การดำรงชีวิตของน้องเม่น

เม่นแคระเป็นสัตว์กลางคืน ดังนั้นตอนกลางวันมันจะนอนซะเป็นส่วนใหญ่  และจะตื่นมาหากินอาหารเวลากลางคืน พวกสัตว์ที่หากินเวลากลางคืนส่วนใหญ่นั้นดวงตาของสัตว์พวกนี้จะใช้งานได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ น้องเม่นก็เหมือนกัน โดยจะสังเกตได้ว่าเวลาเราเล่นกับน้องเม่นในเวลากลางวันนั้น น้องเค้าจะใช้จมูกดมกลิ่น เพราะเขาจะมองไม่ค่อยเห็น แต่ถ้าเราเล่นกับเขาในที่มึดหรือตอนกลางคืน น้องเขาจะมองเห็นเรา สังเกตได้ง่ายๆเลยค่ะ ดังนั้นถ้าเราคิดจะเลี้ยงควรหาที่สำหรับให้เขาอาศัยมึกสักหน่อยก็ดีค่ะ หรือถ้าจะเลี้ยงในตู้กระจกหรือที่ที่สว่างๆก็ควรหาที่สำหรับให้เขาหลบซ่อนตัว เช่น กระบอกไม้ไผ่ใหญ่ๆ ผ้า บ้านหนู (แต่เลือกทางเขาใหญ่ๆหน่อยนะค่ะ)เพื่อป้องกันดวงตาเขาไม่ให้เป็นต้อขาวๆขึ้นรอบๆดวงตา เรืองของอาหารการกิน น้องเม่นเป็นสัตว์กิน แมลง หนอน ไม่ชอบกินพวก พืช ผัก ผลไม้ สักเท่าไหร่ หรือถ้าอยากให้กินก็ต้องเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆค่ะ

คิดดีๆก่อนเลี้ยง

  -สิ่งที่เราควรคำนึงถึงอย่างแรกเลยคือ ความพร้อม ทั้งเรื่อง เวลา สถานที่

  -น้องเม่นเป็นสัตว์ที่ดื้อมาก การเตรียมที่อยู่อาศัยนั้นสำคัญ มิฉะนั้นมันอาจจะปีนออกไปไหนต่อไหนโดยไม่บอกเรา (น้องเม่นของเราหายไปแล้ว2ตัวเสียใจมากT^T)

  -กลิ่น!!!!! เวลาเลี้ยง เราควรหาที่ที่อากาศถ่ายเทตลอด และทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสะอาดและอากาศที่บริสุทธิ ^^

  -น้องเม่นเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายมาก แค่มี น้ำ กับ อาหารแมว เวลาเราไปไหนมาไหนหลายวันเราไม่ต้องเป็นห่วงเลยก็ได้เพราะเขาเลี้ยงง่ายจริงๆ

  -น้องเม่นเป็นสัตว์รักการอยู่ตัวเดียว และค่อนข้างหวงบ้านมาก ถ้าใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติมีหวัง เจ็บตัวแน่นอน =.,= 

  -น้องเม่นจะไม่เหมือนหมา หรือ แมว ที่เราจะกอดจะเล่นด้วยได้ง่ายๆ น้องเม่นจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้กลัวมาก เวลากลัวก็จะขดตัวกลมๆ เหมือนไข่นกกระจอกเทศมีหนามดังนั้นเวลาเราคิดจะเลี้ยงจริงๆ แนะนำว่าควรซื้อมาตั้งแต่เล็กๆอายุประมาณ2-3เดือนกำลังดี หรือเลือกที่มันเดินได้คล่องๆก็โอแล้วค่ะ รับรองว่าไม่ตายง่ายๆค่ะ 

