• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:66c95d31df48f4c381aa9444cb616f9b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\">\n  \n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\"><img width=\"86\" src=\"/files/u2873/thai.jpg\" height=\"130\" style=\"width: 100px; height: 132px\" /></a>\n</div>\n<div>\n</div>\n<div>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: medium; color: #3366ff\"><strong><u>ขนมไทย</u></strong></span> </span>\n</div>\n</div>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">       <span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #ff00ff\"><span style=\"color: #ff6600\"><span style=\"font-size: x-small; color: #ff00ff\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-size: x-small; color: #800000\">ขนมไทย</span></strong></span></span></span></span> เป็นของหวานที่ทำและรับประทานกันในอาณาจักรไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงามรูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจงของขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานศิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทองเพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟูขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้นของหวานไทยหรือขนมไทย กล่าวได้ว่ามีอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เพราะเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่า คนไทยเป็นคนมีลักษณนิสัย อย่างไร เนื่องด้วยขนมไทยแต่ละชนิด แล้วนมีเสน่ห์มี รสชาติ ที่แตกต่างกันออกไปแต่แฝงไปด้วยความละเมียดละไม ความวิจิตรบรรจง อยู่ในรูปลักษณ์ กลิ่น รสของขนมที่สำคัญขนมไทยแสดงให้เห็นว่าเป็นคนใจเย็น รักสงบ มีฝีมือเชิงศิลปะ ขนมธรรมดาๆ ทำด้วยแป้ง น้ำตาล มะพร้าว เป็นส่วนประกอบ สำคัญ สามารถดัดแปลงเป็นขนมหลายชนิด หน้าตา แตกต่างกัน ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควรส่วนใหญ่เป็น ขนมประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ พวกนี้มีเห็นทั่วไป ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"color: #00ff00\"><span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #ff6600\"><span style=\"color: #00ccff\">ประวัติความเป็นมาของขนมไทย</span><br />\n</span></span></span></strong>       ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วย ต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทยๆ จนทำให้คนรุ่นหลังๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ๆ และอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงศุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่ไข่มักเป็น &quot;ของเทศ&quot; เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"color: #800080\"><strong><span style=\"font-size: small\">ขนมไทยแต่ละภาค</span></strong><br />\n</span><strong><u>ขนมไทยล้านนา</u></strong> ส่วนใหญ่จะทำจากข้าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้ม เช่น ขนมเทียน ขนมวง ข้าวต้มหัวหงอก มักทำกันในเทศกาลสำคัญ เช่นเข้าพรรษา สงกรานต์ <br />\n<strong><u>ขนมไทยภาคกลาง</u></strong> ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูล และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ เป็นต้น <br />\n<strong><u>ขนมไทยภาคอีสาน</u></strong> เป็นขนมที่ทำกันง่ายๆ มักใช้ในงานบุญพิธี ที่เรียกว่า ข้าวประดับดิน โดยชาวบ้านนำข้าวที่ห่อใบตอง มัดด้วยตอกแบบข้าวต้มมัด กระยาสารท ข้าวทิพย์ ข้าวยาคู <br />\n<strong><u>ขนมไทยภาคใต้</u></strong> ชาวใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทำบุญด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำหรือเมซำ ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น </span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-size: medium; color: #ff0000; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">สูตรการทำขนมไทยชนิดต่าง ๆ</span></strong> </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"font-size: small; color: #99cc00\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> </span></span><a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"232\" src=\"/files/u2873/hib.jpg\" height=\"155\" style=\"width: 135px; height: 92px\" /></span></span></a></span></strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-size: small; color: #99cc00; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ทองหยิบ</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ส่วนผสม</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ไข่เป็ด 10 ฟอง<br />\n2.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง<br />\n3.น้ำลอยดอกไม้ 2 ถ้วยตวง</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: x-small; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทราย เคี่ยวให้เป็น้ำเชื่อม สำหรับหยอด <br />\n2.แยกไข่ขาวและไข่แดงใช้แต่ใข่แดงตีให้ขึ้นฟูจนไข่เปลี่ยนเป็นสีนวล <br />\n3.ตักไข่หยอดใส่ในน้ำเชื่อม ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ไข่เป็นแผ่น หยอดให้เต็มกระทะ รอให้ไข่สุก ตักแผ่นไข่ที่หยอดไว้ใส่ถาดใช้มือจับเป็นจีบ ตามต้องการ แล้วหยิบใส่ถ้วยตะไล รอให้เย็นแล้วจึงแคะออกจากถ้วยตะไล </span></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><span style=\"font-size: small; color: #0000ff\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> </span></span><a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"232\" src=\"/files/u2873/f.jpg\" height=\"162\" style=\"width: 141px; height: 93px\" /></span></span></a></span></strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> </span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-size: small; color: #0000ff; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ฝอยทอง</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ส่วนผสม</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ไข่เป็ด 5 ฟอง<br />\n2.