• user warning: Duplicate entry '536306482' for key 'PRIMARY' query: INSERT INTO accesslog (title, path, url, hostname, uid, sid, timer, timestamp) values('บัญชีผู้ใช้', 'user/login', '', '3.137.143.219', 0, 'e8b09f6dbd19339062fd1642c30640ad', 157, 1716138081) in /home/tgv/htdocs/modules/statistics/statistics.module on line 63.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:1fc7b0856dd129ebd3e9c62c21dc9701' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"text-align: center;\">&nbsp;&nbsp;<img src=\"/files/u100184/FFFFFF.jpg\" alt=\"\" width=\"513\" height=\"192\" />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(255, 0, 255);\"> </span></p>\n<p><span style=\"color: rgb(255, 0, 255);\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; สวัสดีค่ะ blog นี้ดิฉันทำเป็นครั้งแรก สำหรับ blog นี้เป็นความรู้เกี่ยวกับเฟิร์นในโรงเรียนผดุงนารีค่ะ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ&nbsp; ต้นเฟิร์นในโรงเรียนของเราอยู่บริเวณหน้าห้องนวัฒกรรมค่ะ(มีอยู่ที่เดียว)&nbsp;&nbsp;&nbsp; มารู้จักกับเฟิร์นกันเลยค่ะ<img title=\"Kiss\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-kiss.gif\" alt=\"Kiss\" border=\"0\" /><img title=\"Embarassed\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-embarassed.gif\" alt=\"Embarassed\" border=\"0\" /></span></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%285%29.jpg\" alt=\"\" width=\"325\" height=\"104\" /></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\"> \"เนื้อหาในหน้านี้นำมาจากหนังสือเฟินของ ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม ซึ่งผู้จัดทำได้เรียบเรียงขึ้นคร่าว ๆ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น\"</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">\"เฟิน\" หรือชาวบ้านเรียกว่า \"ผักกูด\" เกิดขึ้นในโลกใบนี้มาหลายร้อยล้านปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่โลกของเราเริ่มมีสิ่งมีชีวิตชื้นแฉะไปด้วยน้ำ และหนองบึง</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;จากยุคนั้นจนถึงปัจจุบัน เฟินบางชนิดก็ได้สูญพันธุ์ หรือกลายพันธุ์ไปตามกาลเวลา ที่เหลืออยู่ และที่สำรวจพบมีเป็นหมื่น ๆ ชนิด และก็มีไม่น้อยที่ยังอยู่ในป่าเขาที่เร้นลับ</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;ยังสำรวจไม่พบมีอีกมากมายเช่นกัน ในเมื่อเฟินมีมากมายเช่นนี้จึงมีการแบ่งเฟินออกได้หลายลักษณะ อาจแบ่งตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;กลุ่มของเฟินดิน เฟินอากาศ เฟินน้ำ เป็นต้น แบ่งตามสภาพภูมิอากาศ หรือแบ่งตามวงศ์ (Family) ซึ่งดูจะเป็นสากลมากที่สุด</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">เฟินเป็นพืชที่ไม่มีดอก ไม่มีผล ไม่มีเมล็ดสำหรับแพร่พันธุ์ แต่เฟินมีสปอร์ ซึ่งเกิดที่ใต้ใบ เป็นสิ่งที่ใช่ในการสืบพันธุ์ ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องของวงจรชีวิตเฟิน</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;ลักษณะที่พิเศษของเฟินคือการเกิดสปอร์สำหรับสืบพันธุ์ที่ใต้ใบแล้ว ยอดอ่อนของเฟินจะขดเป็นลักษณะ\"รูปก้นหอย\" (หอยโข่งนะครับ ไม่ใช่หอยแครง) </span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">จากนั้นก็จะค่อย ๆ คลี่ก้าน และใบออกมา