สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ
"สมาชิกกลุ่ม 2"
นายธนพล แซ่เล้า เลขที่่่่่่่ 2
นายวรวิชญ์ วัฒนาวงศ์เสถียร เลขที่ 21
นางสาวสุวพัชร เจียมจังหรีด เลขที่ 24
ประเทศบรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)
1. กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นเมืองเดียวของบรูไนที่เรียกว่าเมืองได้อย่างแท้จริง เป็นเมืองสวยสะอาด ถนนในเมืองกว้างขวางและมีตึกรามบ้านเรือนทันสมัย เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่งของบรูไน อาทิ พิพิธภัณฑ์บรูไน กับพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีมาเลย์ ซึ่งแสดงสถาปัตยกรรมการก่อสร้างบ้านในแม่น้ำอย่างที่กัมปงเอเยอร์ นอกจากนี้ยังมีพระราชวังหลวงที่ใหญ่โตโอ่อ่าและสวยงามมากคือ พระราชวังหลวง อิสตานา นูรัล อีมาน ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมหลังจากเดือนรอมฎอน หรือหลังพิธีถือศีลอด
2. มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน เป็นสุเหร่าขนาดใหญ่อยู่กลางเมือง ในบริเวณสุเหร่ามีสระขุดขนาดใหญ่ประดับสถานที่ให้ดูเด่นสง่างาม ภายในสุเหร่าปูพื้นด้วยหินอ่อนจากอิตาลี และปูพรมสั่งทอพิเศษผืนใหญ่มหึมา นับว่าเป็นศูนย์รวมชาวมุสลิมในบรูไนและเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลามในบรูไน
3. เกาะลาบวน เกาะนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นท่าเรือปลอดภาษี มีชื่อเสียงด้านตลาดตราสารการเงิน หรือ International Offshore Financial Centre (IOFC) มีพื้นที่ประมาณ 98 ตร.กม. เกาะนี้มีสถานที่เที่ยว อาทิ อนุสาวรีย์อุทยานสันติภาพเพื่อรำลึกถึงทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นศูนย์การกู้เรือชั้นนำของส่วนภูมิภาค เนื่องจากเกาะนี้เป็นเขตปกครองพิเศษของมาเลเซีย นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยือนได้ขนานนามเกาะแห่งนี้ว่า ไข่มุกแห่งทะเลจีนใต้ เกาะลาบวน เป็นเกาะที่มีเหมืองถ่านหินมากมาย กองเรือของอังกฤษเคยใช้เป็นที่เติมเชื้อเพลิงของกองทัพเรือ
4. สวนสันติภาพ (Peace Park) เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการเก็บภาพแห่งความประทับใจ นอกจากนั้นคุณยังสามารถเดินทางไปชม เซอร์เรนเดอร์พอยต์ (Surrender Point) ซึ่งเป็นจุดที่กองทัพญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามต่อกองทัพออสเตรเลี่ยน
ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia)
1. นครวัด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 30 ปี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาปราสาทขอมด้วยกันและยังเป็น เมืองในตัวของมันเองด้วย โดยมีฐานะเป็นทั้งเมืองหลวงและศาสนสถานประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ซึ่ง สร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุ ทุกสิ่งที่ก่อสร้างขึ้นจึงล้วนแต่มีความหมายตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดูที่ ว่า ศาสนสถานคือศูนย์กลางของโลกและจักรวาล มีคูเมืองเป็นมหาสมุทร ระเบียงคตเปรียบดังเทือกเขาที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุอันเป็นที่อยู่ของทวยเทพ ส่วนปรางค์ประธานที่อยู่ชั้นบนสุดหมายถึงยอดเขา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมานครวัดจะต้องไม่พลาดการชื่นชมความอ่อนช้อยงดงามของนางอัปสรที่มีอยู่ถึง 1,635 องค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่คอยดูแลศาสนสถานแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพสลักที่อยู่รอบระเบียงคตเป็นเรื่องราวจากมหากาพย์และ คัมภีร์พระเวทย์ของศาสนาฮินดู รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้สร้าง และหนึ่งในนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับกองทัพชาวสยามด้วย
