เมื่อน้ำมา เมื่อน้ำไป โรคอะไรจะมาเยือน
![รูปภาพของ sss28122 รูปภาพของ sss28122](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-53506.jpg)
![](/files/u53506/dik_19.gif)
![](/files/u53506/dik_19.gif)
![](/files/u53506/dik_19.gif)
![](/files/u53506/dik_19.gif)
![](/files/u53506/148619-attachment.jpg)
มหาอุทกภัยไทย ปี 2554 โรคที่มากับน้ำท่วม
ในปลายปี 2554 ประเทศไทยได้ประสบอุทกภัยครั้งสำคัญสร้างความเสียหาย ต่อบุคคลเเละทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
จึงต้องมีการอพยพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งการดำรงชีวิตของผู้ประสบภัยต้องพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัญหาหนึ่งในนั้นก็คือ
โรคภัยต่างๆที่มากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นเเละระบาดได้ในช่วงนี้ ฉะนั้นการรับมือ
เตรียมพร้อมป้องกันไว้ก่อน จึงเป็นทางที่ดีที่สุด
![](/files/u53506/7.gif)
![](/files/u53506/1_0.jpg)
1.โรคฉี่หนู
![](/files/u53506/630.jpg)
สาเหตุ
ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควาย ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนู
นี้เข้าไปทางบาดแผล หรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย
1. ดูแลบ้านเรือนให้สะอาด ไม่ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งหากินของหนู ซึ่งเป็นพาหะนำโรค
2. หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ ลุยน้ำหรือแช่น้ำในขณะที่มีน้ำท่วมขัง ถ้าหากจำเป็น ต้องพยายามไม่ให้น้ำเข้าตา จมูก หรือปาก
3. กำจัดขยะ ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และที่อาศัยของหนู
4. สำหรับผู้ที่มีอาชีพต้องแช่น้ำนานๆ หรือต้องเหยียบย่ำพื้นดินแฉะอยู่เสมอ ควรสวมรองเท้ายางหุ้มข้อ เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรค
5. เมื่อพบเห็นหนูบริเวณบ้านเรือน หรือตามไร่ นา สวน ต้องรีบกำจัด
6. ควรเก็บอาหารไว้ในที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้หนูถ่ายปัสสาวะรดอาหาร
7. อาหารที่ค้างมื้อ เมื่อจะนำมากินในมื้อต่อไป จะต้องนำมาอุ่นให้เดือดเสียก่อน เพื่อให้เชื้อโรคที่อาจปะปนอยู่ในอาหารถูกทำลายโดย
ความร้อน
8. ถ้ามีบาดแผลหรือรอยถลอก ควรปิดปลาสเตอร์ก่อนลงน้ำ
9. นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี
10. ควรปิดฝาโอ่งน้ำหรือภาชนะบรรจุน้ำ เพื่อป้องกันหนูมาถ่ายปัสสาวะลงไปในน้ำ
11. ภาชนะที่ใช้ใส่อาหาร ควรล้างทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรค
12. ล้างมือทุกครั้งก่อนกินอาหาร
การรักษา
ผู้ที่มีอาการรุนแรง
ควรให้ยาpenicillin,tetracyclin,streptomycin,erythromycin เป็นยาที่ใช้ได้ผลในโรคนี้
และควรจะได้รับยาภายใน 4-7 วันหลังเกิดอาการของโรค
ผู้ที่มีอาการปานกลางอาจจะเลือกยาดังนี้
amoxicillin 500 mg วันละ 4 ครั้ง 5-7 วัน
การรักษาตามอาการและภาวะแทรกซ้อน
![](/files/u53506/7.gif)
![](/files/u53506/2_0.jpg)
สาเหตุ
โรคที่มีอาการคันซึ่งเกิดจากเชื้อราที่เท้า เมื่ออากาศร้อนๆ และเท้าชื้นมากๆ ประกอบกับมีเหงื่อออกมากด้วยจึงเป็นบ่อเกิดของเชื้อราที่
เรียกว่า Dermatophytes เนื่องจากเชื้อราจะเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ดีมากในอากาศร้อนชื้น
ควรใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่แห้ง เช็ดเท้าให้แห้งโดยเฉพาะซอกเท้าหลังอาบน้ำ ใส่ถุงเท้าที่ทำด้วยขนสัตว์ดีกว่าผ้าฝ้ายเพราะผ้า
โรยแป้งฝุ่นที่เท้า
![](/files/u53506/3_0.jpg)
3.โรคตาเเดง
แบคทีเรียและเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางมือ ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวโดยมากใช้เวลาหาย 2 สัปดาห์ ตาแดงจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง
มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง การใช้contact lens หรือน้ำยาล้างตาก็เป็นสาเหตุของตาแดงเรื้อรัง
การป้องกัน
1.อย่าใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนอื่น
2.อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน
3.ล้างมือบ่อยๆ อย่าเอามือเข้าตา
4.ใส่แว่นตากันถ้าต้องเจอสารเคมี
5.อย่าใช้ยาหยอดตาของผู้อื่น
6.อย่าว่ายน้ำในสระที่ไม่ได้ใส่คลอรีน
7.ยาเมื่อไม่ได้ใช้ให้ทิ้ง
8.อย่าสัมผัสมือ
9.เช็ดลูกบิดด้วยน้ำสบู่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
การรักษา
1.ประคบเย็นวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ10-15 นาที
2.ล้างมือบ่อยๆ
3.อย่าขยี้ตาเพราะจะทำให้ตาระคายมากขึ้น
4.ใส่แว่นกันแดด หากมองแสงสว่างไม่ได้
5.อย่าใส่ contact lens ช่วยที่มีตาแดง
6.เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวัน เปลี่ยนหมอนทุก 2 วัน
7.ถ้ามีอาการไม่ดีขึ้นให้ไปพบเเพทย์ทันที
ทำบล็อกสวยจ้ะ
สวยค่ะ
เนื้อหาดี รูปประกอบสวยค่ะ :)
จัดหน้ากระดาษสวยมากเลย
เนื้อหากำลังดี ^__^
ตกแต่งเลิศมากกกกก
น่ารักอ้ะ ! 555