ประโยชน์ของเฟินนอกจากเป็นปลูกไม้ประดับแล้ว ยอดอ่อนของเฟินบางชนิดเช่น กูดห้วย ยังสามารถนำมาเป็นอาหารได้ด้วย</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;บางประเทศทำยอดอ่อนของเฟินมาทำเป็นอาหารว่าง นอกจากนั้นยังนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้อีก เช่น กูดใบเล็กใช้เป็นยาห้ามเลือด</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;หรือเหง้าแก่ของเฟินนาคราชใช้เป็นยาแก้พิษงู แมลงกัดต่อยได้ และยังทำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษได้ด้วย (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่) </span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">ในภาคใต้ชาวบ้านนำเถาของเฟินย่านลิเภามาทำเป็นเครื่องจัดสานได้หลายอย่าง</span><img title=\"Laughing\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-laughing.gif\" alt=\"Laughing\" border=\"0\" /><img title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/Fern.jpg\" alt=\"\" width=\"400\" height=\"300\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา: <a href=\"http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/Fernnaakkharaat.jpg\" title=\"http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/Fernnaakkharaat.jpg\">http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_rela...</a></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%281%29.jpg\" alt=\"\" width=\"424\" height=\"54\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/qrfree.kaywa_.com_.png\" alt=\"\" width=\"217\" height=\"217\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><span style=\"background-color: rgb(0, 255, 255);\"><img src=\"/files/u100184/cccc.jpg\" alt=\"\" width=\"514\" height=\"215\" /></span></p>\n<p style=\"text-align: left;\"><span style=\"background-color: rgb(0, 255, 255);\">การดูแลรักษา</span><br />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(0, 204, 255);\"> การปลูกเฟินนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่าเฟินที่จะปลูกเป็น เฟินดิน เฟินอิงอาศัย เพราะถ้าปลูกผิดประเภทแล้วจะทำให้เฟินไม่เจริญเติบโต และตายในที่สุด</span><br /><br /><span style=\"color: rgb(0, 204, 255);\">การปลูกเฟินประเภทเฟินดิน การปลูกเฟินประเภทนี้เครื่องปลูกก็ใช้ดินธรรมดาที่ขายกันอยูทั่วไปนั่นแหละ ครับ สะดวก หาซื้อง่าย แต่ต้องดูยี่ห้อที่มีใบไม้ผุผสมมากสักหน่อยจึงจะดี เช่น ผสมใบก้ามปู ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้ดินเย็น ผู้ปลูกเฟินบ้างคนแนะนำว่าพยายามหลีกเลี่ยงดินที่มีปุ๋ยคอกผสมมากเกินๆไป เพราะจะทำให้ดินปลูกร้อน ถ้าดินที่ซื้อมาปลูกไม่ได้ดังใจก็ผสมเองก็ได้ครับ หาใบไม้ผุเพิ่มเต็มเข้าไป แค่นี้ก็น่าจะปลูกได้แล้ว ข้อสำคัญดินปลูกจะต้องระบายน้ำดี</span><br /><br /><span style=\"color: rgb(0, 204, 255);\">การปลูกเฟินประเภทเฟินอิงอาศัย การปลูกเฟินทำได้หลายอย่าง ถ้าปลูกใส่กระถางแขวนเครื่องปลูกก็ควรเป็นอิฐมอญทุบก้อนเล็ก ๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม. หรือถ้าขี้เกียจทุบก็หาซื้อเอาตามร้านขายอุปกรณ์ปลูกต้นไม้ทั่วไป ผสมกับกาบมะพร้าวสับเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซ.ม. หรือใช้รากของชายผ้าสีดาสับก็ได้</span><br /><br /><span style=\"color: rgb(0, 204, 255);\">การปลูกเฟินประเภทอิงอาศัยถ้าจะให้สวยงามเป็นธรรมชาตินั้น ต้องให้เกาะกับต้นไม้ หรือตอไม้ แล้วใช้มอสแปะไว้ซักหน่อยเพื่อให้ดูชุ่มชื้น โดนใช้เชือกมัดไว้ก่อน เมื่อรากเกาะแล้วก็แกะเชือกออก ตัวอย่างเฟินที่ใช้เกาะกับต้นไม้ หรือตอไม้ได้สวยงามก็คือ พวกเฟินชายผ้าสีดาต่าง ๆ กระแตไต่ไม้ เป็นต้น</span><br /><br /><span style=\"color: rgb(0, 204, 255);\">การรดน้ำเฟินนั้นควรทำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง รดน้ำให้เป็นฝอยดินปลูกจะได้ไม่กระจาย และเพื่อเพิ่มความชื้นในบรรยากาศด้วย สถานที่ปลูกเฟินนั้นไม่ควรให้ได้รับแสงแดดจัดเกินไป ให้อยู่ในที่ร่มรำไรดีที่สุด ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ตาข่ายพรางแสงแบบ 60-80%</span><img title=\"Undecided\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-undecided.gif\" alt=\"Undecided\" border=\"0\" /><img title=\"Wink\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-wink.gif\" alt=\"Wink\" border=\"0\" />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/Fern2.jpg\" alt=\"\" width=\"391\" height=\"294\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา:http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/Bluulairiw.jpg</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%282%29.jpg\" alt=\"\" width=\"493\" height=\"72\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/rrr.jpg\" alt=\"\" width=\"600\" height=\"258\" /></p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;<span style=\"background-color: rgb(0, 255, 255);\">การขยายพันธุ์</span> &nbsp;&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(255, 153, 204);\"> การขยายพันธุ์เฟินทำได้หลาย วิธี คือ การเพาะสปอร์ การแยกเหง้า และการชำตา ในที่นี้จะบอกถึงวิธีการขยายพันธุ์ทั้ง 3 ประเภทที่ผู้ปลูกสมัครเล่นอย่างผู้จัดทำ หรือหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจปลูกเฟินเพื่อความเพลิดเลินสามารถทำได้โดยไม่ ต้องอาศัยวิชาการการอย่างในแปลงทดลองหรือการปลูกเพื่อการค้า</span><br /><span style=\"color: rgb(255, 153, 204);\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; การขยายพันธุ์โดยการเพาะสปอร์ในที่นี้จะไม่พูดถึงการ เพาะในแปลงทดลองหรือ การทำเพื่อการค้า แต่จะพูดถึงวิธีที่ผู้ปลูกสมัครเล่นเพื่อความเพลิดเพลินสามารถที่จะทำได้ ซึ่งอาจจะประสบความสำเร็จ หรือไม่สำเร็จบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ปัจจัยแวดล้อม วิธีการก็มีดังนี้ครับ ขั้นแรกเก็บสปอร์เสียก่อน ต้องดูจากใบเฟินที่แก่ และแห้ง สปอร์จะมีสีน้ำตาลแก่ ตัดใบเฟินเก็บไว้ในซองจดหมาย หรือถุงใส่แกงก็ได้ เพื่อกันไม่ให้สปอร์ปลิวไปตามลม อับปอร์จะแตกตัวภายใน 1-2 วัน แต่ถ้าไม่อยากรอก็ใช้มีดขูดออกได้เลย หรือใช้ถุงแกงครอบไว้กับใบเลยก็ได้แล้วก็รอจนกว่าสปอร์จะแตกตัวออกหมด ในการทำเพื่อการค้าจะต้องนำสปอร์ไปฆ่าเชื้อด้วยวิธีการต่าง ๆ ส่วนมือสมัครเล่นอย่างเรา ๆ จะทำหรือไม่ก็แล้วแต่สะดวก การหว่านสปอร์จะหว่านในรูปของสปอร์แห้ง หรือนำสปอร์ใส่น้ำแล้วฉีดพ่นใส่เครื่องปลูกก็ได้ วัสดุที่ใช้เพาะสปอร์ ใช้ดินเหนียวตามสวน หรือรากชายผ้าสีดาสับละเอียดก็ได้ แต่ใช้ดินเหนียวดีที่สุดครับ และควรฆ่าเชื้อเสียก่อนโดยการนำไปคั่วในกะทะ หรือใช้เตาอบในครัวบ้านเราก็ได้ เมื่อได้วัสดุเพาะสปอร์แล้วก็หว่านสปอร์ลงไป หลังจากทำการเพาะสปอร์แล้ว