วิธีเลี้ยงกระรอก


ก่อนที่เราจะเริ่มทำการเลี้ยงกระรอกกันนั้น เราควรมาทำความรู้จักกับเจ้ากระรอกน้อยกันก่อนดีกว่ามัย
กระรอก(Squirrel) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม มีขนาดลำตัวเล็ก ขนปุยปกคลุมทั่วทั้งร่ายกายอันน้อยๆของมัน นัยตากลมโต มีหางเป็นพวงฟู จัดอยู่ในประเภทสัตว์ฟันแทะ
วงศ์กระรอกมี วงศ์ย่อย 2 วงศ์ คือ Pteromyinae ได้แก่ กระรอกบิน และวงศ์ Sciurinae ได้แก่ กระรอกต้นไม้, กระรอกบิน, ชิพมั้งค์ สำหรับการเลี้ยงกระรอกทั้งสองชนิดนั้นก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันมากครับ
กระรอกต้นไม้ เป็นกระรอกที่มักพบเห็นได้บ่อยๆและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มีหางยาวเป็นพวงสวยงาม มีกรงเล็บแหลมคมมากๆ และมีใบหูใหญ่กว่าชนิดอื่นๆ บางชนิดมีปอยขนที่หู ส่วนกระรอกบินนั้น จะมีพังผืดข้างลำตัว สำหรับกางเพื่อร่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง มักเป็นการหากินในตอนกลางคืน มีตาสะท้อนแสงไฟ กระรอกดิน มักจะมีรูปร่างสั้น และล่ำสันกว่ากระรอกต้นไม้ทั่วไปเล็กน้อย มีขาหน้าแข็งแรงใช้สำหรับการขุดดิน หางของกระรอกดินนั้นจะสั้นกว่าหางของกระรอกต้นไม้ และไม่ฟูเป็นพวงนัก และเช่นเดียวกับสัตว์ฟันกัดแทะชนิดอื่น ๆ กระรอกจะมีนิ้วเท้าหลังข้างละ 5 นิ้ว และ นิ้วเท้าหน้าข้างละ 4 นิ้ว ตรงส่วนที่น่าจะเป็นนิ้วโป้งจะกลายเป็นปุ่มนูน ๆ ซึ่งถูกพัฒนาให้เหมาะสำหรับจับอาหารมาแทะ
กระรอกมีขนาดใหญ่เล็กต่าง ๆ กันไปตามสายพันธุ์ และสามารถแบ่งตามขนาดได้ 3 กลุ่ม คือ ขนาดใหญ่ เช่น พญากระรอก ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทยพบอยู่เพียง 2 ชนิด คือ พญากระรอกดำ (Ratufa bicolor) และพญากระรอกเหลือง (Ratufa affinis) ซึ่งได้ถูกขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ขนาดกลาง เช่น กระรอกหลากสี (Callosciurus finlaysoni) กระจ้อน (Menetes berdmorei) และ ขนาดเล็ก เช่น กระเล็น (กระถิก) ซึ่งเป็นกระรอกที่เล็กที่สุดที่พบในประเทศไทย
เมื่อเรารู้ลักษณะของกระรอกแต่ละสายพันธ์แล้วที่นี้เราก็ลงมือทำการเลี้ยงกระรอกกันเลยครับ   ก่อนที่เราจะทำการเลี้ยงกระรอกตัวน้อยนั้น ถามตัวเองให้ดีก่อนว่าเราสามารถรับนิสัยของเค้าได้หรือไม่
สำหรับการเลี้ยงกระรอกของเรา
1. อันที่จริงแล้วนั้นกระรอกเป็นสัตว์ป่า นิสัยเปรียว รักอิสระมาก เชื่องยังไงก็ยังแง่มอยู่ แต่จะแง่มแบบรักแม่ หรือสาเหตุอื่น นั่นอีกเรื่องนะครับ คุณจะสามารถทนเค้าได้หรือเปล่าล่ะถ้าเจอมันกัด ว่าไหงยังอยากการเลี้ยงกระรอกอยู่อีกหรือเปล่าครับ
2. เห็นหน้ากันไปเป็นสิบๆปีเพราะเจ้ากระรอกอายุยืน จะรักและดูแลเค้าได้นานขนาดนั้นหรือเปล่าละ a life time responsibility