อาหารการกิน

    -สำหรับคนที่เลี้งน้องเม่นทุกคนจะต้องมีอยู่แล้วแน่ๆคือ อาหารแมว แต่การเลือกซื้อก็สำคัญเหมือนกันนะคะ ควรเลือกอาหารแมวที่เค็มน้อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นโรคไต ถ้าเป็นไปได้อยากให้ฝึกน้องเม่นกินอาหารแมวที่แช่น้ำนิ่มๆ หรือ บดให้กินเป็นชิ้นเล็กๆจะดีกว่า และควรเปลี่ยนอาหารกับทำความสะอาดภาชนะใส่อาหารทุกๆ 2 วันค่ะ 

    -หนอนนกควรให้กิน แค่วันละ 1-2 ตัว หรือ อาทิตย์ละ 10ตัวพอคะ หรือไม่ให้ก็ได้ เพราะหนอนนกมีไขมันมาก เดี๋ยวน้องเม่นจะอ้วนตุ๊ต๊ะ เป็นลูกขนุนเอา

    -ผัก ผลไม้ ควรฝึกให้กินตั้งแต่เล็กๆค่ะ เพราะส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยกิน เป็นบางตัวนะคะ แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล

ที่อยู่อาศัย

      - บางคนอาจเคยเห็น คอนโดน้องเม่น ที่เป็นลิ้นชัก 3-4ชั้นนั่นแหละค่ะ แล้วก็นำมาเจาะด้านข้างแล้วนะตะแกงมาติด เพื่อเป็นการถ่ายเทอากาศ เราไม่ขอเเนะนำนะเพราะแสงแดด จะทำให้น้องเม่นเป็นต้องหรือไม่ก็อาจถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว  เราจึงเปลี่ยนตะแกงมาเป็นหาทางยังไงก็ได้ ที่ทำให้อากาศเข้าได้ และก็สามารถให้แสงเข้าได้น้อยที่สุด อาจจะนำสว่านมาเจาะรูก็ได้นะแล้วแต่ดีไซด์เลย

      - ตู้ปลาใหญ่ๆก็เลี้ยงได้นะ แต่เราอยากให้หาอะไรก้อได้ เช่นฟิวเจอร์บอร์ดสีดำมาปิดให้ทั่วตู้ปลาเลย เพื่อให้เขาโดนแสงแดดให้น้อยที่สุด

      - ลังกระดาษไม่แนะนำนะ เพราะน้องเม่นเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามรู เขาจึงชอบขุดๆๆๆ จนลังกระดาษขาดเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าใส่ไว้ชั่วคราวก็ได้ไม่ว่ากัน

      - กล่องพลาสติก เราว่าอันนี้ดีสุดนะถ้าเลี้ยง 1-2 ตัว เพราะ ส่วนใหญ่จะเป็นสีทึบๆ กล่องก็กว้างกำลังพอดี ขนย้ายสะดวก

      - ทำความสะอาดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง 

      - หาบ้านให้เขาอยู่สักหลังก็ดีนะ เช่น กระบอกไม้ไผ่  บ้านหนูหลังๆหน่อยนะ กล่องกระดาษเล็กๆก็ได้

      - น้องเม่นบางตัวชอบเอาจมูกดันอาหาร จนอาหารหก เราจึงควรหาภาชนะใส่อาหารที่หนักๆมาใส่ให้

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ข้อควรระวัง!!!!!!!!!!!!!!!!

    เราต้องปิดฝากล่องทุกครั้ง (แต่อย่าลืมนะ เจาะรูที่กล่อง หรือเปิดฝากล่องแง้มๆไว้สักนิดหนึ่ง กะเอาว่าน้องเม่นไม่สามารถออกมาได้ เอาไว้ให้อากาศเข้าได้) และหาของหนักๆวางทับไว้ ...เพราะน้องเม่นชอบปีนออกจากกล่องมาก อาจทำให้บ้านของเราสกปรก หรือไม่ก็หายไปเลย~

การสืบพันธุ์

     วิธีที่ 1.

