มหาอุทกภัย ปี 2554
พุทธศักราช2554 ปีมหาอุทกภัยของชาวไทยทุกคน ทุกพื้นที่ได้รับความเสียหายและความเดือนร้อน เหล่าภาครัฐและเอกชนต่างให้ความช่วยเหลือกันทุกด้าน แม้แต่ประชาชนด้วยกันก็มีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านที่ตัวเองสามารถทำได้
ในเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราได้รู้ว่า "คนไทยไม่เคยทิ้งกัน" ความช่วยเหลือต่างๆได้ส่งไปให้ผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร,ที่พักอาศัย,ยารักษาโรค ฯลฯ ในสภาวะน้ำท่วมที่กินเวลาเป็นเดือน ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ขยะมากมาย และสิ่งปฏิกูลที่ลอยอยู่เหนือน้ำและอยู่ในน้ำ ทำให้ก่อเกิดโรคต่างๆมากมาย และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ในด้านแพทย์และพยาบาลพร้อมทั้งเหล่าจิตอาสาช่วยกันลำเลียงยาเพื่อมอยสู่ผู้ประสบภัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการและจำนวนของประชาชนที่ประสบภัย แล้วยังมีสัตว์ที่อยู่ในน้ำซึ่งเป็นอันตรายมากหากโดนมันกัดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นงูหรือจระเข้ เราจึงต้อบงป้องกันดูแลรักษาตัวเองให้รอดปลอดภัย หากเกิดบาดแผลขึ้นมาในขณะที่ความช่วยยังไม่มาถึงเราจึงต้องรู้จักวิธีการดูแลบาดแผลเบื้องต้น เพราะเมื่อถึงมือหมอแล้วบาดแผลจะร้ายแรงน้อยลง โรคที่เกิดจากน้ำท่วมมีหลายอย่างด้วยกัน แต่เราจะเสนอโรคที่พบบ่อยมากที่สุด คือ
1 โรคน้ำกัดเท้า
ในระยะแรกผิวหนังอักเสบจากความเปียกชื้นและการ ระคายเคืองจากความสกปรก ต่อมาเมื่อผิวลอกเปื่อยนานๆ มักจะมีสาเหตุมาจากเชื้อรา เชื้อ นี้เจริญงอกงามได้ดีบริเวณซอกผิวหนังที่อับชื้น อาการจะเริ่มด้วยตุ่มใสบริเวณง่ามเท้า มีอาการคันมากจนแตกเป็นแผล ซึ่งจะทำให้มีอาการอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อน
การดูแลและการป้องกัน หลังจากย่ำน้ำแล้วควรล้างเท้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งโดยเฉพาะตามง่ามเท้า อาจโรยด้วยแป้งฝุ่นหรือใช้ครีมทา ถ้าเป็นไปได้ควรสวมรองเท้ายางหุ้มข้อเมื่อจะย่ำน้ำ หากมีอาการเท้าเปื่อยควรทาด้วยขี้ผึ้งรักษาน้ำกัดเท้า หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
ครีมทาแก้น้ำกัดเท้า
ที่มาของภาพ:นางสาววรพร แสงม่วง
2 โรคฉี่หนู
เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของตับและไต ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อน่องมาก ตาแดง ต่อมามีอาการตัวเหลือง และอาจบวมบริเวณหลังเท้าและหนังตา ติดต่อโดยเชื้อโรคที่ผ่านมากับปัสสาวะหนูที่อยู่ในน้ำแล้วไซเข้าสู่ผิวหนัง
การดูแลและการป้องกัน เมื่อจะต้องย่ำน้ำควรสวมรองเท้ายางหุ้มข้อ กำจัดหนูที่เป็นพาหะนำโรค ถ้ามีอาการของโรคนี้ควรรีบไปพบแพทย์
รองเท้าบูทยางกันน้ำเข้าและโรค
3 โรคตาแดง
เกิดจากน้ำที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่เข้าตา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ มีอาการตาแดง ปวดแสบตา น้ำตาไหลมาก
การดูแลและป้องกัน เมื่อน้ำสกปรกเข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด เนื่องจากเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำตา ขี้ตา และน้ำมูกของผู้ป่วย จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ที่อาจปนเปื้อนเชื้อร่วมกับผู้ป่วย เช่นผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผู้ป่วยควรรีบปรึกษาแพทย์
โรคที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นเป็นโรคที่เกิดมากจากน้ำบ่อยที่สุด ดังนั้นเราจึงต้องดูแลและป้องกันให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดโรคดังกล่าวเพราะกว่าจะรักษาได้นั้นลำบากมากในช่วงสภาวะน้ำท่วมแบบนี้ เราต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยและป้องกันไว้ก่อนจะเป็นดีที่สุด ในทางอ้อมนั้นเราควรที่จะมียาสามัญประจำบ้านไว้เพื่อฉุกเฉินและสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวเช่นความดันหรือเบาหวานนั้นก็ควรจะมียาประจำตัวพกอยู่สม่ำเสมอ ยาสามัญประจำบ้านจะช่วยให้เรายับยั้งความเจ็บปวดจากบาดแผลได้ก่อนที่จะถึงมีแพทย์
ยาแก้ปวด
ที่มาของภาพ:นางสาววรพร แสงม่วง
สำหรับเด็กนั้นผู้แกครองควรดูแลและสอกส่องเป็นพิเศษ เพราะเด็กมีภูมิต้านทานน้อยและเจ็บป่วยได้ง่าย และช่วงน้ำท่วมแบบนี้การรักษาค่อนข้างลำบากดังนั้นควรเตรียมยาป้องกันไว้ให้เด็กๆในยามเจ็บป่วย
calamine lotion แก้ผดผื่นคัน
ที่มาของภาพ:นางสาววรพร แสงม่วง
ในสภาวะเหตุการณ์แบบนี้เราควรดูแลป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นโรคที่มากับน้ำหรือสัตว์ต่างๆที่อยู่ในน้ำ เราควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเบื้องต้น ในเวลาที่เจ็บป่วยกระทันหันเราจะได้รักษาตัวเองให้ปลอดภัยในเบื้องต้นก่อนที่จะถึงมือแพทย์
แหล่งอ้างอิง:
http://www.budhosp.go.th/news2/news_item.asp?NewsID=240
เนื้อหาเยี่ยมมมมมม
เริ่ดฮ้าาาา ;))
สวยยยจังง
อืม ดีจ้ะ แต่จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะจ้ะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
อธิบายดี