ประมาณ 1 เดือนจะเกิดโปรแธลเลียมเป็นแผ่นบาง ๆ สีเขียวคล้ายรูปหัวใจ จากนั้นแยกโปรแธลเลียมลงกระถางเพาะชำ แล้วนำกระจกปิดปากกระถาง หรือใช้ถุงพลาสติกห่อหุ้มไว้ และต้องให้ความชื้นสม่ำเสมอ จากนั้นก็อดทนรอ ๆ ๆ ๆ ๆ เมื่อเฟินเกิดใบจริงแล้วควรเปิดปากถุงไว้เล็กน้อย เพื่อให้เฟินคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายนอก เมื่อดูว่าโตพอประมาณแล้วก็แยกไปปลูกในกระถางอื่นต่อไป</span><img title=\"Smile\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-smile.gif\" alt=\"Smile\" border=\"0\" /><img title=\"Surprised\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-surprised.gif\" alt=\"Surprised\" border=\"0\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/Fern3.jpg\" alt=\"\" width=\"250\" height=\"187\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา:http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/khaawjaabaa.jpg</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images.jpg\" alt=\"\" width=\"527\" height=\"40\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><span style=\"background-color: rgb(0, 255, 255);\"><img src=\"/files/u100184/ttt.jpg\" alt=\"\" width=\"498\" height=\"214\" /></span></p>\n<p style=\"text-align: left;\"><span style=\"background-color: rgb(0, 255, 255);\">รวบรวมเคล็ดลับในการปลูกเฟิน</span><br /><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">- การปลูกเฟินชายผ้าสีดาเขากวางตั้ง ป้าคนขายเฟินที่ JJ บอกว่าให้กล้วยน้ำว้าสุกเจ้าเฟินชนิดนี้สัปดาห์ละหนึ่งลูกเค้าบอกว่าเจ้า เฟินชนิดนี้ชอบกินครับ วิธีให้ก็คือใส่กล้วยไปด้านบนที่พอจะมีช่องให้เข้าได้ ผมมาคิดดูแล้วว่าการให้กล้วยน้ำว้าเป็นการเรียกมด(มดดำ) ให้เข้ามาอาศัยอยู่ในเฟินชนิดนี้ ซึ่งตามธรรมชาติของเฟินชนิดนี้ต้องพึ่งพาอาศัยมดในการหาอาหารเสริมอยู่แล้ว วิธีที่กล่าวข้างต้นก็คือการเลียนแบบธรรมชาตินั่นเอง ผมเองก็ว่าจะลองวิธีที่ป้าคนขายแกบอกไว้เหมือนกัน แล้วคงต้องปลูกกล้วยน้ำว้าไว้ซักต้นนึงแล้วแต่ถ้าไม่ได้ผลก็อย่ามาว่ากันนะ ครับ<img title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" /><img title=\"Smile\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-smile.gif\" alt=\"Smile\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">เรื่องแสงของเฟินเข้ากวางตั้งนั้นถื่อว่าเป็น เรื่องที่สำคัญ เพราะผู้ปลูกเลี้ยงส่วนใหญ่ คิดว่าเฟินชนิดนี้เป็นเป็นที่ธรรมชาติอยู่ในป่าดงดิบชื้นทางภาคใต้ เลยเข้าใจกันว่าจะต้องไว้ในที่ร่ม ผมปรากฎว่าเน่าสนิทเลยครับ ต้องบอกให้เข้าใจเลยครับว่าเฟินชนิดนี้ชอบแสงค่อนข้างมาก ถ้าปลูกในที่แสงมากๆ จะได้ใบกาบ และเขาที่แข็งแรง<img title=\"Innocent\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-innocent.gif\" alt=\"Innocent\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">- การปลูกเฟินแววแมลงทับ อันนี้ผมทดลองมาแล้วได้ผลครับ เครื่องปลูกของเฟินชนิดนี้ใช้ดินปลูกธรรมดาที่ขายกันอยูทั่วไปนี่แหละครับ เลือกเอาที่ใบก้ามปูมาก ๆ หน่อย จากนั้นใช้อิฐมอญทุบให้ค่อนข้างละเอียดแล้วผสมคลุกเคล้ากันในอัตราส่วน 1:1 แล้วก่อนนำเฟินปลูกลงไป ระวังอย่าให้เหง้าจมดิน ใช้ลวดยึดเหง้าไว้ให้ดีกันโยกเยก เมื่อเห็นว่ารากเดินดีแล้วก็เอาลวดที่ยึดออกซะ<img title=\"Wink\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-wink.gif\" alt=\"Wink\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">- การปลูกเฟินพวกหัสดำ,หัสแดง หรือพวกทรีเฟินต่าง ๆ คนขายที่ JJ บอกไว้อย่างนี้ครับ ถ้าได้เฟินที่ต้นค่อนข้างสูง แล้วคนขายตัดใบทิ้งหมด หลังจากปลูกลงดินแล้วให้ใช้กระสอบ หรือผ้าหนา ๆ พันให้รอบต้นเพื่อรักษาความชื้นไว้ รดน้ำตามปกติ....