"มหาอุทกภัย" | โรคร้ายที่มากับน้ำท่วม !!
![รูปภาพของ sss28153 รูปภาพของ sss28153](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-53765.jpg)
![](/files/u53765/63000000-tile.jpg)
เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ก็มักเกิดปัญหาตามมามากมาย หลายคนต้องประสบพบเจอกับการตั้งรับน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นการก่ออิฐหรือตั้งกระสอบทราย การดูแลป้องกันบ้านและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ทั้งการยกขึ้นที่สูงหรือจัดการแพ็คพลาสติก และที่สำคัญก็คือ ... โรคภัยที่มาจากน้ำท่วม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเจ้าโรคพวกนี้กันนะคะ :)
![](/files/u53765/images__1_.jpg)
โรคน้ำกัดเท้าจากเชื้อราและแผลพุพองเป็นหนอง
ซึ่งเกิดจากการย่ำน้ำหรือแช่น้ำที่มีเชื้อโรคหรืออับชื้นจากเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่ไม่สะอาดเป็นเวลานาน โดยจะมีอาการเท้าเปื่อย เป็นหนอง และเริ่มคันตามซอกนิ้วเท้า ผิวหนังลอกเป็นขุย จากนั้นผิวหนังจะพุพอง นิ้วเท้าหนาและแตก มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนคือผิวหนังอักเสบ
ป้องกันได้ด้วยการเช็ดเท้าให้แห้ง หากมีบาดแผลควรใช้แอลกอฮอล์เช็ดแล้วทาด้วยยาฆ่าเชื้อ
![](/files/u53765/images__2_.jpg)
โรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส
ติดต่อได้ทุกเพศทุกวัย แพร่กระจายในลมหายใจ เสมหะ น้ำลาย อาการมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ไอจาม อ่อนเพลีย
ป้องกันได้ด้วยใช้ผ้าปิดปากเวลาไอจาม ดื่มน้ำอุ่นมากๆ มีไข้สูงเกิน 7 วันควรพบแพทย์
![](/files/u53765/images__3_.jpg)
ที่มา : http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTkFgzrEBjgQyezrE3Hqt7uU7jMpt29s7NvU0vc7seS3Py02Db0mA
โรคปอดบวมเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปอด
เช่น น้ำสกปรกจนทำให้เกิดการอักเสบ อาการไข้สูง ไอมาก หอบหายใจเร็ว เห็นชายโครงบุ๋ม ริมผีปากซีดหรือเขียวคล้ำ กระสับกระส่ายหรือซึม
หากมีอาการควรรีบพบแพทย์ทันที
![](/files/u53765/images__7_.jpg)
โรคตาแดง
ติดต่อได้ง่ายในเด็กเล็กแต่เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายรุนแรง ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส แต่หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ อาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 1 – 2 วัน จะมีอาการระคายเคือง ปวดตา น้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม เยื่อบุตาขาวอักเสบแดง ทั้งนี้ในหากดูแลถูกวิธีจะหายได้ใน 1 – 2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ดูแลอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น กระจกตาดำอักเสบ
ทั้งนี้ป้องกันได้ด้วยล้างดวงตาให้สะอาดเมื่อถูกฝุ่นละออง หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ควรขยี้ตา
![](/files/u53765/keeee.jpg)
โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่มีแมลงวันตอม อาหารค้างคืนหรือเน่าบูด แบ่งออกเป็นหลายโรค ได้แก่ โรคอุจาระร่วง อาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ อาจมีมูกเลือดและมีการอาเจียนร่วมด้วย อหิวาตกโรค จะถ่ายเป็นน้ำคล้ายน้ำซาวข้าวทีละมากๆ อาการรุนแรง
อาหารเป็นพิษ มักมีอาการปวดท้องร่วมกับการถ่ายอุจาระเหลว คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการปวดศีรษะและเมื่อยเนื้อตัวร่วมด้วย โรคบิด จะถ่ายอุจจาระมีมูกหรือเลือดปน มีไข้ ปวดท้องและมีปวดเบ่งร่วมด้วย โรคไข้ทัยฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย มีอาการสำคัญคือมีไข้ เบื่ออาหาร ท้องผูก เมื่อยเนื้อตัว ปวดศีรษะ
ป้องกันได้โดยล้างมือให้สะอาด เลือกรับประทานอาหาร กำจัดสิ่งปฏิกูล ขยะมูลฝอย เพื่อไม่ให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงวัน แต่หากป่วยจำเป็นต้องดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ รวมทั้งดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส) ด้วย