3. รับได้หรือเปล่าที่บางครั้งเจ้ากระรอกของคุณอยากเล่นของเค้า คุณไม่สามารถเอาเค้ามาอุ้มได้ตลอดเวลา เหมือนหมาแมว หรือสัตว์อื่น
4. มีค่าใช้จ่ายสูงในการเลี้ยงกระรอกหนึ่งตัว ไปหาหมอทีถึงไม่ป่วยแค่ตรวจประจำปี จะมีค่าแพทย์แล้วทันทีเริ่มต้นที่ 200-300 บาท ของแต่ละคลีนิค ราคายาถูกสุดเริ่มต้นที่ 80 บาท ยาทั่วไปเฉลี่ยที่ 100-200 บาท หมอเฉพาะทางที่รักษาสัตว์เล็กมีน้อย นั่นหมายความว่าคลีนิคที่พวกหมอพวกนี้ประจำอาจจะไม่ใกล้บ้านคุณ เดินทางไม่สะดวกอย่างที่คุณคิด คุณพร้อมจะเสียสละเวลาอันมีค่าของท่านพาเค้าไปหาหมอทันทีหรือยัง
5. กระรอกเป็นสัตว์ฟันแทะ และสามารถทำลายข้าวของ มันกัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ชอบอยู่ที่แคบๆ ถ้าจะขังกรง คุณมีงบประมาณที่จะซื้อกรงขนาดเล็กที่สุดก้อต้อง 1 X 1 X 1 เมตร ให้เค้าอยู่ได้หรือเปล่า ถ้าเลี้ยงแบบปล่อย ทำใจได้แค่ไหนที่วันหนึ่ง ทีวี เครื่องเสียง เฟอร์นิเจอร์แพงๆ ของรัก ของหวงของคุณต้องเสียหายเพราะมัน
6. การเลี้ยงกระรอกฝึกการขับถ่ายไม่ได้ ถ่ายได้ทั้งวี่ทั้งวัน กลิ่นตัวก็พอมี เล็บคม โตขึ้นดื้อ จับตัดเล็บ อาบน้ำแทบไม่ได้
7. กระรอกไม่ชอบกินอาหารที่ทิ้งตากลมไว้นาน คุณมีเวลาที่จะคอยเปลี่ยนอาหารให้เค้า หรือมีคนช่วยดูแลหรือเปล่า
8. มีเวลาเล่นกับเค้าทุกวันๆละอย่างน้อยสองชั่วโมงหรือเปล่า กระรอกนอนหัวค่ำ คุณกลับบ้านเร็วหรือเปล่า ไม่เล่นบ่อยๆเค้าจะไม่ติดเรา ไม่ติดเราเค้าก็จะไม่เชื่อง และมีแง่ม กัดแล้วเราจะกลัว ไม่อยากเลี้ยง เอาไปขาย เอาไปปล่อยทิ้ง คุณใจร้ายได้ขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าวันนึงคุณเล่นกับเค้าไม่ได้ คุณคิดจะทำอย่างไร
9. คนในบ้านรับกระรอกคุณได้แค่ไหน เค้าสนับสนุนให้คุณเลี้ยงหรือเปล่า ถ้าวันนึงผู้ปกครองคุณ หรือแฟนบอกให้กำจัดมันคุณจะทำอย่างไร
10. ข้อสุดท้าย และสำคัญสุด คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าคุณมีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะดูแลเค้าอย่างดีตลอดชีวิตของเค้า
กลับไปอ่านทบทวนใหม่ทั้งหมด แล้วค่อยถามใจตัวเองอีกครั้งว่าคุณพร้อมหรือยังกับการมีกระรอกสักตัว   การเลี้ยงกระรอกแสนรักของฉันและของเพื่อนๆ
กระรอกเป็นสัตว์ป่าตัวเล็ก ๆ ขนยาวปานกลางนะ หางมีลักษณะเป็นพวงมีหลากหลายรูปแบบมากๆแล้วแต่สายพันธุ์ที่เพื่อนๆเลี้ยงนะครับ
หน้าตาของกระรอกน้อยจะออกบ๊องแบ๊วหน่อย แบบน่ารักนะครับผมว่า อันนี้แล้วแต่คนชอบแล้วกันนะครับนะครับ นานาจิตตังไม่ว่ากันก็แล้วกัน การเลี้ยงกระรอกให้
เชื่องนั้นสามารถทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นนะครับ แต่คุณคงไม่คาดหวังการทำให้เขาเชื่องเหมือนสุนัข เพราะเป็นไปไม่ได้เลย
