user warning: Duplicate entry '536306482' for key 'PRIMARY' query: INSERT INTO accesslog (title, path, url, hostname, uid, sid, timer, timestamp) values('บัญชีผู้ใช้', 'user/login', '', '3.141.19.229', 0, 'a38cb3d1baa175d22768f7e772110109', 140, 1720404581) in /home/tgv/htdocs/modules/statistics/statistics.module on line 63.

ระบบสืบพันธุ์

รูปภาพของ anuradee14

ระบบสืบพันธุ์ุเพศหญิง
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง  ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
1.  รังไข่ (ovary)  ทำหน้าที่ผลิตไข่และฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งจะกำหนดลักษณะต่างๆในเพศหญิง เช่น ตะโพกผาย เสียงแหลม สำหรับรังไข่จะมี 2 อัน ซึ่งจะอยู่คนละข้างของมดลูกจะมีลักษณะคล้ายเม็ดมะม่วงหิมพานต์ยาวประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร หนา 1 เซนติเมตร  โดยปกติจะมีการตกไข่ทุกๆ 28 วัน  แต่ละครั้งจะตกไข่เพียงใบเดียวสลับข้างกันทุกเดือน  ตลอดชีวิตของผ้หญิงจะมีการผลิตไข่ประมาณ  400  ใบ  เริ่มเม่ออายุประมาณ 12 ถึง  50 ปี

ฮอร์โมนเพศหญิง  ได้แก่
-  follicle stimulating Hormone(FSH)  ฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง  ทำหน้าท่กระต้นให้ไข่สุก
-  luteinizing  Hormone (LH)  เป็นฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง  ทำหน้าท่กระต้นให้เกิดการตกไข่
-  estrogen  เป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากกล่มเซล,ท่ห้มไข่(follicle)  ทำหน้าท่ควบคุมเกี่ยวกับมดลูก  ช่องคลอด  ต่อมน้ำนม  และลักษณะอ่นๆ เช่น  ตะโพกผาย
-  progesterone  เป็นฮอร์โมนท่สร้างขึ้นจากคอร์ปัสลูเตียม  ทำงานร่วมกับ  estrogen  ในการควบคุมการเจริญของมดลูก  การเปลี่ยนแปลงเนื้อเยื่อบุผนังมดลูกเพื่อตรียมรับไข่ท่ผสมแล้วในแต่ละเดือน

2.  ท่อนำไข่ (oviduct)  เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปีกมดลูก เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างรังไข่ทั้งสองข้างกับมดลูก ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูกและเป็นบริเวณที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ ท่อนำไข่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 6 - 7 เซนติเมตร
3.  มดลูก(uterus)  มีรูปร่างคล้ายผลชมพู่หัวกลับลง กว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6 - 8 เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร อยู่ในบริเวณอุ้งกระดูกเชิงกรานระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับทวารหนัก ทำหน้าที่เป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว
และเป็นที่เจริญเติบโตของทารกในครรภ์
4. ช่องคลอด (vagina) อยู่ต่อจากมดลูกลงมา ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของตัวอสุจิเข้าสู่มดลูกและเป็นทางออกของทารกเมื่อครบกำหนดคลอด

 

  การตกไข่(Ovulation)
การตกไข่  หมายถึง  การที่ไข่สุกและออกจากรังไข่เข้าสู่ท่อนำไข่ โดยปกติรังไข่แต่ละข้างจะสลับกันผลิตไข่ในแต่ละเดือน ดังนั้น
จึงมีการตกไข่เกิดขึ้นเดือนละ 1 ใบ ในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่ มดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยมีผนังหนาขึ้นทั้งมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อไปจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใน 2 กรณีต่อไปนี้
1. ถ้ามีอสุจิเคลื่อนที่เข้ามาในท่อนำไข่ในขณะที่มีการตกไข่ อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่ที่บริเวณท่อนำไข่ด้านที่ใกล้กับรังไข่ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะเคลื่อนตัวเข้าสู่มดลูก เพื่อฝังตัวที่ผนังมดลูกและเจริญเติบโตต่อไป
2. ถ้าไม่มีตัวอสุจิเข้ามาในท่อนำไข่  ไข่จะสลายตัวก่อนที่จะผ่านมาถึงมดลูก จากนั้นผนังด้านในของมดลูกและเส้นเลือดที่มา
หล่อเลี้ยง เป็นจำนวนมากก็จะสลายตัว แล้วไหลออกสู่ภายนอกร่างกายทางช่องคลอด เรียกว่า ประจำเดือน โดยปกติผู้หญิงจะเริ่มมี
ประจำเดือนเมื่อายุประมาณ 12 ปี ขึ้นไป รอบของการมีประจำเดือนแต่ละเดือนจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยทั่วไปประมาณ 28 วัน และจะมีทุกเดือนไปจนกระทั่งอายุประมาณ 50 - 55 ปี จึงจะหยุดการมีประจำเดือน โดยจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของร่างกาย