![](/files/u53765/rat-300x203.jpg)
โรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซิส
เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน มีหนูเป็นตัวแพร่โรคที่สำคัญ เชื้อออกมากับปัสสาวะสัตว์แล้วปนเปื้อนในน้ำท่วมขัง โดยโรคนี้จะติดต่อทางบาดแผล รอยขีดข่วน หรือไชเข้าตามเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผิวหนังที่แช่น้ำนานๆ อาการหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 4 – 10 วัน จะมีไข้สูงทันที ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และศีรษะมาก บางรายมีอาการตาแดง เจ็บคอ เบื่ออาหาร ท้องเดินร่วมด้วย จำเป็นต้องรีบพบแพทย์ มิเช่นนั้นอาจถึงขั้นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตามสามารถป้องกันได้โดยสมรองเท้าบู๊ทยางกันน้ำ ทำความสะอาดที่พักไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของหนู
![](/files/u53765/images__5_.jpg)
ที่มา : http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR3dbiZVXblw7PacXxMhzVfjrfS9VOtJqY2PTcLaqmx3Zv9HFpz7A
โรคไข้เลือดออก
มียุงลายเป็นพาหะพบได้ทุกวัยในทุกพื้นที่ มีอาการไข้สูงตลอดทั้งวัน หน้าแดง เกิดจุดแดงๆ เล็กๆ ตามลำตัว ต่อมาไข้จะลดลง ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะอาจเกิดอาการรุนแรง มีความผิดปกติ เช่น ถ่ายดำ ไอปนเลือด เกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้
ทั้งนี้การรักษาห้ามใช้ยาแอสไพริน และระวังไม่ให้ถูกยุงกัด
![](/files/u53765/images__6_.jpg)
โรคหัด
เป็นโรคไข้ออกผื่นที่พบในเด็ก เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบในฤดูฝน หากมีการแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตได้ สำหรับการติดต่อผ่านทางการไอจาม เชื้อกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย อาการหลังจากได้รับเชื้อ 8 – 12 วัน มีไข้ ตาแดง พบจุดขาวๆ เล็กๆ ในกระพุ้งแก้ม
ป้องกันได้โดยฉีดวัคซีน หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย
![](/files/u53765/images__4_.jpg)
ที่มา : http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTRMZEMoqBGFmsq_7gDeUO9HoIfWIMTdfwILsp0BMViz9cEqHzBEA
โรคไข้มาลาเรีย
ติดต่อโดยยุงก้นปล่องเป็นพาหะนำเชื้อโรค มักพบในพื้นที่ป่าเขามีแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ อาการหลังรับเชื้อ 7 – 10 วัน จะปวดศีรษะ โดยทั่วไปคล้ายไข้หวัด แต่หลังจากนั้นจะหนาวสั่นและไข้สูงตลอดเวลา อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
ป้องกันโดยหลีกเลี่ยงยุงด้วยการทายาหรือสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด
นอกจากโรคที่จะมากับน้ำแล้วก็อยากจะฝากเตือนเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆที่อาจหลุดมาหรือหนีน้ำมาด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นจระเข้หรืองู ขอให้เพื่อนๆทุกคนระวังภัยพวกนี้ไว้ด้วย สุดท้ายนี้ก็อยากจะฝากกำลังใจไปถึงผู้ประสบภัยนะคะ ขอให้เข้มแข็งนะคะสู้ๆไว้ เราจะฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะคะ :)
แหล่งอ้างอิง:
http://www.klanghospital.go.th/index.php/9.html
เนื้อหาข้อมูลสมบูรณ์ดี ภาพประกอบจัดทำได้สวยงาม ทำให้ผู้อ่านสนใจอ่าน
เนื้อหาเยอะ แบ่งเป็นหน้าย่อยจะดีกว่าใหม
อาจจะเพิ่มเติมข้อมูลได้อีก
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
เยี่ยมมม เจ๋งๆๆๆๆ ^^ เลิศๆๆๆๆ
สวยมากมาย ฮิฮิ :)
เนื้อหาน่าสนใจ สะดวกต่อการอ่าน
ตกแต่งสวยมากจ่ะ (:
จัดเรียงเนื้อหาดี บล๊อกมีสาระมากค่ะ
เนื้อหาดีมาก ๆ รูปที่ 2 ขาเรียวเหมือนเจ้าของบล๊อกเลยย (:
อืม ดีจ้ะ แต่จะเพิ่มเติมอีกก็ได้นะจ้ะ
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
สวยงาม น่าอ่าน เข้าใจง่าย ;]
รูปภาพสวยงาม
เนื้อหาก็ครอบคุมดี ^^
สวย เนื้อหาดี ^^
สวยมากเลยค่ะ ทำเรื่องเดียวกันด้วย ฮิฮิ๊ววว :D
ขอบคุณข้อมูล และแนะนำวิธีการป้องกันดีๆนะจ๊ะ >.<
ทำสวยจังค้า55555555555![Cool Cool](/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-cool.gif)