ไข่ไก่ 5 ฟอง<br />\n3.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง<br />\n4.น้ำดอกไม้ 2 ถ้วยตวง<br />\n5.ไข่น้ำค้าง 2 ช้อนโต๊ะ</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">วิธีทำ</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ต่อยไข่แยกเอาไข่แดงไว้ แล้วผสมไข่แดงของไข่เป็ดและไข่ไก่เข้าด้วยกัน ใส่ไข่น้ำค้างลงในไข่แดง <br />\n2.คนไข่ให้เข้ากันอย่าให้เป็นฟอง แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ไข่แดงเข้ากันดี <br />\n3.ผสมน้ำตาลทรายน้ำดอกไม้เข้าด้วยกันในกระทะทองตั้ง <br />\n4.ใช้กรวยใบตองหรือกรวยทองเหลือง โรยไข่ลงบนที่เชื่อมเป็นเส้นวน ไปรอบๆ ประมาณ 10-20 รอบหรือตามต้องการ พอไข่สุกประมาณ 1 นาที ใช้ไม้แหลมสอยขึ้น แล้วพับให้เป็นแพหรือพับให้เป็นคำตามต้องการ <br />\n</span></span>\n</p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"269\" src=\"/files/u2873/t.jpg\" height=\"172\" style=\"width: 143px; height: 101px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<span style=\"color: #ff99cc\"><span style=\"color: #ffcc00\"><span style=\"color: #ffcc00\"><strong><span style=\"font-size: small\"></span><span style=\"color: #993300; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ขนมตาล</span></span></strong></span></span></span><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> </span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">ส่วนผสม</span></strong> </span>\n</p>\n<p align=\"left\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ลูกตาลสุก 1 ผล<br />\n2.ข้าวสารเก่า 2 ถ้วยตวง<br />\n3.แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง<br />\n4.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง<br />\n5.หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง<br />\n6.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง<br />\n7.เกลือป่น 1 ช้อนชา</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">วิธีทำ</span></strong> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด ขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง <br />\n2.โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง <br />\n3.ผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง <br />\n4.ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ </span>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: small; color: #008080; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong></strong></span></p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"263\" src=\"/files/u2873/k.jpg\" height=\"175\" style=\"width: 145px; height: 105px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"> <span style=\"font-size: small; color: #008080; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ข้าวเหนียวแดง</strong></span> </span>\n</p>\n<p></p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ส่วนผสม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง<br />\n2.หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง<br />\n3.น้ำตาลปีบ 2 ถ้วยตวง</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วเทออกใส่ถาดเกลี่ยให้กระจายตัว ผึ่งลมให้แห้ง <br />\n2.หัวกะทิใส่ในกระทะตั้งไฟเคี่ยวให้เดือดใส่น้ำตาลปีบลงเคี่ยวให้เป็น ยางมะตูม <br />\n3.ใส่ข้าวเหนียวที่ผึ่งไว้ลงในกระทะทอง กวนต่อจนข้าวเหนียวเริ่มเกาะตัวเป็นก้อน แล้วล่อนออกจากกระทะยกลง <br />\n4.ตัดข้าวเหนียวใส่ถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ตกแต่งให้สวยงาม </span></span>\n</p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"263\" src=\"/files/u2873/kk.jpg\" height=\"196\" style=\"width: 153px; height: 98px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #008000; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>กระเช้าสีดา</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ส่วนผสม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง<br />\n2.ไข่แดง 2 ฟอง<br />\n3.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ<br />\n4.น้าเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ<br />\n5.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง<br />\n6.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง<br />\n7.น้ำดอกไม้ 1 ถ้วยตวง</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong> วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.นวดแป้งสาลีกับน้ำมันพืชให้เข้ากันใส่ไข่แดงลงนวดทีละฟองนวดจนแห้งเนียนนิ่มใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำบิดหมาดๆคลุมพักไว้ประมาณ 10-15 นาที <br />\n2.แบ่งแป้งที่ละน้อยกดลงพิมพ์กระเช้าใส่ถาดนำเข้าอบไฟกลางจนแป้งสุกยกลงพักไวให้เย็น <br />\n3.ผสมน้ำทรายน้ำลอยดอกไม้ ตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนตาลทรายละลายเหนียวจนเป็ยยางมะตูมใส่มะพร้าวลงคลุกกับน้ำเชื่อมให้ทั่ว กันจนน้ำเชื่อมแห้ง <br />\n4.ตักมะพร้าวใส่ลงในกระเช้าจัดให้สวยงามแล้ววางผึ่งลมให้แห้งแล้วจึงจัดใส่ภาชนะ </span></span>\n</p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"263\" src=\"/files/u2873/n.jpg\" height=\"175\" style=\"width: 145px; height: 103px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #cc99ff; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ขนมต้ม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ส่วนผสม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ<br />\n2.