ผมลองทำแล้วได้ผลครับ<img title=\"Foot in Mouth\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-foot-in-mouth.gif\" alt=\"Foot in Mouth\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">- เคล็ดลับของการปลูกเฟินในสกุล Lycopodium การปลูกเฟินในสกุลนี้ส่วนใหญ่เราจะใช้เครื่องปลูกเป็นรากชายผ้าสีดาซะเป็น ส่วนใหญ่ แต่ในสภาวะที่ขาดแคลนเครื่องปลูกชนิดนี้ ผมลองเปลี่ยนมาใช้กาบมะพร้าวสับ ปรากฎว่าได้ผลนะครับ ผมว่าจะได้ผลดีกว่ารากชายผ้าสีดาซะอีกนะครับ ลองดูนะครับ สำหรับผมแล้วคงไม่เปลี่ยนใจไปใช้รากชายผ้าสีดาอีกแล้วครับ<img title=\"Sealed\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-sealed.gif\" alt=\"Sealed\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">- การปลูกกูดตั่ง อุ้งตีนหมี กูดอ้ายหมี หลายคนเข้าใจเอาเองว่าเฟินชนิดนี้อยู่ตามดอยในภาคเหนือ พอได้มาปลูกก็คิดว่าต้องอยู่ในร่ม (อีกแล้ว) ต้นที่มีใบอยู่แล้วพอไว้ในร่มใบก็เริ่มตก แล้วเหง้าก็เน่าไปในที่สุด ส่วนต้นที่ไม่มีใบถ้าปลูกในร่มก็ใบก็อาจไม่งอก หรือถ้างอกออกก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ อยู่ไม่นานก็อาจกลับดอยบ้านเก่า เฟินชนิดนี้ชอบอยู่ที่แสงมากๆ นะครับ คือไม่กลัวแดดซักเท่าไหร่ สังเกตดูง่ายๆ ครับ ถ้าใบอ่อนออกมาเป็นสีส้มจัดแสดงว่าตรงที่ปลูกเฟินชนิดนี้สภาพแสงเหมาะสมแล้ว ครับ เรื่องการดินปลูกก็ไม่ค่อยมีปัญหาครับ ใช้ดินปลูกที่ขายกันอยู่ทั่วไปได้เลย<img title=\"Tongue Out\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-tongue-out.gif\" alt=\"Tongue Out\" border=\"0\" /></span><br /><br /><span style=\"color: rgb(153, 204, 0);\">-การปลูกเฟิน Madagascariense เฟินชนิดนี้ผู้ปลูกเลี้ยงค่อนข้างกลัวกันมากว่าจะเลี้ยงไม่รอด เพราะบางคนบอกว่าเลี้ยงเหมือนกับเฟินชายผ้าสีดาเขากวางตั้ง ประเภทที่ว่าโดนแดดกันเต็มๆ ขอให้หลีกเลี่ยงเลยนะครับ ผมลองมาแล้วเรียบร้อยโรงเรียนมาดากัสการ์ไปเลย เฟินชนิดนี้จากการที่ผมได้ปลูกเลี้ยงมาแล้วต้องอยู่ในที่รำไรครับ เครื่องปลูกที่ผมทดลองใช้เป็นกาบมะพร้าวที่สับค่อนข้างละเอียด หรือเป็นขุยมะพร้าวก็ได้ จากที่ทดลองใช้เครื่องปลูกแบบนี้มา 2 ปี ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ ที่มีบางคนบอกว่าใช้ดินผสมขุยมะพร้าวและแกลบสด ผมก็เคยทดลองมาแล้วครับ ปรากฏว่าอาการรากเน่ามาเยือน และ กำเริบมากขึ้นเรื่อย ในที่สุดก็กลับบ้านเก่า<img title=\"Money Mouth\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-money-mouth.gif\" alt=\"Money Mouth\" border=\"0\" /></span></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%284%29.jpg\" alt=\"\" width=\"482\" height=\"159\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><iframe src=\"http://www.youtube.com/embed/Q0GCAGp3W4U\" width=\"425\" frameborder=\"0\" height=\"350\"></iframe></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา: <a