           นำน้องเม่นตัวเมียไปใส่ในกล่องตัวผู้ รอดูอยู่ห่างๆสักพักว่า มันจะกัดกันหรือเปล่า  ถ้าไม่กัดก็ปล่อยไว้ได้  7-10 วัน แล้วก็นำน้องเม่นตัวเมียแยกออกมา 

     วิธีที่ 2. 

           เตรียมกล่องใหม่เอาไว้สำหรับผสมพันธุ์น้องเม่น ทำความสะอาด ใส่น้ำใส่อาหารให้เรียบร้อย นำตัวผู้ใส่ไปสักพัก เพื่อให้กลิ่นตัวผู้ติดทั่วทั้งกล่องก่อน  แล้วจึงนำตัวเมียใส่ ใส่ไว้ด้วยกัน 7-10วัน แล้วจึงแยกออก

??????เหตุผลว่าทำไมเราจึงเอาตัวเมียใส่ทีหลัง???????

           เพราะตอนที่น้องเม่นตัวเมียเข้าไปในอาณาจักรของเม่นตัวอื่นจะกลัวมาก เพราะว่าผิดกลิ่น จึงทำให้ปัญหาตัวเมียกัดตัวผู้ลดน้อยลง และจะทำให้ตัวผู้บังคับขืนใจตัวเมียได้ง่าย

           การผสมพันธุ์ ตัวผู้จะดมก้นตัวเมียแล้วเดินวนเป็นวงกลม หรือ อาจมีเสียงร้อง เป็นเรื่องธรรมชาติ และเมื่อเห็นน้องเม่นผสมพันธ์กันแล้วเห็นว่าตัวผู้กำลังกัดตัวเมียอยู่ อย่าตกใจ หรือแยกออก เพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติของมัน น้องเม่นตัวเมียจะตกไข่ทุกๆ7วัน เราจึงใส่น้องเม่นไว้ด้วยกัน 7-10วัน ในเวลานั้นน้องเม่นจะผสมพันธุ์กันทุกวันอยู่แล้ว โอกาศที่เม่นตัวเมียจะท้องมีถึง 80%เลยทีเดียว

           น้องเม่นชั้นนนนท้องงงง!!!!!!!!!!

การดูแล 

   1. อย่ากวนน้องเม่นมาก

   2.อย่าเล่นกับน้องเม่นมากเกิน หรือไม่เล่นเลยก็ดี เดี๋ยงน้องเม่นแท้ง

   3.ต้องให้น้องเม่นอยู่ตัวเดียวในกล่อง และเก็บของเสียทุกวัน อย่าเปลี่ยนขี้เลื้อย ให้ใส่ตรงที่เราตักออกไปนิดหน่อยพอ

   4.น้ำ กับ อาหาร อย่าขาดเป็นอันขาด เพราะช่วงที่ท้องใหม่ๆน้องเม่นจะกินเยอะมาก แต่ให้ในปริมาณที่พอดีนะ อย่ามากเกิน 

   5.ดูแลเรื่องความอ้วน อย่าให้กินมากเกิน เพราะเมื่อตอนน้องเม่นคลอดจะมีปัญหา อาจถึงขั้นคลอดลูกเองไม่ได้เลยทีเดียว ถ้าพาไปหาหมอไม่ทัน น้องเม่นอาจตายท้องกลมได้ 555 น่ากลัวมั๊ยหล่ะ ถ้ากลัวควรดูแลเรื่องอาหารด้วยนะ

   6.เสริมอาหารบำรุงด้วยนะ ซุปไก่สกัด ไข่แดงต้มสุก วิตตามิน เนื้อไก่ต้มสุก นมแพะ

   7.ก่อนผสมพันธุ์ควรชั่งน้ำหนัก และจดบันทึกไว้ เมื่อเรานำน้องเม่นมาชั่งเราจะได้รู้ว่าน้องเม่นของเราท้องหรือเปล่า