• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:36af0c5c03d44aec9d89af8eef45032b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"color: #000000\"><u><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><b><span style=\"background-color: #ff0000; color: #ffffff\">พิษภัยจากน้ำหอม</span></b> </span></span></span></u></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"background-color: #0000ff; color: #ffffff\">กลิ่นอะไรนะ ? หอมจัง ? เป็นคำพูดที่ใคร ๆ หลายคนมักบอกกับตัวเองเมื่อเวลาเดินผ่านใครบางคน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายที่มีกลิ่นหอม และกลิ่นนั้นจะเป็นกลิ่นอะไรไปไม่ได้นอกจากกลิ่นน้ำหอมที่ใช้เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวคุณ</span> </span></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"background-color: #00ff00\"><span style=\"background-color: #800080; color: #ffffff\"><span style=\"background-color: #ff6600\">ปัจจุบันวัยรุ่นหันมาใส่ใจและดูแลตัวเองกันมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสวยความงาม และการเติมเสน่ห์ให้กับตัวเอง โดยการใช้น้ำหอมที่นิยมกันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยไหนก็ตาม น้ำหอมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดี มีเสน่ห์ และยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากวัยรุ่นส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะนิยมใช้น้ำหอมยี่ห้อที่มีชื่อเสียงขณะที่ยังอยู่ในวัยเรียน จึงส่งผลให้พวกเขาต้องขวนขวายหาเงินจำนวนมากเพื่อนำมาซื้อน้ำหอมราคาแพงและในที่สุดก็ต้องรบกวนพ่อแม่ที่หาเงินส่งลูกแทบตัวเป็นเกลียว</span></span></span> </span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\">น้ำหอมไม่ใช่ว่าจะมีแต่ประโยชน์ แต่โทษของน้ำหอมก็มี อย่างเช่น มีรายงานข่าว จาก สำนักข่าว เอ เอฟ พี จากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ถึงผลการศึกษาของกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เครื่องสำอางชื่อดังที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วโลก มีสารอันตรายเจือปน สามารถทำให้สตรีคลอดลูกออกมาพิการได้ สารอันตรายดังกล่าวมีชื่อว่า “ ฟาทาเลตส์ ” เป็นสารเคมีที่ใช้ละลายผสมในน้ำหอมและเครื่องสำอางเพื่อทำให้น้ำหอมมีกลิ่นติดทนนาน โดยกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้านสุขอนามัยแห่งสหรัฐอเมริกาได้นำผลิตภัณฑ์ความงามที่วางจำหน่ายในตลาดไปทดสอบแล้วพบว่าในน้ำหอมมีสาร “ ฟาทาเลตส์ ” เจือปนอยู่ในผลิตภัณฑ์ถึงร้อยละ 72 ในจำนวนผลิตภัณฑ์ที่นำมาทดสอบพบว่ามีเครื่องสำอางยี่ห้อดังระดับโลกหลายยี่ห้อรวมอยู่ด้วย เอ เอฟ พี ระบุว่า เครื่องสำอางที่ตรวจพบสาร “ ฟาทาเลตส์ ” เช่น น้ำหอมพอยซั่น ของคริสเตียน ดิออร์ นอกจากนี้ ยังพบในเครื่องสำอางยี่ห้อคาลวิน ไคลน์ ( Calvin Klein) , เรฟลอน ( Revlon) และพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หรือ พี แอนด์ จี( Procter :Gamble) ในผลการศึกษาระบุว่า ผลิตภัณฑ์น้ำหอมน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีสาร “ ฟาทาเลตส์ ” อยู่ในปริมาณมาก อาทิ น้ำหอมเรด ดอร์ ( Red door) ของเอลิซาเบธ อาร์เดน โดยพบสาร “ ฟาทาเลตส์ ” ในปริมาณ 28,000 ต่อ 1 ล้านส่วนของปริมาณน้ำหอม<br />\nทางด้านนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยทูเลน ( Tulane University ) เมืองนิวออรีนส์ สหรัฐอเมริกา พบว่ามีน้ำหอมจำนวน 38 ชนิดที่สามารถสร้างปัญหาให้ระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด ( Asthma) โดยน้ำหอมที่สร้างปัญหาให้มากที่สุดคือ ยี่ห้อ Red , Charlie , White , Diamonds , Giorgio , Opium และ Poison นอกจากนี้ยังพบสารเคมีอันตรายชนิดอื่นที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม เช่น “ เอซิโทน( Acetone ) ” น้ำยาไวไฟสูตร C3H6O ใช้เป็นยาละลายสารอื่น ซึ่งเป็น “ คาร์ซิโนเจน ” ( carcinogen ) สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งมักใส่ในน้ำยาล้างเล็บ และ “ เบนซิล เอซิเตต ” ( Benzyl acetate ) เป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งอีกตัวที่สร้างความระคายเคืองให้นัยน์ตาและทำให้หายใจไม่ออก ซึ่งถ้าคุณเคยมีปฏิกิริยาเวลาได้กลิ่นน้ำหอม เช่น จาม เวียนศีรษะ และหายใจไม่ค่อยออก แสดงว่าคุณอาจเป็นโรคหอบหืดหลบใน<br />\nถึงแม้ว่าน้ำหอมจะมีทั้งประโยชน์และโทษควบคู่กัน สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำหอมและต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองก็ยังคงนิยมใช้อยู่ แต่มักจะไม่ค่อยทราบหรือสนใจเกี่ยวกับโทษที่ตามมาของมันสักเท่าไหร่ จะคิดแต่ว่าใช้แล้วให้ผลกับเราอย่างไรมากกว่า ส่วนการใช้น้ำหอมก็ขึ้นอยู่กับการพิจา รณาของแต่ละคนว่าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งเราก็สามารถหลีกเลี่ยงกับน้ำหอมที่มีอันตรายได้ และสามารถที่จะเลือกให้เข้ากับบุคลิก หรือลักษณะนิสัยของตัวเองได้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีกลิ่นหอมประจำตัวกันทั้งนั้น และไม่ว่าน้ำหอมนั้นจะมีราคาถูกหรือแพง จะเป็นหัวน้ำหอมแท้ หรือน้ำหอมที่ได้รับการเจือจางแล้วก็ตาม ก็ต้องจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อเพื่อให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นแล้วเวลาที่ใช้น้ำหอมควรคิดถึงคนรอบข้างด้วย เช่น คำนึงถึงคนรอบตัวที่แพ้น้ำหอม หากเราใช้กลิ่นที่ฉุนหรือใส่ปริมาณมากเกินไป อาจทำให้คนเหล่านั้นเกิดอาการจามเนื่องจากการแพ้ได้</span> </span></span></span></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #000000\"><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\"><span style=\"background-color: #ff6600; color: #000000\"><span style=\"color: #000000\"><span style=\"color: #000000\">                    <b> <span style=\"color: #ffffff\" class=\"Apple-style-span\"> <u>ค้นคว้าและเสนอต่อโดย ด.ช. สิรภพ วงศ์ใหญ่ เลขที่ 12 ห้อง 2/1 โรงเรียนเถินวิทยา ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง 52160</u></span></b></span></span></span></span><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\"></span><u> </u></span>\n</p>\n', created = 1716189472, expire = 1716275872, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:36af0c5c03d44aec9d89af8eef45032b' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