ทำไมถึงชอบเลี้ยงกระรอก
หน้าตาน่ารักดี เป็นสัตว์ขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อยมาก ราคาซื้อขายไม่แพงมากนัก ในปัจจุบันในท้องตลาด ราคาจะอยู่ที่ 400-900
บาทเท่านั้รเอง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาดครับ กรงสำหรับการเลี้ยงกระรอกก็ราคาประมาณ 100 บาท เท่านั้นเองครับ อาหารสำหรับการเลี้ยกระรอกก็สามารถหาได้ง่ายทั่วไปเลยครับ เพราะเค้ากิน
เกือบทุกอย่างครับทั้งผักและผลไม้
ใครเหมาะที่จะเป็นผู้ทำการเลี้ยงกระรอกบ้าง
คนที่จะทำการเลี้ยงกระรอกต้องมีใจรักจริง ๆ ครับ เพราะมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องประคมประหงมพอสมควรในช่วงอ่อน ๆ นะครับ ต้องมี
เวลาให้เป็นพิเศษถึงจะเชื่องได้ ต้องเป็นคนใจเย็น เป็นคนใจเย็น และยอมรับความเจ็บปวดได้ เพราะคุณต้องมีโอกาสโดนกัด โดน
ข่วนบ้าง นะครับ
ใครที่ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้
เด็กเล็ก ๆ ไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงกระรอกนะครับ เพราะเป็นสัตว์ขนาดเล็กที่บอบบางมากๆ การกระทำ การเล่นที่
รุนแรงของเด็กๆอาจจะทำให้กระรอกกัดได้ หรืออาจทำให้กระรอกตายก็ได้นะครับ โดยเฉพาะกระรอกตอนที่ยังเล็ก ๆ
และคนที่คิดจะทำการเลี้ยงกระรอกไว้กอดรัดฟัดเหวี่ยง เพราะเค้าเป็นสัตว์ที่ซุกซนปราดเปรียวยิ่งนัก ไม่เหมือนหมาแมวครับนะครับ
การเลี้ยกระรอกวัยไหนที่ควรเลี้ยง
ควรหาซื้อกระรอกในวัยไม่เกิน 1 เดือนครับ 3 สัปดาห์น่าจะดีที่สุด แต่อย่าไปซื้อที่ยังไม่ลืมตานะครับ เพราะ
โอกาสรอดมีน้อย
การเลี้ยงกระรอกแต่วัยน้อย ๆ โอกาสเชื่องมีสูงกว่าและจะไม่กัดคุณแน่นอน(อาจจะมีงับคุณบ้างเมื่อไม่สบอารมณ์เท่านั้นเองอิอิ)
กระรอกเมื่อคุณซื้อตัวโตมาก ๆ แม้จะดูเชื่อง จับเล่นได้เมื่ออยู่ที่ร้าน แต่เมื่อคุณนำมาเลี้ยงจริงโอกาสเจ็บตัวสูงมากนะครับ
ครับ ยังงัยก็ต้องโดน คุณต้องยอมรับให้ได้นะครับ และขอบอกว่าเจ็บสุด ๆ ครับ คุณลองดูฟันเค้าสิครับ หากขยับบนมือ
คุณสุดลิ่มจะเป็นอย่างไร แต่ผมชินแล้วครับ
โรคส่วนใหญ่ของเจ้าตัวน้อยนั้นส่วนมากจะเป็น
โรคหวัดเลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดเมื่่อตัวน้อย ๆ จากการโดยลม หรือ เครื่่องปรับอากาศ
โรคท้องเสีย อันนี้ส่วนใหญ่จะเกิดตอนเล็ก ๆ เช่นกัน โดยจะเกิดจากการให้นมที่เหลวเกินไป ต้องปรับวิธีการ
ชงนมใหม่ให้ข้นมากขึ้นกว่าเดิม
โรคผิวหนัง อันนี้มาตอนโตครับ โดยแยกเป็นส่วนที่เกิดจากเชื้อรา และเกิดจากอาการคัน ซึ่งผมแนะนำให้พบ
แพทย์เป็นการด่วนเลยนะครับ (สำหรับผม ๆ ว่าเกิดจากอาการคันจะน่ากลัวกว่าเพราะเค้าจะแทะหางตัวเองจนร่วงหมด