href=\"http://youtu.be/Q0GCAGp3W4U\" title=\"http://youtu.be/Q0GCAGp3W4U\">http://youtu.be/Q0GCAGp3W4U</a></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%283%29_0.jpg\" alt=\"\" width=\"527\" height=\"41\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><iframe src=\"http://www.youtube.com/embed/o2LcGgFAUsM\" width=\"425\" frameborder=\"0\" height=\"350\"></iframe></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา : <a href=\"http://youtu.be/o2LcGgFAUsM\" title=\"http://youtu.be/o2LcGgFAUsM\">http://youtu.be/o2LcGgFAUsM</a></p>\n<p style=\"text-align: center;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/dddd.jpg\" alt=\"\" width=\"415\" height=\"177\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">จัดทำโดย</p>\n<p style=\"text-align: center;\">นางสาวณัฐสุดา&nbsp; สุปัญญา&nbsp; ม.413&nbsp;&nbsp; เลขที่ 1</p>\n<p style=\"text-align: center;\">เพิ่มเติม</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/GGGG.png\" alt=\"\" width=\"254\" height=\"254\" /></p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: left;\">&nbsp;</p>\n', created = 1716138101, expire = 1716224501, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:1fc7b0856dd129ebd3e9c62c21dc9701' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:302dc1a7cf1a994f4aa6b7e881d12ef3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p style=\"text-align: center;\">&nbsp;&nbsp;<img src=\"/files/u100184/FFFFFF.jpg\" alt=\"\" width=\"513\" height=\"192\" />&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(255, 0, 255);\"> </span></p>\n<p><span style=\"color: rgb(255, 0, 255);\">&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; สวัสดีค่ะ blog นี้ดิฉันทำเป็นครั้งแรก สำหรับ blog นี้เป็นความรู้เกี่ยวกับเฟิร์นในโรงเรียนผดุงนารีค่ะ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ&nbsp; ต้นเฟิร์นในโรงเรียนของเราอยู่บริเวณหน้าห้องนวัฒกรรมค่ะ(มีอยู่ที่เดียว)&nbsp;&nbsp;&nbsp; มารู้จักกับเฟิร์นกันเลยค่ะ<img title=\"Kiss\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-kiss.gif\" alt=\"Kiss\" border=\"0\" /><img title=\"Embarassed\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-embarassed.gif\" alt=\"Embarassed\" border=\"0\" /></span></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%285%29.jpg\" alt=\"\" width=\"325\" height=\"104\" /></p>\n<p>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\"> \"เนื้อหาในหน้านี้นำมาจากหนังสือเฟินของ ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม ซึ่งผู้จัดทำได้เรียบเรียงขึ้นคร่าว ๆ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น\"</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">\"เฟิน\" หรือชาวบ้านเรียกว่า \"ผักกูด\" เกิดขึ้นในโลกใบนี้มาหลายร้อยล้านปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่โลกของเราเริ่มมีสิ่งมีชีวิตชื้นแฉะไปด้วยน้ำ และหนองบึง</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;จากยุคนั้นจนถึงปัจจุบัน เฟินบางชนิดก็ได้สูญพันธุ์ หรือกลายพันธุ์ไปตามกาลเวลา ที่เหลืออยู่ และที่สำรวจพบมีเป็นหมื่น ๆ ชนิด และก็มีไม่น้อยที่ยังอยู่ในป่าเขาที่เร้นลับ</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;ยังสำรวจไม่พบมีอีกมากมายเช่นกัน