• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:d76e6ffee03f61578576a39f49e56266' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><div style=\"text-align: center\" align=\"left\">\n<img src=\"http://upic.me/i/yj/r0n06.jpg\" height=\"550\" width=\"400\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\" align=\"left\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<ul>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ชื่อสามัญ</span>                <span style=\"color: #ff9900\"> <i>Bird’s nest fern</i></span></li>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ชื่อวิทยาศาสตร์</span>        <span style=\"color: #ff9900\"><i>Asplenium nidus</i></span></li>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ตระกูล  </span>                   <span style=\"color: #ff9900\">POLYPODIACEAE</span></li>\n<li></li>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ลักษณะทั่วไป</span></li>\n<li><span style=\"color: #3366ff\"><br />\n </span></li>\n<li></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">          เฟิร์นชนิดนี้ ฝรั่งเรียกว่า “Bird’s nest fern” ชอบ อาศัยอยู่ตามคาคบไม้ใหญ่ในเขตอบอุ่นที่มีความชื้นสูง ถือว่าเป็นลักษณะของกาฝาก ใบของเฟิร์นข้าหลวง จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ก้านใบจะมีสีน้ำตาลเข้ม การเรียงตัวของใบจะเรียงตัวแบบเกลียวคล้ายดอกกุหลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหักได้ง่ายแต่พอเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความ เหนียวและหนามาก เมื่อนำมาปลูกภายในอาคารบ้านเรือนจะต้องคอยทำความสะอาดเช็ดถูสิ่งสกปรกและ ฝุ่นละอองออกจากใบบ้าง เดือนละครั้งก็ยังดี เฟิร์นข้าหลวงเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดสเปรย์ให้ใบ ของมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพราะการฉีดละอองน้ำจะทำให้ใบของมันสดชื่น อยู่ตลอด</span></li>\n</ul>\n<p>\n<img src=\"http://g1.s1sf.com/4/12/jpg/115/2310971.jpg\" height=\"375\" width=\"500\" />\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff\">รูป เฟิร์นข้าหลวง </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #ff00ff\">Credit : <a href=\"http://album.sanook.com/albums/843886609\" title=\"http://album.sanook.com/albums/843886609\">http://album.sanook.com/albums/843886609</a> </span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<ul>\n<li></li>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ถิ่นกำเนิด</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">          เกิดอยู่ทั่วไปในแถบที่มีอากาศร้อน และอบอุ่น เช่น เอเซีย ออสเตรเลีย</span></li>\n</ul>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ประโยชน์</span></li>\n</ul>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">          ประโยชน์ของเฟิร์นข้าหลวงนั้น ใช้ประดับตกแต่งเพราะเป็นไม้ประดับ</span></li>\n</ul>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ฤดูกาลใช้ประโยชน์</span></li>\n</ul>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">          เป็นไม้ประดับได้ทุกฤดูกาล</span></li>\n</ul>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">ศักยภาพการใช้งาน</span></li>\n</ul>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">          มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทนทาน</span></li>\n</ul>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<ul>\n<li><span style=\"color: #3366ff\">การดูแลรักษา</span></li>\n<li></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff6600\"><span style=\"color: #ff0000\">แสง</span>     </span>                ชอบอยู่ในร่มและแดดส่องถึงได้บ้างเล็กน้อย</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">อุณหภูมิ  </span>              ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">ความชื้น   </span>             ต้องการความชื้นสูง</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">น้ำ       </span>                ในระยะแรกของการเจริญเติบโตต้องให้น้ำอย่างเต็มที่ และลดปริมาณลงในฤดูหนาวปกติก็ควรจะให้ 2 วันต่อครั้ง</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">ดินปลูก      </span>           ดินร่วน 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ทรายละเอียด 1 ส่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน <br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">                         (ควรใช้ปุ๋ยเก่าๆ ค้างปี เศษอิฐหัก 1 ส่วน ปูนขาว 1/2 ส่วน)</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">ปุ๋ย  </span>                     ควรละลายปุ๋ยผสมน้ำรดเดือนละครั้ง ถ้าต้องการเร่งการเจริญเติบโตในช่วงแรกก็ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ <br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">                           เช่น 16 - 16 - 16 ละลายน้ำรดเดือนละ 2 ครั้ง</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">กระถาง  </span>                ควรกระถางปากกว้าง แต่ไม่จำเป็นต้องลึกนัก</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">การขยายพันธุ์   </span>        แยกกอ เพาะโดยใช้สปอร์ (spore)</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">โรคและแมลง  </span>         มด เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ส่วนโรคไม่ค่อยพบ</span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\"><span style=\"color: #ff0000\">การป้องกันกำจัด</span>       มด โรยด้วยยาผงคลอเดนไปที่รัง หรือทางเดิน เพลี้ยอ่อน ใช้ยาเซวินผล 1/2 ช้อนชา ละลายน้ำ 1 แกลลอน <br />\n </span></li>\n<li><span style=\"color: #ff9900\">                           ฉีด พ่นให้ทั่ว เพลี้ยไฟ ใช้เช่นเดียวกับเพลี้ยอ่อน </span></li>\n</ul>\n<p>\n<img src=\"http://upic.me/i/ru/zcy27.gif\" height=\"375\" width=\"499\" />\n</p>\n<ul>\n</ul>\n<p>\n<img src=\"/files/u89075/qrfree_kaywa_com.png\" height=\"181\" width=\"181\" /> \n</p>\n</div>\n', created = 1718495154, expire = 1718581554, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:d76e6ffee03f61578576a39f49e56266' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