พิษภัยจากน้ำหอม

รูปภาพของ tws19293

พิษภัยจากน้ำหอม

กลิ่นอะไรนะ ? หอมจัง ? เป็นคำพูดที่ใคร ๆ หลายคนมักบอกกับตัวเองเมื่อเวลาเดินผ่านใครบางคน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นทั้งหลายที่มีกลิ่นหอม และกลิ่นนั้นจะเป็นกลิ่นอะไรไปไม่ได้นอกจากกลิ่นน้ำหอมที่ใช้เพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวคุณ

ปัจจุบันวัยรุ่นหันมาใส่ใจและดูแลตัวเองกันมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสวยความงาม และการเติมเสน่ห์ให้กับตัวเอง โดยการใช้น้ำหอมที่นิยมกันอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยไหนก็ตาม น้ำหอมก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการ ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดี มีเสน่ห์ และยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากวัยรุ่นส่วนใหญ่ค่อนข้างที่จะนิยมใช้น้ำหอมยี่ห้อที่มีชื่อเสียงขณะที่ยังอยู่ในวัยเรียน จึงส่งผลให้พวกเขาต้องขวนขวายหาเงินจำนวนมากเพื่อนำมาซื้อน้ำหอมราคาแพงและในที่สุดก็ต้องรบกวนพ่อแม่ที่หาเงินส่งลูกแทบตัวเป็นเกลียว

