ระบบสืบพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์ุเพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
1. รังไข่ (ovary) ทำหน้าที่ผลิตไข่และฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งจะกำหนดลักษณะต่างๆในเพศหญิง เช่น ตะโพกผาย เสียงแหลม สำหรับรังไข่จะมี 2 อัน ซึ่งจะอยู่คนละข้างของมดลูกจะมีลักษณะคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยาวประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร หนา 1 เซนติเมตร โดยปกติจะมีการตกไข่ทุกๆ 28 วัน แต่ละครั้งจะตกไข่เพียงใบเดียวสลับข้างกันทุกเดือน ตลอดชีวิตของผ้หญิงจะมีการผลิตไข่ประมาณ 400 ใบ เริ่มเม่ออายุประมาณ 12 ถึง 50 ปี
ฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่
- follicle stimulating Hormone(FSH) ฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง ทำหน้าท่กระต้นให้ไข่สุก
- luteinizing Hormone (LH) เป็นฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง ทำหน้าท่กระต้นให้เกิดการตกไข่
- estrogen เป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากกล่มเซล,ท่ห้มไข่(follicle) ทำหน้าท่ควบคุมเกี่ยวกับมดลูก ช่องคลอด ต่อมน้ำนม และลักษณะอ่นๆ เช่น ตะโพกผาย
- progesterone เป็นฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากคอร์ปัสลูเตียม ทำงานร่วมกับ estrogen ในการควบคุมการเจริญของมดลูก การเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อบุผนังมดลูกเพื่อตรียมรับไข่ท่ผสมแล้วในแต่ละเดือน
2. ท่อนำไข่ (oviduct) เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปีกมดลูก เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างรังไข่ทั้งสองข้างกับมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกและเป็นบริเวณที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ ท่อนำไข่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 6 - 7 เซนติเมตร
3. มดลูก(uterus) มีรูปร่างคล้ายผลชมพู่หัวกลับลง กว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6 - 8 เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ในบริเวณอุ้งกระดูกเชิงกรานระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับทวารหนัก ทำหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว
และเป็นที่เจริญเติบโตของทารกในครรภ์
4. ช่องคลอด (vagina) อยู่ต่อจากมดลูกลงมา ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของทารกเมื่อครบกำหนดคลอด
การตกไข่(Ovulation)
การตกไข่ หมายถึง การที่ไข่สุกและออกจากรังไข่เข้าสู่ท่อนำไข่ โดยปกติรังไข่แต่ละข้างจะสลับกันผลิตไข่ในแต่ละเดือน ดังนั้น
จึงมีการตกไข่เกิดขึ้นเดือนละ 1 ใบ ในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ มดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีผนังหนาขึ้นทั้งมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อไปจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใน 2 กรณีต่อไปนี้
1. ถ้ามีอสุจิเคลื่อนที่เข้ามาในท่อนำไข่ในขณะที่มีการตกไข่ อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ด้านที่ใกล้กับรังไข่ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าสู่มดลูก เพื่อฝังตัวที่ผนังมดลูกและเจริญเติบโตต่อไป
2. ถ้าไม่มีตัวอสุจิเข้ามาในท่อนำไข่ ไข่จะสลายตัวก่อนที่จะผ่านมาถึงมดลูก จากนั้นผนังด้านในของมดลูกและเส้นเลือดที่มา