เฟิร์นข้าหลวง "Bird’s nest fern" - "Asplenium nidus"

  • ชื่อสามัญ                 Bird’s nest fern
  • ชื่อวิทยาศาสตร์        Asplenium nidus
  • ตระกูล                     POLYPODIACEAE
  • ลักษณะทั่วไป

  •           เฟิร์นชนิดนี้ ฝรั่งเรียกว่า “Bird’s nest fern” ชอบ อาศัยอยู่ตามคาคบไม้ใหญ่ในเขตอบอุ่นที่มีความชื้นสูง ถือว่าเป็นลักษณะของกาฝาก ใบของเฟิร์นข้าหลวง จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ก้านใบจะมีสีน้ำตาลเข้ม การเรียงตัวของใบจะเรียงตัวแบบเกลียวคล้ายดอกกุหลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหักได้ง่ายแต่พอเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความ เหนียวและหนามาก เมื่อนำมาปลูกภายในอาคารบ้านเรือนจะต้องคอยทำความสะอาดเช็ดถูสิ่งสกปรกและ ฝุ่นละอองออกจากใบบ้าง เดือนละครั้งก็ยังดี เฟิร์นข้าหลวงเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดสเปรย์ให้ใบ ของมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพราะการฉีดละอองน้ำจะทำให้ใบของมันสดชื่น อยู่ตลอด

รูป เฟิร์นข้าหลวง 

Credit : http://album.sanook.com/albums/843886609

 

  • ถิ่นกำเนิด
  •           เกิดอยู่ทั่วไปในแถบที่มีอากาศร้อน และอบอุ่น เช่น เอเซีย ออสเตรเลีย

 

  • ประโยชน์
  •           ประโยชน์ของเฟิร์นข้าหลวงนั้น ใช้ประดับตกแต่งเพราะเป็นไม้ประดับ

 

  • ฤดูกาลใช้ประโยชน์
  •           เป็นไม้ประดับได้ทุกฤดูกาล

 

  • ศักยภาพการใช้งาน
  •           มีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทนทาน

 

 

  • การดูแลรักษา
  • แสง                     ชอบอยู่ในร่มและแดดส่องถึงได้บ้างเล็กน้อย

  • อุณหภูมิ                ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส

  • ความชื้น                ต้องการความชื้นสูง

  • น้ำ                       ในระยะแรกของการเจริญเติบโตต้องให้น้ำอย่างเต็มที่ และลดปริมาณลงในฤดูหนาวปกติก็ควรจะให้ 2 วันต่อครั้ง

  • ดินปลูก                 ดินร่วน 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ทรายละเอียด 1 ส่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน
  •                          (ควรใช้ปุ๋ยเก่าๆ ค้างปี เศษอิฐหัก 1 ส่วน ปูนขาว 1/2 ส่วน)

  • ปุ๋ย                       ควรละลายปุ๋ยผสมน้ำรดเดือนละครั้ง ถ้าต้องการเร่งการเจริญเติบโตในช่วงแรกก็ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ
  •                            เช่น 16 - 16 - 16 ละลายน้ำรดเดือนละ 2 ครั้ง

  • กระถาง                  ควรกระถางปากกว้าง แต่ไม่จำเป็นต้องลึกนัก

  • การขยายพันธุ์           แยกกอ เพาะโดยใช้สปอร์ (spore)

  • โรคและแมลง           มด เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ส่วนโรคไม่ค่อยพบ

  • การป้องกันกำจัด       มด โรยด้วยยาผงคลอเดนไปที่รัง หรือทางเดิน เพลี้ยอ่อน ใช้ยาเซวินผล 1/2 ช้อนชา ละลายน้ำ 1 แกลลอน
  •                            ฉีด พ่นให้ทั่ว เพลี้ยไฟ ใช้เช่นเดียวกับเพลี้ยอ่อน

 

รูปภาพของ ssspoonsak

เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทำการคัดลอกมาแล้วไม่อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล

กรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลให้ชัดเจนด้วย ดูรูปแบบการทำเอกสารอ้างอิงได้ที่

http://www.thaigoodview.com/node/99177

มิฉะนั้นทางเว็บ thaigoodview.com จำเป็นต้องลบข้อมูลทั้งหมดออก

ขอขอบคุณ

ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล

ผู้ดูแลเว็บไซต์ไทยกู๊ดวิว

 


ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่าคัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ ไม่ถูกปิดเสียก่อน
ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 1081 คน กำลังออนไลน์