay - plays = เล่น\n</p>\n<p>\nstay - stays = พัก\n</p>\n<p>\n3. กริยาที่นอกเหนือจากที่กล่าวในข้อ 1 และ ข้อ 2 ให้เติม s ได้เลย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p><p>2.Present Progressive Tense\n</p>\n<p>\n2.1 ประโยค Present Progressive Tense เชิงบอกเล่า\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง: Subject + is, am, are + Verb 1 ing.\n</p>\n<p>\n( ประธาน + is, am, are + กริยาช่อง 1 เติม ing.)\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง 1. Somchai is sleeping. ( สมชายกำลังนอนหลับ )\n</p>\n<p>\n2. I am playing football. ( ฉัน กำลังเล่น ฟุตบอล )\n</p>\n<p>\n3. They are watching TV. ( พวกเขากำลังดูโทรทัศน์ )\n</p>\n<p>\n<br />\n2.2 ประโยค Present Progressive Tense เชิงปฏิเสธ\n</p>\n<p>\nเมื่อต้องการแต่งประโยค Present Progressive Tense ให้มีความหมาย เชิงปฏิเสธให้นำ not มาเติมหลัง Verb to be ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง: Subject + is, am, are + not + Verb 1 ing.\n</p>\n<p>\n( ประธาน + is, am, are + not + กริยาช่อง 1 เติม ing. )\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง : 1. Somchai is not ( isn’t ) sleeping. ( สมชายไม่ได้กำลังนอนหลับ )\n</p>\n<p>\n2. I am not playing football. ( ฉันไม่ได้ กำลังเล่น ฟุตบอล )\n</p>\n<p>\n3. They are not ( aren’t ) watching TV. ( พวกเขาไม่ได้กำลังดูโทรทัศน์ )\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n2.3 ประโยค Present Progressive Tense เชิงคำถามและการตอบ\n</p>\n<p>\nเมื่อต้องการแต่งประโยค Present Progressive Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำ Verb to be มาวางไว้หน้าประโยค\n</p>\n<p>\nและตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้\n</p>\n<p>\nโครงสร้าง: Is, Am, Are + Subject + Verb 1 ing. ?\n</p>\n<p>\n( Is, Am, Are +ประธาน + กริยาช่อง 1 เติม ing. ? )\n</p>\n<p>\nตัวอย่าง : 1. Is Somchai sleeping ? ( สมชายกำลังนอนหลับใช่หรือไม่ )\n</p>\n<p>\n-Yes, he is . ( ใช่ เขากำลังนอนหลับ )\n</p>\n<p>\n-No, he isn’t. ( ไม่เขาไม่ได้กำลังนอนหลับ )\n</p>\n<p>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>หลักการใช้ Present Progressive Tense\n</p>\n<p>\n1. ใช้กับการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูด เช่น\n</p>\n<p>\n1. I am studying English . ( ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษ )\n</p>\n<p>\n2. Somchai is sleeping. ( สมชายกำลังนอนหลับ )\n</p>\n<p>\n3. They are watching TV. ( พวกเขากำลังดูโทรทัศน์ )\n</p>\n<p>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>หลักการเติม ing ท้ายคำกริยา\n</p>\n<p>\n1. คำกริยาธรรมดา ให้เติม ing ได้เลย เช่น\n</p>\n<p>\nspeak ( พูด ) - speaking\n</p>\n<p>\neat (กิน) - eating\n</p>\n<p>\n2. คำกริยาที่มีพยางค์เดียว มีตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วเติม ing เช่น\n</p>\n<p>\nsit ( นั่ง ) - sitting\n</p>\n<p>\nrun ( วิ่ง ) - running\n</p>\n<p>\n3. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e เพียงตัวเดียวให้ตัด e ทิ้งแล้วเติม ing เช่น\n</p>\n<p>\ncome ( มา ) - coming\n</p>\n<p>\ndrive ( ขับรถ ) - driving\n</p>\n<p>\n4. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น\n</p>\n<p>\ndie ( ตาย ) - dying\n</p>\n<p>\nlie ( นอน ) - lying\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1715941943, expire = 1716028343, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e8a5c24611a841d9d4409719ef3614f5' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c661de04349bb47127708ff3539fd501' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"color: #ff0000\"><strong>ห้ามลบ</strong> </span><span style=\"color: #0610f8\">ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.<br />\nหากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล<br />\nซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง</span> <br />\nครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล\n</p>\n<hr id=\"null\" />\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nความหมายของ Tense\n</p>\n<p>\nTense คือ รูปของคำกริยาที่บอกเวลาของการกระทำ ในภาษาอังกฤษการกระทำที่เกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกันจะใช้รูปของคำกริยาที่แตกต่างกัน เช่น\n</p>\n<p>\n1. I am playing football now. ( ฉันกำลังเล่นฟุตบอล )\n</p>\n<p>\n2. I played football yesterday. ( ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ )\n</p>\n<p>\nในประโยคที่ 1 รูปของคำกริยาคือ am playing บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลกำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดประโยคนี้ออกมา\n</p>\n<p>\nในประโยคที่ 2 รูปของคำกริยาคือ played บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลเกิดขึ้นเมื่อวานนี้\n</p>\n<p></p>', created = 1715941943, expire = 1716028343, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c661de04349bb47127708ff3539fd501' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

tense

ห้ามลบ ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น.
หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านเข้ามาแก้ไขข้อมูล ถือว่าโมฆะในการพิจารณาได้รับรางวัล
ซึ่งระบบของ Thaigoodview สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลงานแต่ละชิ้น มีการแก้ไขเวลาใดบ้าง

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล


 

 

 

ความหมายของ Tense

Tense คือ รูปของคำกริยาที่บอกเวลาของการกระทำ ในภาษาอังกฤษการกระทำที่เกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกันจะใช้รูปของคำกริยาที่แตกต่างกัน เช่น

1. I am playing football now. ( ฉันกำลังเล่นฟุตบอล )

2. I played football yesterday. ( ฉันเล่นฟุตบอลเมื่อวานนี้ )

ในประโยคที่ 1 รูปของคำกริยาคือ am playing บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลกำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดประโยคนี้ออกมา

ในประโยคที่ 2 รูปของคำกริยาคือ played บอกให้รู้ว่าการเล่นฟุตบอลเกิดขึ้นเมื่อวานนี้

สร้างโดย: 
วีณา รัตนสุมาวงค์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 340 คน กำลังออนไลน์