2. นครธม หรือเมืองพระนครหลวง เป็นราชธานีแห่งใหม่ที่ย้ายมาจากนครยโศธรปุระตามพระราชดำริของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ประสงค์จะขยายอาณาจักรขอมให้ยิ่งใหญ่ขึ้น นครธมมีคูเมืองล้อมรอบกว้างประมาณ 80 เมตร ด้านละ 3 กิโลเมตร และมีกำแพงศิลาแดงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน กำแพงที่ล้อมรอบเปรียบได้กับภูเขาและมหาสมุทรที่โอบล้อมแผ่นดิน โดยมีโคปุระหรือซุ้มประตูทางเข้าเป็นสะพานสลักหินขนาดใหญ่ มีเทวดาและอสูรฝั่งละ 54 ตนฉุดนาคขนาดใหญ่ ส่วนซุ้มประตูทางเข้ามีภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่บนยอด ภายในประกอบด้วยปราสาทบายน ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน และปราสาทอื่น ๆ อีกมากมาย
3. ปราสาทบายน ประกอบด้วยปรางค์ปราสาท 54 ปรางค์ที่ถูกสลักเป็นภาพพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร รวม 216 หน้า ผินออกไปทั้ง 4 ทิศ เพื่อสอดส่องดูแลทุกข์สุขของพสกนิกร รอยยิ้มที่เย็นระเรื่อของพระพักตร์เหล่านั้น เรียกกันว่าเป็นยิ้มแบบบายนอันเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา
4. บันทายสรี เทวสถานขนาดเล็กอันมีลวดลายสลักเสลาที่งดงาม มีความอ่อนช้อย คมชัด และมีชีวิตชีวา ถือเป็นปราสาทที่มีทับหลังและหน้าบันสมบูรณ์ที่สุด ส่วนใหญ่จะแกะสลักเรื่องราวในมหากาพย์รามายณะ (รามเกียรติ์) หลายคนขนานนามว่านี่คือปราสาทแห่งความรัก อยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐประมาณ 35 กิโลเมตร
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia)
1. บาหลี เป็นที่ท่องเที่ยวสำหรับทุก บาหลีมีวัฒนธรรม มีความสนุก มีธรรมชาติสวยๆ มีเอกลักษณ์ที่จะหาไม่ได้จากที่อื่น บาหลีมีที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ทุกมุมของบาหลีมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย รอบๆเกาะยังมีที่ดำน้ำ ที่เล่นเซิร์ฟสำหรับนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวก็มีล่องแก่ง มีเดินป่า ไต่เขา และที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนชอบมาก คือ ช็อปปิ้ง จะไปเที่ยวบาหลีช่วงไหนของปีก็ได้
2. ทัมภัคสิริงค์ ( Tampaksiring ) มีตีรตะเอมปลูน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะในหมู่ชาวบาหลี ผู้คนเชื่อกันว่าน้ำพุนี้มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ ทุกปีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมาที่นี่เพื่อชำระล้างมลทินในบ่อน้ำ บริสุทธิ์ ก่อนอาบน้ำจะทำการบูชาขอบคุณเทพเจ้าแห่งน้ำพุ ที่แท่นบูชาและกรุณาจำไว้ว่าห้ามถ่ายรูปชาวบาหลีขณะอาบน้ำถือเป็นเรื่องที่ หยาบคายมากๆ ทุกวันพระจันทร์เต็มดวงในเดือนตุลาคม ชาวบ้านจากหมู่บ้านมุนะคะยา จะเดินทางมาที่นี่พร้อมกับหินศักดิ์สิทธิ์จากวัดปุราซะเกนัน เพื่อประกอบพิธีชำระล้างหิน
3. วัดปุราตะนาห์ลอต (Pura Tanah Lot) วัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานที่สำคัญอย่างมากของชาวบาหลี เป็นหนึ่งในเจ็ดของวัดที่ถูกก่อตั้งขึ้นในยุค ศตวรรษที่ 16 โดยนักบวชฮินดู ชื่อ นาราธาร์ (Nirartha) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล วัดปุราตะนาห์ลอต ตั้งอยู่บนโขดหินใหญ่นอกฝั่งยื่นล้ำสู่ทะเลมองเห็นเป็นเงาสีดำ สวยที่สุดยามพระอาทิตย์ตกดิน ตะนาห์ลอต แปลว่า ผืนดินในท้องทะเล
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