น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ<br />\n3.แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง<br />\n4.น้ำ 1/2 ถ้วยตวง<br />\n5.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 1/2 ถ้วยตวง<br />\n6.น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง<br />\n7.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา<br />\n8.มะพร้าวขูดเป็นเส้น 2 ถ้วยตวง</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ผสมแป้งท้าวยายม่อมแป้งข้าวเหนียวเข้าด้วยกันค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่มปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซ.ม. <br />\n2.ผสมน้ำตาลปีบฝอยน้ำเป่า 2 ช้อนโต๊ะ ในกระทะทองตั้งไฟกวนให้เหนียวสำหรับเป็นไส้ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม <br />\n3.แผ่แป้งที่ปั้นไว้เป็ยแผ่นแบนวางไส้ลงตรงกลางแล้วหุ้มไส้ให้มิด <br />\n4.ใส่น้ำในหม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ขนมต้มลง เมื่อขนมสุกลอยตัวขึ้นตักขนมใส่น้ำเย็นแล้วสะบัดให้ สะเด็ดน้ำ </span></span>\n</p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"247\" src=\"/files/u2873/p.jpg\" height=\"172\" style=\"width: 139px; height: 101px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #00ff00; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ข้าวต้มผัด</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ส่วนผสม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ข้าวเหนียวแช่น้ำไว้แล้ว 2 ถ้วยตวง<br />\n2.หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง<br />\n3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง<br />\n4.เกลือป่น 2 ช้อนชา<br />\n5.กล้วยน้ำหว้าสุก 8 ลูก<br />\n6.ใบตองสำหรับห่อ</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทรายเกลือลงในกระทะทอง ตั้งไฟอ่อนๆ คนพอน้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อสักครู่ <br />\n2.ใส่ข้าวเหนียวผัดกับกะทิด้วยไฟอ่อนๆ จนกะทิแห้งยกลงจากเตา <br />\n3.ปอกกล้วยผ่าครึ่งตามยาวเตรียมไว้ <br />\n4.ฉีกใบตองวางซ้อนกันวางข้าวเหนียวใส่กล้วยวางข้าวเหนียวทับอีกครั้งให้มิดกล้วย แล้วห่อให้แน่นนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 45 นาที <br />\n5.มะพร้าวผสมเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ขนมคลุกลงกับมะพร้าวให้ทั้วจัดใส่จาน </span></span>\n</p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"250\" src=\"/files/u2873/nn.jpg\" height=\"172\" style=\"width: 150px; height: 104px\" /> </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #00ffff; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ขนมนางเล็ด</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ส่วนผสม</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง<br />\n2.น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง<br />\n3.น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง<br />\n4.น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ซาวข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำพักไว้ 1 คืน <br />\n2.นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วตักข้าวเหนียวลงในพิมพ์กดเบาๆ ให้ข้าวเหนียวเป็นแผ่นบางๆใส่ถาดตากแดดให้แห้งสนิท <br />\n3.น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่ข้าวที่ตากแดดแล้วลงทอดให้พองกรอบ แล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันซับน้ำมันให้แห้งแล้วพักไว้ให้เย็นเก็บใส่ภาชนะไม่ให้ถูกลม <br />\n4.เคี่ยวน้ำตาลปึกกับน้ำจนน้ำตาลละลายเคี่ยวให้ข้นจนเป็นยางมะตูม ยกลงจากเตา <br />\n5.ตักน้ำที่เคี่ยวไว้หยอดบนแผ่นข้าวที่ทอดไว้เป็นวงให้สวยงาม ผึ่งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะปิดฝาไม่ให้ถูกลม </span></span>\n</p>\n<p><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"></span></p>\n<div>\n<a href=\"/imce/browse#\" onclick=\"imceFinitor(imceVar.activeRow); return false;\">\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><img width=\"250\" src=\"/files/u2873/ttt.jpg\" height=\"163\" style=\"width: 140px; height: 102px\" />  </span>\n</div>\n<p></p></a>\n</div>\n<p></p>\n<p align=\"center\">\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-size: small; color: #800080; font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>ข้าวตู</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"color: #000000\"><strong>ส่วนผสม</strong></span></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.ข้าวตาก 1 ถ้วยตวง<br />\n2.น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง<br />\n3.มะพร้าวทึนทึกขูดละเอียด 1 ถ้วยตวง<br />\n4.น้ำลอยดอกไม้</span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><strong>วิธีทำ</strong></span> </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\">1.น้ำข้าวตากมาคั่วให้เหลืองกรอบแล้วนำไปป่นให้ละเอียดร่อน แล้วป่นอีกครั้งให้ละเอียดดี <br />\n2.ผสมน้ำตาลกับน้ำตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางใส่กระทะทองตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาล เหนียว <br />\n3.ใส่มะพร้าวขูดลงกวนกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น <br />\n4.ใส่ข้าวคั่วที่ป่นละเอียดแล้วลงคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว <br />\n5.เอาขนมอัดใส่พิมพ์ แล้วเคาะออกใส่ขวดโหลหรือภาชนะเก็บไว้ </span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"><span style=\"font-family: tahoma,arial,helvetica,sans-serif\"></span></span>\n</p>\n', created = 1726813509, expire = 1726899909, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:66c95d31df48f4c381aa9444cb616f9b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ขนมไทย