หล่อเลี้ยง เป็นจำนวนมากก็จะสลายตัว แล้วไหลออกสู่ภายนอกร่างกายทางช่องคลอด เรียกว่า ประจำเดือน โดยปกติผู้หญิงจะเริ่มมี
ประจำเดือนเมื่อายุประมาณ 12 ปี ขึ้นไป รอบของการมีประจำเดือนแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปประมาณ 28 วัน และจะมีทุกเดือนไปจนกระทั่งอายุประมาณ 50 - 55 ปี จึงจะหยุดการมีประจำเดือน โดยจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย
การเกิดประจำเดือน
การมีประจำเดือน หรือรอบเดือน หรือระดู หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ เมนส์ “ หมายถึง การมีเลือดออกจากภายในโพรงมดลูก เพราะมีการสลายตัวของเยื่อบุมดลูก เป็นการเปลี่ยนแปลง ระบบสืบพันธุ์ครั้งสำคัญ เป็นความพร้อมของร่างกายที่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์สามารถที่จะมีบุตรได้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดในเพศหญิง ไม่ใช่ความเจ็บป่วย ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ ไม่ใช่
สิ่งที่น่าละอาย คือเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น รังไข่จะสร้างฮอร์โมนและผลิตไข่ ไข่จะเจริญเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ เรียกว่า ไข่สุก
ไข่จะเจริญและสุกเดือนละ 1 ฟองสลับกันระหว่างรังไข่ข้างซ้ายและรังไข่ข้างขวา ไข่ที่สุกเต็มที่จะเคลื่อนจากรังไข่แล้วถูกพัดพาเข้าไปในท่อนำรังไข่หรือปีกมดลูก เพื่อรอรับการผสมจากตัวอสุจิของเพศชาย ถ้าไข่ที่ผ่านเข้ามาในท่อนำไข่ถูกผสมกับตัวอสุจิก็จะเกิดเป็นเซลล์ชีวิตใหม่ขึ้น ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปฝังตัวในเยื่อบุมดลูก และเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป ในขณะ เดียวกันฮอร์โมนเพศหญิงที่ผลิตจากรังไข่ส่งไปตามร่างกายจะมีเกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูก โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนเยื่อบุมดลูกจะค่อยๆ หนาขึ้น
จนถึงกลางรอบเดือน ( ประมาณวันที่ 14 ) ผนังมดลูกจะหนามากที่สุด มีหลอดโลหิตมาเลี้ยงมากมาย เตรียมพร้อมที่จะรับการเกาะฝังของไข่ที่ได้รับการผสมจากตัวอสุจิ แต่ถ้าไข่ไม่ได้รับการผสม เยื่อบุมดลูกก็จะค่อยๆ หลุดลอก หลอดโลหิตที่บริเวณเยื่อบุมดลูกลอกหลุดและฉีกขาดเกิดเป็นโลหิตไหลออกมาทางปากมดลูกผ่านช่องคลอดออกสู่ภายนอก เรียกว่า ประจำเดือน
ระยะเวลาของการเกิดประจำเดือน
วัยรุ่นหญิงจะเริ่มมีประจำเดือน เมื่ออายุราว13 –15 ปี บางคนอาจจะเริ่มตั้งแต่อายุ10 ปี หรือบางคนอาจช้าไปถึงอายุ 17 ปี ก็ได้ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยประจำเดือนจะไหลออกมาทางช่องคลอดประมาณทุกๆ 28 วัน แต่อาจแตกต่างกันเร็วขึ้นหรือช้าลงได้ในระยะ 7 วัน ประจำเดือนจะไหลออกมาครั้งหนึ่งๆ ราว 100 – 200 ลูกบาศก์เซนติเมตร และการมีประเดือนครั้งหนึ่งๆ อาจใช้เวลา 2 – 7 วัน โดยเฉลี่ยประมาณ 4 วัน แล้วเลือดจะค่อยๆ หายไปเอง ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อเลือดออกแล้ว กล้ามเนื้อมดลูกที่อยู่ล้อมรอบหลอดเลือดเหล่านั้นจะหดตัวพร้อมกันนั้นผนังของหลอดเลือดก็จะหดตัว ทำให้ช่องภายในหลอดเลือดเล็กลงทีละน้อย ขณะเดียวกันเลือดที่ไหลออกมาก็จะเกิดการแข็งตัวเป็นก้อนแข็งเล็กๆ อุดตันปลายหลอดเลือดฝอยนั้นด้วยเลือดจึงหยุดไหล ตามปกติประจำเดือนจะมีติดต่อหมุนเวียนกันไปทุกเดือน จนกระทั่งอายุราว 45 - 50 ปี จึงจะหมดประจำเดือน เรียกว่ากำลังเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน ( เมโมพอส
อลังการ..อย่างแรง!