พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน
![รูปภาพของ sss28410 รูปภาพของ sss28410](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-907.jpg)
ประวัติการไปรษณีย์ไทยและประวัติแสตมป์ไทย
นับย้อนหลังไปประมาณ 100 ปี การส่งข่าวสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะการคมนาคมยังไม่สะดวก การติดต่อระหว่างเมือง ประชาชนต้องฝากข่าวสารไปกับผู้เดินทาง ซึ่งทำให้เสียเวลาและล่าช้ามาก ต่อมาประเทศไทยมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น จึงมีการจัดตั้งสถานกงสุลขึ้นในกรุงเทพ ฯ สถานกงสุลอังกฤษได้ริเริ่มการไปรษณีย์กับต่างประเทศในปี พ.ศ. 2418 โดยการรับฝากจดหมาย หรือหนังสือจากประเทศไทย ไปยังที่ทำการไปรษณีย์ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อส่งไปยังจุดหมายปลายทาง โดยใช้ตราไปรษณียากรซึ่งนำมาจากสิงคโปร์ พิมพ์อักษรคำว่า “B“ ลงบนตราไปรษณียากรนั้น แทนคำว่า “BANGKOK“ ผนึกทับบนจดหมาย หรือหนังสือเพื่อฝากส่งไปกับเรือพาณิชย์ แต่กิจการดังกล่าวได้ยกเลิกไปเมื่อเริ่มมีบริการไปรษณีย์ของสยามอย่างเป็นทางการ
![](/files/u907/stamphistory.gif)
ในระยะเดียวกับที่สถานกงสุลอังกฤษริเริ่มการไปรษณีย์กับต่างประเทศนั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช กับเจ้านายกลุ่มหนึ่ง ได้ร่วมกันออกหนังสือพิมพ์รายวันชื่อ "ข่าวราชการ" (COURT) ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ให้ความสนใจมาก จึงทำให้ต้องมีคนเดินส่งหนังสือแก่สมาชิกทุกเช้า ดังนั้นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงได้ทรงจัดพิมพ์ " ตั๋วแสตมป์ " เพื่อใช้เป็นค่าบริการส่งหนังสือพิมพ์ ซึ่งต่อมาแสตมป์ได้ขยายไปถึง การเดินส่งจดหมายแก่สมาชิกด้วย โดยตั๋วแสตมป์ 1 ดวง แทนราคา 1 อัฐ แต่ตั๋วแสตมป์ดังกล่าวไม่มีตัวอักษร หรือเลขหมายบอกราคาไว้
ประมาณปี พ.ศ.2423 เจ้าหมื่นเสมอใจราช ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งการไปรษณีย์ขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ข้าราชการและราษฎร ซึ่งต้องกับพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงส่งเจ้าหมื่นเสมอใจราชไปดูงานด้านไปรษณีย์ที่ประเทศจีนและสิงคโปร์ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ผู้ทรงมีประสบการณ์ด้านไปรษณีย์ เตรียมการจัดตั้งกิจการไปรษณีย์ตามอย่างในต่างประเทศ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน