ความเป็นมา

ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖ กองอนุสภากาชาดสยาม ได้บัญญัติคำว่า "กติกาอนามัย"

ขึ้น จำนวน ๑๒ ข้อ เพื่อเป็นกติกาสำหรับสมาชิกอนุสภากาชาดเป็นแนวทางปฏิบัติให้มีสุขภาพที่ดี          

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนด "สุขบัญญัติ ๑๐ ประการ"           

ขึ้นมาใช้แทน "กติกาอนามัย" ซึ่งถือเป็นเนื้อหาสำคัญในการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษาระดับประถมศึกษา           

และได้มีการปรับปรุงหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช ๒๕๒๑ โดยบูรณาการวิชาสุขศึกษา           

สังคมศึกษา และวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกันเป็น "กลุ่มวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต"           

แล้วจัดเนื้อหาออกเป็นแต่ละหน่วย เริ่มจากหน่วยที่ใกล้ตัวที่สุดแล้วขยายออกไปยังครอบครัว           

ชุมชน สังคมต่อไป ด้วยหลักบูรณาการ (Integration) ดังกล่าว เนื้อหาสุขบัญญัติ ๑๐ ประการ

จึงถูกนำไปประสานกับเนื้อหาของวิชาสังคมศึกษา และวิชาวิทยาศาสตร์ เกิดเป็นคำใหม่ขึ้นคือ "สุขนิสัย"

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจัดประชุมทบทวนเรื่อง

สุขบัญญัติแห่งชาติขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ปัญหาสาธารณสุขที่เปลี่ยนแปลงไป           

อย่างรวดเร็ว จึงได้มีการปฏิรูปสุขบัญญัติแห่งชาติให้ทันสมัยขึ้น และได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ

ประชุมสัมมนา รวมทั้งสิ้น ๑๐ ครั้ง โดยการกำหนดกลวิธีทางสุขศึกษาเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมสุขภาพเด็ก

และเยาวชนทั้งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ที่จะต้องได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมให้มี สุขภาพดี โดยให้สถาบันต่างๆ           

ในสังคม อาทิ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา สถาบันสาธารณสุข           

สถาบันการเมือง และสถาบันสื่อมวลชน ฯลฯ มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ สุขบัญญัติแห่งชาติ           

โดยให้มีเนื้อหาสุขบัญญัติครอบคลุม ๖ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ อนามัยส่วนบุคคล           

อาหารและโภชนาการ การออกกำลังกาย สุขภาพจิต อุบัติภัย และอนามัยสิ่งแวดล้อม

คณะกรรมการสุขศึกษาแห่งชาติ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีจึงได้ร่วมกันพิจารณา

สุขบัญญัติแห่งชาติ  และเห็นสมควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติและประกาศใช้เป็น "สุขบัญญัติแห่งชาติ"

เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำไปเผยแพร่แก่เด็ก

เยาวชน และประชาชนนำไปปฏิบัติ เพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องอันจะเป็น

การนำไปสู่การมีสุขภาพดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคมต่อไป