1. พระราชวังหลวงพระบาง ซึ่งตั้งอยู่ทางขึ้นทางบันไดด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อยู่ใกล้กับที่ตั้งของ พระราชวัง มีถนนศรีสว่างวงค์สายเล็กๆคั่นเอาไว้นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินเที่ยวชมพระราชวัง ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ อันเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1904 เพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ ลักษณะ เป็นศิลปะแบบลาวผสมฝรั่งเศส มีแผนผังเป็นรูปกากบาท และ สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น ห้องโถงด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐาน พระบางซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของลาว พระหัตถ์แสดงปางอภัยมุทรา หล่อขึ้นด้วยทองคำ บริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ คามตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นที่เกาะสิงหลเมื่อราวศตวรรษ ที่ 1 เจ้าฟ้างุ้ม ทรงได้รับพระราชทานจากกษัตริย์เขมรมาอีกต่อหนึ่ง แต่ก็ต้องตกไปอยู่ในเมืองสยามถึงสองครั้ง ปี 1779 และ 1827 จน ปี 1867 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯจึงทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานกลับคืน ไปให้ภายในห้องยังมีฉากลับแลผ้าไหมปักลวดลาย ด้วยฝีมือ ประณีตและงาช้างแกะสลักอีกไม่น้อยที่เหลือเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภาพบุดคล บรรณาการจากต่างชาติ และ งานศิลปะมากมาย
2. ปราสาทวัดภู เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแหล่งอารยธรรมโบราณต่างๆถึง สามสมัยด้วยกันคือ สมัยอาณาจักรเจนละในช่วงศตวรรษที่6-8 ต่อมาพวกเขมรสมัยก่อนเมืองพระนคร ได้สร้างปราสาทหินขึ้นที่นี่ในราวศตวรรษที่ 9 สุดท้าย อาณาจักรล้านช้างก็ได้เปลี่ยนเทวาลัยในศาสนาฮินดูแห่งนี้ให้เป็นวัดในพุทธศาสนาสายเถรวาท
3. ถ้ำจัน เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในวังเวียง ถ้ำนี้เคยเป็นที่กำบัง และ หลบซ่อนในการต่อต้ากบฎ จีนฮ่อในช่วงศตวรรษที่ 19 และ อีกหลายถ้ำ ที่คุณสามารถติดต่อกับ ไกค์ท้องถิ่น ตามสถานที่พัก ของท่าน จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ เมืองปากเซ แขวง จำปาศักดิ์ เมืองปากเซ เป็นเมืองท่าเมืองหนึ่งของแขวงจำปาศักดิ์ เป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจ และ การค้าขาย ของลาวทางเขตภาคใต้ ซึ่งมีความเจริญกว่า เมืองจำปาศักดิ์ และ มีระยะทางใกล้กับชายแดนช่องเม็ก และติดอยู่กับเขตชองจังหวัดอุบลราชธานี การเดินทางคมนาคมขนส่ง จากประเทศไทย สู่เมือง ปากเซ นั้นสะดวกอย่างง่ายดาย
ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)
1. ตึกเปโตรนาส (Petronas Twin Tower) เป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงถึง 452 เมตร มีชั้นทั้งหมด 88 ชั้น โดยทางการใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งหมด 20,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของตึกนี้เป็นเจ้าของผู้ผลิตน้ำมันยี่ห้อเปโตรนาส ชื่อเดียวกับตึกนั่นเอง การออกแบบตึกได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะของเสาหินทั้ง 5 ของอิสลาม นอกจากความสวยงามและความสูงของตึก ที่ทำให้คนทั่วโลกต้องตะลึงแล้ว ภายในตึกยังเป็นแหล่งรวมความรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี บันเทิงและแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่อีกด้วย
2. จัตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) บริเวณจัตุรัสแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของเสาธงที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นธงชาติประจำชาติมาเลเซีย ที่ได้รับการชักขึ้นสู่ยอดเสา ความสูงของยอดโดมมีขนาดเท่ากับ 40 เมตร และหอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่านอวดความสวยงามของตัวตึกและในเวลากลางคืน จะมีการติดไฟระยิบระยับเต็มไปหมด ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับอาคารแห่งนี้
