"มหาอุทกภัยไทย ปี 2554" เรื่องโรคที่มากับน้ำท่วม วิธีการป้องกันดูแลตนเอง วิธีการรักษา
![รูปภาพของ sss28123 รูปภาพของ sss28123](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-53772.jpg)
![](/files/u53772/3_1.jpg)
เนื่องจากในปี2554 นี้ได้เกิด "มหาอุทกภัยไทย" นั่นก่คือน้ำท่วมซึ่งมหาอุทกภัยนี้ได้ส่งผลกระทบกับหลายๆคน และสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับภาวะน้ำท่วมเห็นจะเป็นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำซึ่งมันส่งผลต่อสุขภาพของคนเราได้อย่างมากมายจึงขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับโรคที่มากับน้ำท่วมมาฝากกันเพื่อให้ผู้ประสบภัยได้ระมัดระวัง
และปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม 6โรค ดังนี้
1.โรคฉี่หนู ฉี่หนูเป็นโรคระบาดในคนที่ติดต่อมาจากสัตว์
มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ ตั้งแต่หนู วัว ควายไปจนถึงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเลยทีเดียว
โดยคนจะสามารถรับเชื้อฉี่หนูนี้เข้าไปทางบาดแผลหรือผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงเยื่อเมือกอย่างตาและปากอีกด้วย
![](/files/u53772/111.jpg)
อาการของโรคฉี่หนู
มี 2 แบบ
คือแบบไม่รุนแรงจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา ปวดหัว ตัวร้อนปวดเมื่อยกล้ามเนื้อซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากผู้ป่วยรู้ตัวและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
กับอาการรุนแรงที่จะทำให้ตาอักเสบแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้และเมื่อเชื้อเข้าไปอยู่ในสมองจะทำให้เกิดอาการเพ้อ ไม่รู้สึกตัวและยิ่งไปกว่านั้นหากติดเชื้อ
ทั่วร่างกายจะทำให้เลือดออกในร่างกายจนเสียชีวิต
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู
หลีกเลี่ยงการเดินอยู่ในบริเวณน้ำท่วมขัง การเล่นน้ำ โดยเฉพาะในเด็กที่มักจะสนุกสนานไปกับการย่ำน้ำหรือเล่นน้ำในช่วงน้ำท่วมแต่หากจำเป็นต้องเดินผ่านบริเวณน้ำท่วมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบเดิน
อย่าแช่น้ำจนผิวหนังเปื่อยเพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและควรใส่รองเท้าบูททุกครั้งเมื่อเดินลุยน้ำ เพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดบาดแผลที่เท้าและป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บาดแผลที่เท้าหรือน่อง
ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ที่หนีน้ำกัดได้ ส่วนในผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหัวตัวร้อน ให้รีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วนอย่ารอให้อาการหนักเพราะอาจจะรักษาไม่หายและเสียชีวิตก็เป็นได้
อหิวาตกโรค cr : http://pr.prd.go.th/phatthalung/images/article/news40/n20110426191045_469.jpg
2. อหิวาตกโรค
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio Cholerae ที่แพร่กระจายอยู่ในน้ำดื่มและอาหาร โดยมีแมลงวันเป็นพาหะนำโรค
และแน่นอนว่าโรคนี้แพร่ระบาดได้โดยการกินและดื่มอาหารที่มีแมลงวันตอมและมีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่
รวมทั้งอาหารสุข ๆ ดิบ ๆ ด้วย
อาการของโรค
ผู้ป่วยจะอุจจาระเหลวเป็นน้ำวันละหลายครั้ง แต่ไม่เกินวันละ 1 ลิตรอาจมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนได้ซึ่งถือว่าเป็นอาการในระยะแรกสามารถรักษาให้หายได้ภายใน 1-5 วัน
แต่หากติดเชื้อขั้นรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการท้องเดินอุจจาระมากและมีลักษณะอุจจาระเป็นน้ำซาวข้าว มีกลิ่นเหม็นคาวและอุจจาระได้โดยไม่ปวดท้องและไม่รู้สึกตัว
สามารถหายได้ภายใน 2-6วันหากได้รับเกลือแร่และน้ำชดเชยน้ำที่เสียไป แต่หากได้รับไม่พอดีกับที่เสียไปแล้วผู้ป่วยก็จะมีอาการหมดแรง หน้ามืด อาจช็อคถึงเสียชีวิตได้
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันอหิวาตกโรคควรรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ๆ และดื่มน้ำสะอาด เช่น น้ำต้มสุกรวมถึงรักษาสุขภาพอนามัยด้วยการล้างมือ
และภาชนะใส่อาหารให้สะอาดทุกครั้งแต่ไม่ควรนำน้ำท่วมมาล้าง หรือทำความสะอาดภาชนะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นอหิวาตกโรคหรือหากติดเชื้ออหิวา