ในเมื่อเฟินมีมากมายเช่นนี้จึงมีการแบ่งเฟินออกได้หลายลักษณะ อาจแบ่งตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;กลุ่มของเฟินดิน เฟินอากาศ เฟินน้ำ เป็นต้น แบ่งตามสภาพภูมิอากาศ หรือแบ่งตามวงศ์ (Family) ซึ่งดูจะเป็นสากลมากที่สุด</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">เฟินเป็นพืชที่ไม่มีดอก ไม่มีผล ไม่มีเมล็ดสำหรับแพร่พันธุ์ แต่เฟินมีสปอร์ ซึ่งเกิดที่ใต้ใบ เป็นสิ่งที่ใช่ในการสืบพันธุ์ ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องของวงจรชีวิตเฟิน</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;ลักษณะที่พิเศษของเฟินคือการเกิดสปอร์สำหรับสืบพันธุ์ที่ใต้ใบแล้ว ยอดอ่อนของเฟินจะขดเป็นลักษณะ\"รูปก้นหอย\" (หอยโข่งนะครับ ไม่ใช่หอยแครง) </span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">จากนั้นก็จะค่อย ๆ คลี่ก้าน และใบออกมา ประโยชน์ของเฟินนอกจากเป็นปลูกไม้ประดับแล้ว ยอดอ่อนของเฟินบางชนิดเช่น กูดห้วย ยังสามารถนำมาเป็นอาหารได้ด้วย</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;บางประเทศทำยอดอ่อนของเฟินมาทำเป็นอาหารว่าง นอกจากนั้นยังนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้อีก เช่น กูดใบเล็กใช้เป็นยาห้ามเลือด</span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">&nbsp;หรือเหง้าแก่ของเฟินนาคราชใช้เป็นยาแก้พิษงู แมลงกัดต่อยได้ และยังทำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษได้ด้วย (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่) </span><br /><span style=\"color: rgb(204, 153, 255);\">ในภาคใต้ชาวบ้านนำเถาของเฟินย่านลิเภามาทำเป็นเครื่องจัดสานได้หลายอย่าง</span><img title=\"Laughing\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-laughing.gif\" alt=\"Laughing\" border=\"0\" /><img title=\"Cool\" src=\"/sites/all/libraries/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/img/smiley-cool.gif\" alt=\"Cool\" border=\"0\" /></p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/Fern.jpg\" alt=\"\" width=\"400\" height=\"300\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">ที่มา: <a href=\"http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/Fernnaakkharaat.jpg\" title=\"http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_relax2_ferns/Fernnaakkharaat.jpg\">http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_rela...</a></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/images%20%281%29.jpg\" alt=\"\" width=\"424\" height=\"54\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\"><img src=\"/files/u100184/qrfree.kaywa_.com_.png\" alt=\"\" width=\"217\" height=\"217\" /></p>\n<p style=\"text-align: center;\">\n</p>', created = 1716138101, expire = 1716224501, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:302dc1a7cf1a994f4aa6b7e881d12ef3' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:38e7fcda1802442455a6d1079100912c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>สวยอ่ะ เนื้อหาดีน่ะ ^^</p>\n', created = 1716138101, expire = 1716224501, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:38e7fcda1802442455a6d1079100912c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