3. กัวลาลัมเปอร์ ทาวเวอร์ (Menara Kuala Lumpur) ตั้งอยู่บนยอดเขาบูกิตนานาส เป็นหอคอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากที่แคนาดา รัสเซีย และจีน มีความสูงถึง 421 เมตร โดยใช้เป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ และใช้ระบบสื่อสารไฮเทคต่างๆ ด้านหน้าทางเข้าจะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่มีต้นไม้ใหญ่อายุ 100 ปี มีชื่อว่า ต้นเจลลิตง
สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines)
1. สวนไรซาล หรือมีอีกชื่อว่า ลูเนตา (Luneta) เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ของเมือง และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) ซึ่งเป็นผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จากสเปนในช่วง ค.ศ.1896-1898 และในบริเวณเดียวกันก็เป็นจุดที่ฟิลิปปินส์ประกาศอิสรภาพเหนือสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1941 ด้วย
2. ปักซังฮัน ซึ่งเป็นแหล่งล่องแก่งชั้นยอด นักท่องเที่ยวส่วนมากจะเล่นน้ำตกปักซังฮัน แล้วทวนน้ำขึ้นไปกับเรือซึ่งจะเพลิดเพลินกับการผจญภัยกับการนั่งเรือทวนน้ำ เรือบันกา พร้อมทั้งได้ชื่นชมความสดชื่นของน้ำที่ไหลผ่าน ชมความสวยงามของธรรมชาติ ที่สรรค์สร้างได้อย่างลงตัว ผาสองข้างทางสูงเกือบ 100 เมตร ลมสงบนิ่ง
3. อินทรามูรอส (Intramuros) ตั้งอยู่ ณ ริมแม่น้ำฟาร์ซิกไรซัล (Rizal Park) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1571 โดยกลุ่มชาวสเปนที่มีผู้นำในการก่อสร้างคือ Miguel Lopez de Legazpi เพื่อป้องกันการรุกรานจากกลุ่มโจรสลัด อินทรามูรอส เคยถูกเปลี่ยนมือไปสู่การดูแลของอังกฤษในช่วงปีค.ศ.1762 ก่อนที่สเปนจะตีคืนมาได้ใน 2 ปีถัดมา และ อินทรามูรอส ก็ถูกเปลี่ยนมืออีกครั้งไปสู่สหรัฐอเมริกาในปีค.ศ.1898 ก่อนที่จะถูกญี่ปุ่นเข้าทำลายและยืดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
สาธารณรัฐสิงคโปร์ (The Republic of Singapore)
1. เอสพลานาด - โรงละครบนชายหาด เป็นหนึ่งในศูนย์แสดงศิลปะที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกแห่ง หนึ่ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 12 ตุลาคม 2002 เอสพลานาดเดิมนั้นเปิดในปี 1943 โดยตั้งอยู่บนสวนซึ่งตอนนี้นั้นมีพื้นที่ 2.4 เฮคเตอร์ (ประมาณ 24,000 ตารางเมตร) ริมถนนคอนนอท (Connaught Drive) โดยตั้งอยู่ตรงข้ามซิตี้ ฮอลล์ (City Hall) ในปี 1985 รัฐบาลได้มีโครงการที่จะสร้างศูนย์แสดงศิลปะขึ้นในสิงคโปร์และลงความเห็นว่า เอสพลานาดนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด เอสพลานาดในรูปแบบเดิมจึงถูกปรับปรุงใหม่ในปี 1991 เพื่อความสวยงามของเขตซิวิค ดิสตริก (Civic District) และเพื่อเป็นศูนย์แสดงศิลปะ
2. เมอร์ไลออน หรือ สิงโตทะเล ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์
ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand)
1. เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยนายประไพ วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทวิริยะประกันภัย เป็นสถานที่รวบรวมวัฒนธรรม ของไทย อาทิ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 เมืองโบราณตั้งอยู่ในเขตตำบลบางปูใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ห่างจากตัวจังหวัด 8 กิโลเมตร มีพื้นที่ 800 ไร่ ลักษณะที่ดินมีผังบริเวณคล้ายรูปขวาน เหมือนกับอาณาเขตของประเทศไทย [1] ภายในจะมีโบราณสถาน ปูชนียสถาน วัดโบราณ พระราชวัง ต่างๆ เป็นต้น และยังมี ส่วนรังสรรค์เป็นสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทย มีไว้จัดแสดงที่นี่ด้วย ภายในเมืองโบราณยังมีค่ายพักแรม ชื่อว่า "ค่ายริมขอบฟ้า"