และมี เลือดด้วยครับ โอกาสหายนะมี แต่หางที่เสียเลือดไปมากจะขาดครับ......อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงของ
ผมเองเลย กับการเลี้ยงกระรอกเจ้า "ดิงด้า" ตัวสีแดงที่เป็นเบคกราวน์ นี่ละครับ เพราะเจ้านี้แทะหางตัวเองจนถึงเลือดไหล แต่ผม
ดันอวดรู้ซื้อยาคนมาทาให้เขาซะผันแผลซะเรียบร้อย แต่เอาไม่อยู่ครับเพราะเค้ายังแทะต่อ จนต้องพาไปพบ
คุณหมดที่คลีนิคตรงแถวประชาชื่น ขอบอกว่าที่นี่คุณหมอเก่งครับสำหรับการเลี้ยกระรอกคือจากที่คุยแล้วรู้เลยว่าคุณ
หมอ รู้จริง เคยผ่านเคชของกระรอกมาพอสมควร ผมว่าดีกว่า รพ.สัตว์เกษตร อีกนะครับ เพราะที่นั่นเหมือนที่
ศึกษายังงัยไม่รู้ของผมไปตายที่นั่น 2 ตัว แต่อาจสุดวิสัยก็ได้แต่ผมว่าเหมือนหมอไม่เคยรักษากระรอกอะ เอา
ของเราเป็นกรณีศึกษา นักศึกษามาดูกันเต็มเลย สู้คลีนิคไม่ได้เลย ดูจากเทคนิคการจับกระรอกแล้วรู้เลยว่าหมอ
และผู้ช่วยเก่งจริง เอาเหอะว่ากันของเราดีกว่า กลับมาไม่กี่วันก็หายครับ แต่เสียหางไปกว่าครึ่ง เสียหายครับ
แต่ก็เป็นครู.. )
ระวัง!
เจ้าตัวเล็กมีจุดอ่อนที่บริเวณคอ หากได้รับการกระแทก กระทบกระเทือนส่งผลให้ถึงตายได้เลย การจับโดยการ
บีบช่วงต้นคอหากไม่ถูกต้องเค้าจะขาดอากาศและตายใน 2-3 นาทีแค่นั้นเอง ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยว่าเจ้าตัวเล็กที่ตก
จากต้นไม้ระดับตึก 3-4 ชั้นได้สบาย จะตายได้ง่าย ๆ แบบนี้

อาหารสำหรับการเลี้ยงกระรอกขณะยังเป็นตัวเล็ก
เมื่อพ้นวัยทารก ประมาณเดือนครุึ่ง มีฟันพอสมควรเริ่มให้แทะกล้วยก่อนเลยครับ ควบคู่ไปกับซีรีเล็กซ์ เมื่อเค้า
ทานผลไม้ได้เยอะขึ้นค่อยให้ผลไม้เป็นการถาวร โดยควรให้ผลไม้ที่หลากหลายครับ เพราะจะทานได้เยอะและ
มีคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วนกว่าทานอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะ แต่ไม่ยุ่งยากครับเพราะเค้าทานได้
ทุกอย่างครับผักยังท่านได้เลย ถ้่ว คะน้า แตงกวา ฯลฯ
เจ้ากระรอกน้อยเล็บย้าว...ยาว
กระรอกเล็บยาว ข่วนเจ็บ ทำให้เราเกิดเป็นแผลได้ ควรตัดเล็บเป็นอย่างยิ่งครับ เราสร้างความคุ้นเคยการตัดได้
โดยตัดแต่ตอนเล็ก ๆ เลย ก็พอตอนทานผลไม้ได้ก็เริ่มตัดเล็บได้แล้วครับ ตัดส่วนปลายที่เป็นขอบขาวนะครับ
ระวังการตัดโดนเนื้อถึงเลือดครับส่งสารเค้า ผมตัดประมาณ 3 วัน ครั้ง ลืมบอกไปแรก ๆ ยากครับ ต้องใจเย็น
ค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มที่วางไว้บนหัวเขาเราและทำแบบเดิมทุกครั้งไป

การเลี้ยงกระรอกคร่าวๆก็มีเพียงเท่านี้เองครับสำหรับใครที่ยังสนใจการเลี้ยงกระรอกอยู่ก็ค้นหาต่อนเก่าๆมาอ่านได้นะครับ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 370 คน กำลังออนไลน์