เฟิร์น @ ผดุงนารี

รูปภาพของ pdn32267

            

             สวัสดีค่ะ blog นี้ดิฉันทำเป็นครั้งแรก สำหรับ blog นี้เป็นความรู้เกี่ยวกับเฟิร์นในโรงเรียนผดุงนารีค่ะ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ  ต้นเฟิร์นในโรงเรียนของเราอยู่บริเวณหน้าห้องนวัฒกรรมค่ะ(มีอยู่ที่เดียว)    มารู้จักกับเฟิร์นกันเลยค่ะKissEmbarassed

 

            "เนื้อหาในหน้านี้นำมาจากหนังสือเฟินของ ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม ซึ่งผู้จัดทำได้เรียบเรียงขึ้นคร่าว ๆ เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น"
"เฟิน" หรือชาวบ้านเรียกว่า "ผักกูด" เกิดขึ้นในโลกใบนี้มาหลายร้อยล้านปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่โลกของเราเริ่มมีสิ่งมีชีวิตชื้นแฉะไปด้วยน้ำ และหนองบึง
 จากยุคนั้นจนถึงปัจจุบัน เฟินบางชนิดก็ได้สูญพันธุ์ หรือกลายพันธุ์ไปตามกาลเวลา ที่เหลืออยู่ และที่สำรวจพบมีเป็นหมื่น ๆ ชนิด และก็มีไม่น้อยที่ยังอยู่ในป่าเขาที่เร้นลับ
 ยังสำรวจไม่พบมีอีกมากมายเช่นกัน ในเมื่อเฟินมีมากมายเช่นนี้จึงมีการแบ่งเฟินออกได้หลายลักษณะ อาจแบ่งตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น
 กลุ่มของเฟินดิน เฟินอากาศ เฟินน้ำ เป็นต้น แบ่งตามสภาพภูมิอากาศ หรือแบ่งตามวงศ์ (Family) ซึ่งดูจะเป็นสากลมากที่สุด
เฟินเป็นพืชที่ไม่มีดอก ไม่มีผล ไม่มีเมล็ดสำหรับแพร่พันธุ์ แต่เฟินมีสปอร์ ซึ่งเกิดที่ใต้ใบ เป็นสิ่งที่ใช่ในการสืบพันธุ์ ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องของวงจรชีวิตเฟิน
 ลักษณะที่พิเศษของเฟินคือการเกิดสปอร์สำหรับสืบพันธุ์ที่ใต้ใบแล้ว ยอดอ่อนของเฟินจะขดเป็นลักษณะ"รูปก้นหอย" (หอยโข่งนะครับ ไม่ใช่หอยแครง)
จากนั้นก็จะค่อย ๆ คลี่ก้าน และใบออกมา ประโยชน์ของเฟินนอกจากเป็นปลูกไม้ประดับแล้ว ยอดอ่อนของเฟินบางชนิดเช่น กูดห้วย ยังสามารถนำมาเป็นอาหารได้ด้วย
 บางประเทศทำยอดอ่อนของเฟินมาทำเป็นอาหารว่าง นอกจากนั้นยังนำมาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้อีก เช่น กูดใบเล็กใช้เป็นยาห้ามเลือด
 หรือเหง้าแก่ของเฟินนาคราชใช้เป็นยาแก้พิษงู แมลงกัดต่อยได้ และยังทำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษได้ด้วย (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)
ในภาคใต้ชาวบ้านนำเถาของเฟินย่านลิเภามาทำเป็นเครื่องจัดสานได้หลายอย่างLaughingCool

 

ที่มา: http://2519me.com/Me-myself/Today_Me/todayme%20profiles/Me_relax/Me_rela...

รูปภาพของ ssspoonsak

เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทำการคัดลอกมาแล้วไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล

กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนด้วย ดูรูปแบบการทำเอกสารอ้างอิงได้ที่

http://www.thaigoodview.com/node/99177 

มิฉะนั้นทางเว็บ thaigoodview.com จำเป็นต้องลบข้อมูลทั้งหมดออก

อ่านรายละเอียด http://www.thaigoodview.com/node/159116

ขอขอบคุณ

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล

ผู้ดูแลเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิว

 


ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่าคัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

รูปภาพของ ssspoonsak

รูปภาพของ pdn32277

สวยอ่ะ เนื้อหาดีน่ะ ^^

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 300 คน กำลังออนไลน์