2. สวนผึ้ง เป็นอำเภอบนพื้นที่สูง ของจังหวัดราชบุรี โอบล้อมของขุนเขาชิดชายแดนไทย-พม่า มีแม่น้ำชีไหลผ่าน จึงมีสภาพอากาศที่เย็นสบายคล้ายกับภาคเหนือ และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใช้เวลาในการขับรถ ประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตกที่มี ภูมิประเทศหลากหลาย จากพื้นที่ที่ราบต่ำลุ่ม แม่น้ำ แม่กลองอันอุดม แหล่งเพาะปลูกพืชผักผลไม้เศรษฐกิจนานาชนิด สู่พื้นที่สูง ทิวเทือกเขาตะนาวศรีทอด ตัวยาวทางทิศตะวันตกจรดชายแดนไทย-พม่า มีคำขวัญที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอสวนผึ้งว่า "สาวกะเหรื่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชี แก่งส้มแมวแนวหินผา ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่า หวานซึ้ง ตรึงใจ" ที่มาของคำว่า "สวนผึ้ง" เนื่องจากพื้นที่โดยทั่วไปของอำเภอมีสภาพแวดล้อมประกอบ ด้วย ธรรมชาติ ป่าไม้ เทือกเขา และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นผึ้ง" ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีสีขาวนวลไม่มีเปลือกกะเทาะ หรือลอกให้เห็น และที่สำคัญคือจะมีผึ้งจำนวนนับแสนนับล้านตัวมาอาศัยทำรังบนต้นผึ้งเท่านั้น
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
1. ฮาลองเบย์ : มหัศจรรย์แห่งอ่าวมังกรตกน้ำ (มรดกโลกทางธรรมชาติเวียดนาม) สำหรับอ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ นั้นได้ตามนิทานปรัมปราของชาวเวียดนาม ที่กล่าวถึงมังกรโบราณซึ่งเคยร่อนมาลงในอ่าวนี้เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์ และชื่อของฮาลอง ก็แปลได้ว่า มังกรร่อนลง จากความสวยงามและสมบูรณ์ของอ่าวฮาลอง ทำให้ที่นี่ประกาศได้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์กรยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2537 ซึ่งเป็นเสมือนประกาศนียบัตรที่ใครเห็นต่างเชื่อถือ จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศเวียตนาม ต้องล่องเรือมาชมอ่าวฮาลองเพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
2. ฮอยอัน(Hoi an) คือเมืองท่องเที่ยงของเวียดนามกลางที่นิยมกันไปทั่วโลก ฮอยอันมีเสน่ห์ตรงบ้านเรือนโบราณเก่าๆ เขตเมืองเก่าที่เรียงกับไปหลายร้อยเมตร บ้านเรือนที่เก่าแก่มีทั้งคนจีน ญี่ปุ่น คนเวียดนาม อาศัยอยู่ตรงนี้มาก่อน ทำให้หลากหลายวัฒนธรรม เมื่ออยู่ด้วยกันมานานมีคนไปพบเห็นความสวยงามจึงบอกต่อไปทั่วโลก
3. ดาลัด (Dalat) เมืองแห่งดอกไม้ แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโฮจิมินห์ มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เหมาะแก่การปลูกดอกไม้ ภายในเมืองดาลัด มีสถานที่ท่องเที่ยวน่ารัก หลายแห่งเช่น สถานีรถไฟดาลัด พระราชวังฤดูร้อน สวนพฤกษศาสตร์ โบสถ์คาทอลิกสีชมพู และถ้ามีเวลาก้สามารถเช่ารถออกไปเที่ยว หุบเขาแห่งความรัก น้ำตกฟงกัว น้ำตกดาตันลา และ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ นั่งเคเบิลคาชมเมืองในมุมสุง
สหภาพพม่า (Union of Myanmar)
1.พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon pagoda) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้องพ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึงประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อพระเจ้าพินยาอู ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตร
2. พระพุทธไสยาสน์เชาตาจีแห่งเมืองย่างกุ้ง พระพุทธรูปองค์นี้ มีลักษณะพิเศษคือ ที่บริเวณพระบาทมีภาพวาดรูปสรรพสิ่ง อันล้วนเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วย ลายลักษณธรรมจักร ข้างละองค์ ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาท และล้อมด้วย รูปอัฏฐุตรสตกตมงคล 108 ประการ