 
ขนมไทย

       ขนมไทย เป็นของหวานที่ทำและรับประทานกันในอาณาจักรไทย มีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงามรูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานที่ปราณีตบรรจงของขนมแต่ละชนิด ซึ่งยังแตกต่างกันไปตามลักษณะของขนมชนิดนั้นๆขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานศิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นศิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทองเพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟูขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้นของหวานไทยหรือขนมไทย กล่าวได้ว่ามีอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เพราะเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่า คนไทยเป็นคนมีลักษณนิสัย อย่างไร เนื่องด้วยขนมไทยแต่ละชนิด แล้วนมีเสน่ห์มี รสชาติ ที่แตกต่างกันออกไปแต่แฝงไปด้วยความละเมียดละไม ความวิจิตรบรรจง อยู่ในรูปลักษณ์ กลิ่น รสของขนมที่สำคัญขนมไทยแสดงให้เห็นว่าเป็นคนใจเย็น รักสงบ มีฝีมือเชิงศิลปะ ขนมธรรมดาๆ ทำด้วยแป้ง น้ำตาล มะพร้าว เป็นส่วนประกอบ สำคัญ สามารถดัดแปลงเป็นขนมหลายชนิด หน้าตา แตกต่างกัน ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควรส่วนใหญ่เป็น ขนมประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ พวกนี้มีเห็นทั่วไป ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม

ประวัติความเป็นมาของขนมไทย
       ประเทศไทยครั้งยังเป็นสยามประเทศได้ติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติ เช่น จีน อินเดีย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยส่งเสริมการขายสินค้าซึ่งกันและกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้านอาหารการกินร่วมไปด้วย ต่อมาในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ได้มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ อย่างกว้างขวางไทยได้รับเอาวัฒนธรรมด้านอาหารของชาติต่างๆ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น วัตถุดิบที่หาได้ เครื่องมือเครื่องใช้ ตลอดจนการบริโภคนิสัยแบบไทยๆ จนทำให้คนรุ่นหลังๆ แยกไม่ออกว่าอะไรคือขนมที่เป็นไทยแท้ๆ และอะไรดัดแปลงมาจากวัฒนธรรมของชาติอื่น เช่น ขนมที่ใช้ไข่และขนมที่ต้องเข้าเตาอบ ซึ่งเข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จากคุณท้าวทองกีบม้าภรรยาเชื้อชาติญี่ปุ่น สัญชาติโปรตุเกสของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ ผู้เป็นกงศุลประจำประเทศไทยในสมัยนั้น ไทยมิใช่เพียงรับทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทองมาเท่านั้น หากยังให้ความสำคัญกับขนมเหล่านี้โดยใช้เป็นขนมมงคลอีกด้วย ส่วนใหญ่ตำรับขนมที่ใส่ไข่มักเป็น "ของเทศ" เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ทองหยอดจากโปรตุเกส

ขนมไทยแต่ละภาค
ขนมไทยล้านนา ส่วนใหญ่จะทำจากข้าวเหนียว และส่วนใหญ่จะใช้วิธีการต้ม เช่น ขนมเทียน ขนมวง ข้าวต้มหัวหงอก มักทำกันในเทศกาลสำคัญ เช่นเข้าพรรษา สงกรานต์
ขนมไทยภาคกลาง ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูล และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ เป็นต้น
ขนมไทยภาคอีสาน เป็นขนมที่ทำกันง่ายๆ มักใช้ในงานบุญพิธี ที่เรียกว่า ข้าวประดับดิน โดยชาวบ้านนำข้าวที่ห่อใบตอง มัดด้วยตอกแบบข้าวต้มมัด กระยาสารท ข้าวทิพย์ ข้าวยาคู
ขนมไทยภาคใต้ ชาวใต้มีความเชื่อในเทศกาลวันสารท เดือนสิบ จะทำบุญด้วยขนมที่มีเฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้เท่านั้น เช่น ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกะพ้อ ขนมบ้าหรือขนมลูกสะบ้า ขนมดีซำหรือเมซำ ขนมเจาะหูหรือเจาะรู ขนมไข่ปลา ขนมแดง เป็นต้น

สูตรการทำขนมไทยชนิดต่าง ๆ

 

ทองหยิบ

ส่วนผสม

1.ไข่เป็ด 10 ฟอง
2.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
3.น้ำลอยดอกไม้ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทราย เคี่ยวให้เป็น้ำเชื่อม สำหรับหยอด
2.แยกไข่ขาวและไข่แดงใช้แต่ใข่แดงตีให้ขึ้นฟูจนไข่เปลี่ยนเป็นสีนวล
3.ตักไข่หยอดใส่ในน้ำเชื่อม ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ไข่เป็นแผ่น หยอดให้เต็มกระทะ รอให้ไข่สุก ตักแผ่นไข่ที่หยอดไว้ใส่ถาดใช้มือจับเป็นจีบ ตามต้องการ แล้วหยิบใส่ถ้วยตะไล รอให้เย็นแล้วจึงแคะออกจากถ้วยตะไล

 

ฝอยทอง

ส่วนผสม

1.ไข่เป็ด 5 ฟอง
2.ไข่ไก่ 5 ฟอง
3.น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
4.น้ำดอกไม้ 2 ถ้วยตวง
5.ไข่น้ำค้าง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ต่อยไข่แยกเอาไข่แดงไว้ แล้วผสมไข่แดงของไข่เป็ดและไข่ไก่เข้าด้วยกัน ใส่ไข่น้ำค้างลงในไข่แดง
2.คนไข่ให้เข้ากันอย่าให้เป็นฟอง แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ไข่แดงเข้ากันดี
3.ผสมน้ำตาลทรายน้ำดอกไม้เข้าด้วยกันในกระทะทองตั้ง
4.ใช้กรวยใบตองหรือกรวยทองเหลือง โรยไข่ลงบนที่เชื่อมเป็นเส้นวน ไปรอบๆ ประมาณ 10-20 รอบหรือตามต้องการ พอไข่สุกประมาณ 1 นาที ใช้ไม้แหลมสอยขึ้น แล้วพับให้เป็นแพหรือพับให้เป็นคำตามต้องการ