น้ำหอมไม่ใช่ว่าจะมีแต่ประโยชน์ แต่โทษของน้ำหอมก็มี อย่างเช่น มีรายงานข่าว จาก สำนักข่าว เอ เอฟ พี จากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ถึงผลการศึกษาของกลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เครื่องสำอางชื่อดังที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วโลก มีสารอันตรายเจือปน สามารถทำให้สตรีคลอดลูกออกมาพิการได้ สารอันตรายดังกล่าวมีชื่อว่า “ ฟาทาเลตส์ ” เป็นสารเคมีที่ใช้ละลายผสมในน้ำหอมและเครื่องสำอางเพื่อทำให้น้ำหอมมีกลิ่นติดทนนาน โดยกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้านสุขอนามัยแห่งสหรัฐอเมริกาได้นำผลิตภัณฑ์ความงามที่วางจำหน่ายในตลาดไปทดสอบแล้วพบว่าในน้ำหอมมีสาร “ ฟาทาเลตส์ ” เจือปนอยู่ในผลิตภัณฑ์ถึงร้อยละ 72 ในจำนวนผลิตภัณฑ์ที่นำมาทดสอบพบว่ามีเครื่องสำอางยี่ห้อดังระดับโลกหลายยี่ห้อรวมอยู่ด้วย เอ เอฟ พี ระบุว่า เครื่องสำอางที่ตรวจพบสาร “ ฟาทาเลตส์ ” เช่น น้ำหอมพอยซั่น ของคริสเตียน ดิออร์ นอกจากนี้ ยังพบในเครื่องสำอางยี่ห้อคาลวิน ไคลน์ ( Calvin Klein) , เรฟลอน ( Revlon) และพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล หรือ พี แอนด์ จี( Procter :Gamble) ในผลการศึกษาระบุว่า ผลิตภัณฑ์น้ำหอมน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะมีสาร “ ฟาทาเลตส์ ” อยู่ในปริมาณมาก อาทิ น้ำหอมเรด ดอร์ ( Red door) ของเอลิซาเบธ อาร์เดน โดยพบสาร “ ฟาทาเลตส์ ” ในปริมาณ 28,000 ต่อ 1 ล้านส่วนของปริมาณน้ำหอม
ทางด้านนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยทูเลน ( Tulane University ) เมืองนิวออรีนส์ สหรัฐอเมริกา พบว่ามีน้ำหอมจำนวน 38 ชนิดที่สามารถสร้างปัญหาให้ระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด ( Asthma) โดยน้ำหอมที่สร้างปัญหาให้มากที่สุดคือ ยี่ห้อ Red , Charlie , White , Diamonds , Giorgio , Opium และ Poison นอกจากนี้ยังพบสารเคมีอันตรายชนิดอื่นที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหอม เช่น “ เอซิโทน( Acetone ) ” น้ำยาไวไฟสูตร C3H6O ใช้เป็นยาละลายสารอื่น ซึ่งเป็น “ คาร์ซิโนเจน ” ( carcinogen ) สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งมักใส่ในน้ำยาล้างเล็บ และ “ เบนซิล เอซิเตต ” ( Benzyl acetate ) เป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งอีกตัวที่สร้างความระคายเคืองให้นัยน์ตาและทำให้หายใจไม่ออก ซึ่งถ้าคุณเคยมีปฏิกิริยาเวลาได้กลิ่นน้ำหอม เช่น จาม เวียนศีรษะ และหายใจไม่ค่อยออก แสดงว่าคุณอาจเป็นโรคหอบหืดหลบใน
ถึงแม้ว่าน้ำหอมจะมีทั้งประโยชน์และโทษควบคู่กัน สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำหอมและต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองก็ยังคงนิยมใช้อยู่ แต่มักจะไม่ค่อยทราบหรือสนใจเกี่ยวกับโทษที่ตามมาของมันสักเท่าไหร่ จะคิดแต่ว่าใช้แล้วให้ผลกับเราอย่างไรมากกว่า ส่วนการใช้น้ำหอมก็ขึ้นอยู่กับการพิจา รณาของแต่ละคนว่าชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งเราก็สามารถหลีกเลี่ยงกับน้ำหอมที่มีอันตรายได้ และสามารถที่จะเลือกให้เข้ากับบุคลิก หรือลักษณะนิสัยของตัวเองได้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีกลิ่นหอมประจำตัวกันทั้งนั้น และไม่ว่าน้ำหอมนั้นจะมีราคาถูกหรือแพง จะเป็นหัวน้ำหอมแท้ หรือน้ำหอมที่ได้รับการเจือจางแล้วก็ตาม ก็ต้องจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อเพื่อให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นแล้วเวลาที่ใช้น้ำหอมควรคิดถึงคนรอบข้างด้วย เช่น คำนึงถึงคนรอบตัวที่แพ้น้ำหอม หากเราใช้กลิ่นที่ฉุนหรือใส่ปริมาณมากเกินไป อาจทำให้คนเหล่านั้นเกิดอาการจามเนื่องจากการแพ้ได้

                      ค้นคว้าและเสนอต่อโดย ด.ช. สิรภพ วงศ์ใหญ่ เลขที่ 12 ห้อง 2/1 โรงเรียนเถินวิทยา ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง 52160

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 282 คน กำลังออนไลน์