แล้วก็ควรพบแพทย์และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
3. ไข้ไทฟอยด์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Salmonella Typhi ที่อยู่ในน้ำและอาหารเช่นเดียวกับอหิวาตกโรค
แพร่ระบาดโดยการดื่มน้ำและอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรค
อาการของโรค เมื่อได้รับเชื้อนี้เข้าไปจะไม่แสดงอาการทันที แต่จะแสดงอาการหลังจากรับเชื้อประมาณ1 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว เบื่ออาหาร
มีไข้สูงมาก ท้องร่วงบางรายมีผื่นขึ้นตามตัว แน่นท้อง สามารถหายได้เองภายใน 1 เดือนแต่ผู้ป่วยควรจะพบแพทย์หลังจากมีอาการแล้ว เพราะอาจจะเสียชีวิต
จากภาวะปอดบวมได้
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันไข้ไทฟอยด์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเชื้อโรคทุกชนิดและนั่นหมายถึงว่า ให้ทานอาหารที่สะอาด อยู่ในภาชนะที่สะอาดรวมถึงล้างมือ
ให้สะอาดก่อนทานทุกครั้งและควรจะหลีกเลี่ยงอาหารจากร้านค้าข้างถนนที่อยู่ในบริเวณที่ไม่สะอาดเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรืออีกทางหนึ่งคือฉีดวัคซีนป้องกันไข้ไทฟอยด์
โรคตับอักเสบ cr : http://www.chulakid.com/knowledge/hepatitis.jpg
4. โรคตับอักเสบ เป็นภาวะที่มีการอักเสบของเซลล์ตับ ทำให้ตับทำงานผิดปกติ
จนทำให้มีอาการเจ็บป่วยได้ และไวรัสตับอักเสบที่มาจากภาวะน้ำท่วมก็คือไวรัสตับอักเสบชนิดเอ ที่มีสาเหตุมาจากการทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่ทำให้สุก
อาการของโรคเมื่อแสดงอาการแล้วผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำ ๆ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ปวดตัวแถวชายโครงขวาและมีปัสสาวะเป็นสีชาแก่ เริ่มมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง
ในสัปดาห์แรกและจะหายเป็นปกติภายใน 2-4 สัปดาห์
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตับอักเสบ
คือ ทานอาหารที่สุกและสะอาด ไม่ใช้แก้วน้ำและช้อนร่วมกับผู้อื่น
ตาแดง cr : http://www.chaiyapho.ispace.in.th/bbs/attachment/Mon_1102/9_1_5bcfa74fca36ceb.png
5. ตาแดง เกิดจากเชื้อแบคทีเรีบ ไวรัส Chlamydia
trachomatis และ Bacterial Conjunctivitis
อาจมาจากภูมิแพ้หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา มักเกิดจากการเอามือที่สกปรกไปขยี้หรือสัมผัสดวงตารวมถึงใช้ผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดหน้าไปสัมผัสกับดวงตา
อาการของโรค
ผู้ป่วยจะมีอาการคันตาจนหลายรายต้องขยี้บ่อย หรือบางคนแค่เคืองตาเท่านั้นและมีขี้ตามากกว่าปกติ มีลักษณะเป็นหนองและมีสะเก็ดปิดตาตอนเช้าและมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ตามัว หรืออาจปวดตา
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตาแดง
ควรล้างมือให้สะอาด ไม่ใช่เครื่องสำอาง ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับคนอื่นหลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตาในทุกกรณี และอย่าใช้ยาหยอดตาร่วมกับคนอื่นหากเริ่มเคืองตาหรือคันตา ให้รีบปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์
ไข้เลือดออก cr : http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/newimg/other/yung.jpg
6. ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค
มักพบในเด็ก มักระบาดในฤดูฝน ที่มีการแพร่พันธุ์ของยุงลาย
อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีไข้สูงประมาณ2-7 วัน เบื่ออาหาร อาเจียนออกมามีสีน้ำตาลปนอยู่ ปวดกล้ามเนื้อ ตัวแดงหรืออาจมีผื่นหรือจุดเลือดตามผิวหนัง
หากเข้าสู่ภาวะวิกฤตผู้ป่วยจะไข้ลดมือเท้าเย็น ตัวเย็น ชีพจรเต้นเร็ว อาเจียนมาก ปัสสาวะน้อย ทำให้เข้าสู่ภาวะช็อคได้หากมีอาการควรรีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
การปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคตาแดงพยายามอย่าให้ยุงกัดโดยทากันยุงเป็นวิธีที่ดีที่สุด และอย่าปล่อยให้ภาชนะต่าง ๆภายในบ้านมีน้ำขังนานเพราะจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
หรือหากเป็นไข้เลือดออกแล้วไม่ควรให้ยุงกัดเพราะจะทำให้แพร่เชื้อไปสู่คนใกล้ชิดได้ผ่านยุง