ขนมตาล

ส่วนผสม

1.ลูกตาลสุก 1 ผล
2.ข้าวสารเก่า 2 ถ้วยตวง
3.แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วยตวง
4.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
5.หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
6.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
7.เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1.ลอกเปลือกลูกตาลออกให้หมด ขูดเอาเนื้อสีเหลืองออก ตัวลูกตาลแช่น้ำไว้จนเนื้อลูกตาลละลายออกหมด ใช้ผ้าห่อเนื้อลูกตาล และน้ำที่ละลายผูกมัดปากรวมไว้ให้แน่นแขวนหรือทับไว้ให้แห้ง
2.โม่ข้าวสารที่แช่น้ำไว้ให้ละเอียด แล้วทับให้แห้ง
3.ผสมข้าวสารที่โม่และทับจนแห้งแล้ว รวมกับแป้งท้าวยายม่อม และลูกตาลที่ทับจนแห้งแล้วนวดส่วนผสมทั้งหมด เข้าด้วยกันจนแป้งที่ผสมเนียนและนุ่มมือ(ประมาณ 30-60 นาที)ใส่น้ำตาลสลับกับหัวกะทิ นวดจนหัวกะทิและน้ำตาล ละลายหมด พักไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง
4.ตักแป้งที่ผสมแล้วใส่กระทงหรือถ้วยตะไล โรยมะพร้าว แล้วนึ่งให้สุกยกลงถ้าใส่ถ้วยตะไลรอให้เย็นก่อนแล้วจึงนำออกจากถ้วยจัดใส่ภาชนะ

 ข้าวเหนียวแดง

ส่วนผสม

1.ข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
2.หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลปีบ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วเทออกใส่ถาดเกลี่ยให้กระจายตัว ผึ่งลมให้แห้ง
2.หัวกะทิใส่ในกระทะตั้งไฟเคี่ยวให้เดือดใส่น้ำตาลปีบลงเคี่ยวให้เป็น ยางมะตูม
3.ใส่ข้าวเหนียวที่ผึ่งไว้ลงในกระทะทอง กวนต่อจนข้าวเหนียวเริ่มเกาะตัวเป็นก้อน แล้วล่อนออกจากกระทะยกลง
4.ตัดข้าวเหนียวใส่ถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ตกแต่งให้สวยงาม

กระเช้าสีดา

ส่วนผสม

1.แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
2.ไข่แดง 2 ฟอง
3.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
4.น้าเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
5.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 2 ถ้วยตวง
6.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
7.น้ำดอกไม้ 1 ถ้วยตวง

 วิธีทำ

1.นวดแป้งสาลีกับน้ำมันพืชให้เข้ากันใส่ไข่แดงลงนวดทีละฟองนวดจนแห้งเนียนนิ่มใช้ผ้าขาวบาง ชุบน้ำบิดหมาดๆคลุมพักไว้ประมาณ 10-15 นาที
2.แบ่งแป้งที่ละน้อยกดลงพิมพ์กระเช้าใส่ถาดนำเข้าอบไฟกลางจนแป้งสุกยกลงพักไวให้เย็น
3.ผสมน้ำทรายน้ำลอยดอกไม้ ตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนตาลทรายละลายเหนียวจนเป็ยยางมะตูมใส่มะพร้าวลงคลุกกับน้ำเชื่อมให้ทั่ว กันจนน้ำเชื่อมแห้ง
4.ตักมะพร้าวใส่ลงในกระเช้าจัดให้สวยงามแล้ววางผึ่งลมให้แห้งแล้วจึงจัดใส่ภาชนะ

