อันตราย !!!!! โคที่มาพร้อมกับน้ำท่วมมมมมมมมมม
![รูปภาพของ sss27979 รูปภาพของ sss27979](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-54112.jpg)
![](/files/u54112/1_0.gif)
![](/files/u54112/03__________________.gif)
โรคฉี่หนู ฉี่หนูเป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์ มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควาย ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนูนี้เข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย
อาการของโรคฉี่หนู มี 2 แบบ คือแบบไม่รุนแรงจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วยรู้ตัวและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ กับอาการรุนแรงที่จะทำให้ตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ และเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้เกิดอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัว และยิ่งไปกว่านั้นหากติดเชื้อทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิต
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู หลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง การเล่นน้ำ โดยเฉพาะในเด็กที่มักจะสนุกสนานไปกับการย่ำน้ำหรือเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วม แต่หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบเดิน อย่าแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยเพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและควรใส่รองเท้าบูททุกครั้งเมื่อเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้า และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลที่เท้าหรือน่อง ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ที่หนีน้ำกัดได้ ส่วนในผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน ให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน อย่ารอให้อาการหนักเพราะอาจจะรักษาไม่หายและเสียชีวิตก็เป็นได้
![](/files/u54112/03___________________________.jpg)
แหล่งที่มา http://img291.imageshack.us/img291/9163/sicknesszp9.jpg
![](/files/u54112/04______________________________.gif)
โรคน้ำกัดเท้า เกิดจากการเดินย่ำน้ำเป็นประจำ และเมื่อเท้าแช่ในน้ำนานๆ หรือเท้ามีความชื้น ทำให้ติดเชื้อโรค ซึ่งปะปนอยู่ในน้ำ
จนเกิดอาการเท้าเปื่อย ลอก แดง คันและแสบ ซึ่งเรียกว่ากันว่าเป็นโรคน้ำกัดเท้า ซึ่งในระยะแรกเป็นแค่ผิวแดงลอกจากการ ระคายเคือง
ในระยะนี้ ผิวหนังยังไม่มีเชื้อรา การรักษาจึง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบมากขึ้น และระยะต่อมา
เมื่อผิวหนังลอก เปื่อยเป็นแผลและชื้นอยู่นาน แล้วไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำอีก จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งอาจจะมีการติดเชื้อ
แบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ต้องให้การรักษาโดยการรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการชะล้างบริเวณ
แผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น น้ำด่างทับทิม แล้วทาด้วยยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ
นอกจากนี้อาจจะมีการติดเชื้อราได้ โรคเชื้อราที่ซอกเท้าอาจเกิดขึ้นหลังจากน้ำกัดเท้าอยู่บ่อยๆ เป็นเวลานาน เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังเมื่อเป็นเชื้อราแล้วจะหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนดูเหมือนหายดี แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอับชื้นขึ้นเมื่อใด ก็จะเกิดเชื้อราลุกลามขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็นๆ หายๆ เป็นประจำ ไม่หายขาด
การรักษา
ในกรณีที่เป็นโรคน้ำกัดเท้าระยะที่มีอาการเท้าเปื่อย ลอก แดง คันและแสบ การรักษาในระยะนี้ควรใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบมากขึ้น หรืออาจจะใช้ยารักษากลากเกลื้อน ของยาชุดสามัญประจำบ้าน ใช้ทาวันละ 3 ครั้ง จนกว่าจะหาย โดยก่อนทายาให้ล้างเท้าให้สะอาดและใช้ผ้าเช็ดให้แห้งเสียก่อน แต่หากมีการอักเสบอย่างรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผล อาจต้องพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับไต และควรรักษาอย่างต่อ เนื่องไม่ควร
หยุดใช้ยาเองแม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย
การป้องกัน
หากจำเป็นต้องย่ำน้ำควรใส่รองเท้าบู๊ท หรือถ้าไม่ใส่ควรทาขี้ผึ้งวาสลินให้ทั่วเท้า ทั้งนิ้วเท้าและง่ามนิ้วด้วย เมื่อเลิกย่ำน้ำควรรีบถอดรองเท้า แล้วเช็ดขี้ผึ้งออกให้หมดและล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดทันที หลังจากนั้นซับและผึ่งเท้าให้แห้ง หรือ ถ้าจำเป็นต้องย่ำน้ำโดยไม่ได้ใส่รองเท้าบู๊ท หลังจากย่ำน้ำแล้วควรรีบล้างเท้าทำความสะอาด แล้วเช็ดให้แห้งโดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากเท้ามี บาดแผล ควรชะล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็จะช่วยป้องกันโรคน้ำกัดเท้าได้ สำหรับการดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีก โดย การรักษาความสะอาดให้เท้า
แห้งอยู่เสมอ ล้างน้ำฟอกสบู่ และเช็ดเท้าให้แห้ง และให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า
![](/files/u54112/04_______________________________________.jpg)
![](/files/u54112/04__________________________________________.jpg)
แหล่งที่มา แหล่งที่มา
http://img.kapook.com/image/health/foot_1.jpg http://www.originplant.co.th/upload/news/AuUAAEAAnCAUA.jpg
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »
แหล่งอ้างอิง:
http://www.klanghospital.go.th/index.php/9.html
เนื้อหา ภาพประกอบครบถ้วน
ปรับปรุงเรื่องการจัดข้อความที่ยังไม่ดีนัก การเว้นวรรค การขึ้นบรรทัดใหม่ไม่ถูกต้อง
อาจจะเพิ่มเติมข้อมูลได้อีก
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
สดใสมากอ่ะ ดูโอ้
เริ่ด เริ่ด
รวมๆแล้ว 'น่าร็อคอ้าาาา' เนื้อหาอ่านง่ายสบายตา รูปก็น่ารักอะไรเช่นนี้ :D
ภาพ และสีสันสวยงามจร่ะ![Kiss Kiss](/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-kiss.gif)
เนื้อหาเยอะดี
ตกแต่งสวยอ่ะ
อืม ดีจ้ะ แต่จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะจ้ะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
เนื้อหามาเต็ม!!
บลอคน่ารักคิขุ
ตกแต่งสวย เนื้อหาเยี่ยม
สวยงามค่ะ ตบมือ ;)
แหล่มเลย (Y)
เนื้อหาดี มีสาระมากๆ สีสวยยย :P
บลอกมีสีสันดีๆ :) เนื้อหาเยอะจ้า
สุดยอด~.. น่ารักมากมายเลยอ๊ะ
เนื้อหาแน่นปี้ก!! เยี่ยม - -+
น่ารักกกกกกก
อ่านง่ายยย
แอนใส่ชื่อด้วยดิ ^^