 

 

 

  การเกิดประจำเดือน

การมีประจำเดือน หรือรอบเดือน หรือระดู หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ เมนส์ “ หมายถึง  การมีเลือดออกจากภายในโพรงมดลูก  เพราะมีการสลายตัวของเยื่อบุมดลูก  เป็นการเปลี่ยนแปลง ระบบสืบพันธุ์ครั้งสำคัญ  เป็นความพร้อมของร่างกายที่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์สามารถที่จะมีบุตรได้  เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดในเพศหญิง  ไม่ใช่ความเจ็บป่วย  ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ  ไม่ใช่
สิ่งที่น่าละอาย   คือเมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น  รังไข่จะสร้างฮอร์โมนและผลิตไข่    ไข่จะเจริญเติบโตขึ้นอย่างเต็มที่  เรียกว่า  ไข่สุก 
ไข่จะเจริญและสุกเดือนละ 1 ฟองสลับกันระหว่างรังไข่ข้างซ้ายและรังไข่ข้างขวา ไข่ที่สุกเต็มที่จะเคลื่อนจากรังไข่แล้วถูกพัดพาเข้าไปในท่อนำรังไข่หรือปีกมดลูก  เพื่อรอรับการผสมจากตัวอสุจิของเพศชาย ถ้าไข่ที่ผ่านเข้ามาในท่อนำไข่ถูกผสมกับตัวอสุจิก็จะเกิดเป็นเซลล์ชีวิตใหม่ขึ้น  ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปฝังตัวในเยื่อบุมดลูก และเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป  ในขณะ  เดียวกันฮอร์โมนเพศหญิงที่ผลิตจากรังไข่ส่งไปตามร่างกายจะมีเกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุมดลูก   โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนเยื่อบุมดลูกจะค่อยๆ หนาขึ้น
จนถึงกลางรอบเดือน  ( ประมาณวันที่ 14 )  ผนังมดลูกจะหนามากที่สุด  มีหลอดโลหิตมาเลี้ยงมากมาย  เตรียมพร้อมที่จะรับการเกาะฝังของไข่ที่ได้รับการผสมจากตัวอสุจิ  แต่ถ้าไข่ไม่ได้รับการผสม  เยื่อบุมดลูกก็จะค่อยๆ หลุดลอก  หลอดโลหิตที่บริเวณเยื่อบุมดลูกลอกหลุดและฉีกขาดเกิดเป็นโลหิตไหลออกมาทางปากมดลูกผ่านช่องคลอดออกสู่ภายนอก  เรียกว่า ประจำเดือน

 
ระยะเวลาของการเกิดประจำเดือน

วัยรุ่นหญิงจะเริ่มมีประจำเดือน  เมื่ออายุราว13 –15 ปี  บางคนอาจจะเริ่มตั้งแต่อายุ10 ปี หรือบางคนอาจช้าไปถึงอายุ 17 ปี ก็ได้   ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ   โดยประจำเดือนจะไหลออกมาทางช่องคลอดประมาณทุกๆ  28  วัน  แต่อาจแตกต่างกันเร็วขึ้นหรือช้าลงได้ในระยะ 7 วัน  ประจำเดือนจะไหลออกมาครั้งหนึ่งๆ  ราว 100 – 200  ลูกบาศก์เซนติเมตร  และการมีประเดือนครั้งหนึ่งๆ  อาจใช้เวลา  2 – 7  วัน   โดยเฉลี่ยประมาณ  4 วัน    แล้วเลือดจะค่อยๆ  หายไปเอง  ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อเลือดออกแล้ว  กล้ามเนื้อมดลูกที่อยู่ล้อมรอบหลอดเลือดเหล่านั้นจะหดตัวพร้อมกันนั้นผนังของหลอดเลือดก็จะหดตัว  ทำให้ช่องภายในหลอดเลือดเล็กลงทีละน้อย  ขณะเดียวกันเลือดที่ไหลออกมาก็จะเกิดการแข็งตัวเป็นก้อนแข็งเล็กๆ  อุดตันปลายหลอดเลือดฝอยนั้นด้วยเลือดจึงหยุดไหล  ตามปกติประจำเดือนจะมีติดต่อหมุนเวียนกันไปทุกเดือน  จนกระทั่งอายุราว 45 - 50 ปี จึงจะหมดประจำเดือน  เรียกว่ากำลังเข้าสู่วัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน ( เมโมพอส

สร้างโดย: 
นางอารีย์ จันทร
รูปภาพของ tuktik3016

อลังการ..อย่างแรง!

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 448 คน กำลังออนไลน์