ขนมต้ม

ส่วนผสม

1.แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
3.แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
4.น้ำ 1/2 ถ้วยตวง
5.มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 1 1/2 ถ้วยตวง
6.น้ำตาลปีบ 1 ถ้วยตวง
7.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
8.มะพร้าวขูดเป็นเส้น 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.ผสมแป้งท้าวยายม่อมแป้งข้าวเหนียวเข้าด้วยกันค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่มปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซ.ม.
2.ผสมน้ำตาลปีบฝอยน้ำเป่า 2 ช้อนโต๊ะ ในกระทะทองตั้งไฟกวนให้เหนียวสำหรับเป็นไส้ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม
3.แผ่แป้งที่ปั้นไว้เป็ยแผ่นแบนวางไส้ลงตรงกลางแล้วหุ้มไส้ให้มิด
4.ใส่น้ำในหม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่ขนมต้มลง เมื่อขนมสุกลอยตัวขึ้นตักขนมใส่น้ำเย็นแล้วสะบัดให้ สะเด็ดน้ำ

ข้าวต้มผัด

ส่วนผสม

1.ข้าวเหนียวแช่น้ำไว้แล้ว 2 ถ้วยตวง
2.หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
4.เกลือป่น 2 ช้อนชา
5.กล้วยน้ำหว้าสุก 8 ลูก
6.ใบตองสำหรับห่อ

วิธีทำ

1.ผสมหัวกะทิ น้ำตาลทรายเกลือลงในกระทะทอง ตั้งไฟอ่อนๆ คนพอน้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อสักครู่
2.ใส่ข้าวเหนียวผัดกับกะทิด้วยไฟอ่อนๆ จนกะทิแห้งยกลงจากเตา
3.ปอกกล้วยผ่าครึ่งตามยาวเตรียมไว้
4.ฉีกใบตองวางซ้อนกันวางข้าวเหนียวใส่กล้วยวางข้าวเหนียวทับอีกครั้งให้มิดกล้วย แล้วห่อให้แน่นนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 45 นาที
5.มะพร้าวผสมเกลือป่นคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วใส่ขนมคลุกลงกับมะพร้าวให้ทั้วจัดใส่จาน

ขนมนางเล็ด

ส่วนผสม

1.ข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
2.น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
3.น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
4.น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ

1.ซาวข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำพักไว้ 1 คืน
2.นึ่งข้าวเหนียวให้สุก แล้วตักข้าวเหนียวลงในพิมพ์กดเบาๆ ให้ข้าวเหนียวเป็นแผ่นบางๆใส่ถาดตากแดดให้แห้งสนิท
3.น้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่ข้าวที่ตากแดดแล้วลงทอดให้พองกรอบ แล้วตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันซับน้ำมันให้แห้งแล้วพักไว้ให้เย็นเก็บใส่ภาชนะไม่ให้ถูกลม
4.เคี่ยวน้ำตาลปึกกับน้ำจนน้ำตาลละลายเคี่ยวให้ข้นจนเป็นยางมะตูม ยกลงจากเตา
5.ตักน้ำที่เคี่ยวไว้หยอดบนแผ่นข้าวที่ทอดไว้เป็นวงให้สวยงาม ผึ่งให้เย็นเก็บใส่ภาชนะปิดฝาไม่ให้ถูกลม

ข้าวตู

ส่วนผสม

1.ข้าวตาก 1 ถ้วยตวง
2.น้ำตาลปึก 1 ถ้วยตวง
3.มะพร้าวทึนทึกขูดละเอียด 1 ถ้วยตวง
4.น้ำลอยดอกไม้

วิธีทำ

1.น้ำข้าวตากมาคั่วให้เหลืองกรอบแล้วนำไปป่นให้ละเอียดร่อน แล้วป่นอีกครั้งให้ละเอียดดี
2.ผสมน้ำตาลกับน้ำตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบางใส่กระทะทองตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาล เหนียว
3.ใส่มะพร้าวขูดลงกวนกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ ยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
4.ใส่ข้าวคั่วที่ป่นละเอียดแล้วลงคลุกกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว
5.เอาขนมอัดใส่พิมพ์ แล้วเคาะออกใส่ขวดโหลหรือภาชนะเก็บไว้

สร้างโดย: 
น.ส.พรรณรินทร์ เนื่องพุกก์ โรงเรียนตากพิทยาคม จังหวัดตาก

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 418 คน กำลังออนไลน์