วิชาวิทยาศาสตร์  

 ชื่อวิทยาศาสตร์ Cycas circinalis L.
วงศ์ Cycadaceae
ชื่ออื่นๆ กา กาเดาะ กูดหลวา แข่ดู่ ทอคลิ บอกะ มะพร้าวเต่าดอย มะพร้าวเต่าหลวง มุ่งมาง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ต้น เปลือกสีน้ำตาล มีรอยแผลใบที่ลำต้น มีเหง้ากึ่งใต้ดิน ใบเป็นใบประกอบ รูปยาว แคบ ปลายใบแหลม ดอกเพศผู้และเพศเมียแยกต้นกันอยู่ ดอกตัวผู้ออก เป็น ช่อที่ปลายยอด มีสปอร์จำนวนมากเรียงรอบแกนกลาง ดอกเพศเมียอกเป็นกาบระหว่างใบ มีไข่อ่อนติดทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 2-4 หน่วย เมล็ดกลมเมื่อแก่จัดสีแดงอมส้ม  

วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ความเป็นพิษ

      ส่วนที่เป็นพิษของปรงได้แก่ ยอดและเมล็ด
     มีรายงานความเป็นพิษหลายรายได้แก่
        ชาวเขมรอพยพที่รับประทานยอดปรง มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียอย่างรุนแรง
       ชาวญี่ปุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในเกาะกวม กินผลซึ่งยังทำไม่สุก ทำให้อาเจียนและมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง จนมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ  นอกเหนือจากนี้ยังพบรายงานว่าคนของกัปต้นคุกกินผลของปรงทำให้เกิดอาการอาเจียนอย่างรุนแรง จากการศึกษาเมล็ดของปรงพบว่ามีสารพิษที่สำคัญคือ Cycasin ซึ่งเป็นสารกลุ่ม Pseudocyanotic glycosside ซึ่งสารพวกนี้เมื่ออยู่ในสภาวะกรดจะสลายตัวให้ เมทานอล ( methanol ) แต่ในสภาวะ ที่เป็นด่างจะสลายตัวให้กรดไฮโดรเจนไซยานิค (HCN) ซึ่งสารทั้ง 2 ที่ได้เป็นสารพิษ ปฎิกิริยาทั้ง 2 นี้จะเกิดในร่างกาย โดยที่สภาวะในกระเพาะจะเป็นกรดและในลำไส้จะมีสภาวะเป็นด่าง เมทานอล ( methanol ) ทำให้เกิดอาการปวดหัว หมุน อาเจียน ปวดท้อง ปวดหลัง หายใจขัด สั่น ตามัว ท้องเสีย ถ้ารับมากๆ อาจทำให้ตาบอด เกิดอาการ acidosis เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง อาจทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนกรดไฮโดรเจนไซยานิค ( HCN ) จะไปทำปฎิกริยากับ Fe+ ใน cytochrome oxidase ทำให้ขัดขวางระบบหายใจ โดยร่างกายไม่สามารถใช้ออกซิเจนได้ ทำให้หายใจถี่ มีอาการชัก และตายโดยที่หยุดหายใจ นอกจากนี้การศึกษา cycasin ในสัตว์ทดลองยังพบว่า cycasin มีพิษต่อตับ และระบบประสาท 

 วิชาสุขศึกษา

การรักษา

      น่าจะรักษาอาการเช่นเดียวกับอาการพิษจาก เมทานอล คือรักษาอาการ acidosis โดยใช้alkali พยายามรักษาระดับ electrolyte และอาหาร และควรกำจัดเมทานอลโดยใช้วิธี hemodialysis หรือ peritoneal dialysis พยายามให้ความอบอุ่นแก่คนไข้ ป้องกันตาไม่ให้ถูกแสง อาจให้ ethanal ซึ่งการรักษาเหล่านี้ต้องทำโดยแพทย์ในโรงพยาบาลเท่านั้น

วิชาคณิตศาสตร์

การปลูกปรงเมื่อยังเล็กจะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องของน้ำ โดยวัสดุทีระบายน้ำดีอย่างมากและทีแร่ธาตุที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต รวมทั้งแสงมี่พอเหมาะสำหรับต้นที่ยังเล็ก ปรงทีต้นยังเล็กนั้นจะไวต่อสภาวะที่ผิดปรกติ เป็นอย่างมาก เช่นให้น้ำมากเกินไปรากจะเน่าและตายในที่สุด ถ้าโดนแดดมากเกินไปหัวก็จะเน่า ปรงเล็กควรอยู่ในที่ร่มรำไร ประมาณ 60% การลดน้ำต้องควบคุมให้พอเหมาะ

วิชาภาษาไทย

มองในสวนล้วนเห็นเป็นต้นไม้
นั่นบัวสายริมบึงนึกให้หวน
ดอกพิกุลร่วงลงหมากคอนวล
กลิ่นรัญจวนชวนข้ามาไหลหลง

ในพนาป่าพงพฤกษศาสตร์
ไม่เคยขาดต้นไทรไผ่ใบตรง
เดินเยี่ยมย่องท่องกันมาเจอต้นปรง
ดูนั่นคงชงโคใหญ่ใบแปลกดี

วิชาศิลปะ

แหล่งที่มาของภาพ http://www.thaiprog.net/webboard/index.php?topic=4434.15

ต้นปรงใช้ตกแต่งสถานที่ต่างๆให้สวยงามและร่มเย็น :) 

วิชาการงานอาชีพ

ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ในการปลูกปรง คือรากเน่า อันเนื่องมาจากผู้ปลูกนั้นไม่เข้าใจในการปลูกอย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงใช้วิธีการปลูกแบบไม้ทั่วไป แต่ลืมไปว่าปรง Encephalartos sp. เป็นปรงจากแอฟริกา ซึ่งลักษณะทางธรรมชาติไม่ได้อยู่ในเขตร้อนชื้น ดังนั้นการปลูกจะต้องควบคุมให้มีสภาพใกล้เคียงให้มากที่สุด และการเร่งให้โตเร็วของผู้ปลูกเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่ทำให้ปรงรากเน่าตายโดยการลดน้ำบ่อยๆ และใช้วัสดุปลูกที่มีอินทรีย์วัสถุสูงเกินไปส่งผลให้กักเก็บความชื้นสูงตามไปด้วยการใช้ภาชนะที่ใหญ่เกินไป จึงควบคุมความชื้นในดินไม่ได้และก็ทำให้รากเน่าในที่สุด การเข้าใจว่าปรงในเขตแอฟริกาชอบแดด จึงนำไปตากแดดตั้งแต่ยังเล็ก แต่แดดในเมืองไทยร้อนมาก ทำให้หัวของปรงเน่าตาย

วิชาอังกฤษ

Cycas is the type genus and the only genus currently recognised in the cycad family Cycadaceae. About 95 species are currently accepted. The best-known species is Cycas revoluta, widely cultivated under the name "Sago Palm" or "King Sago Palm" due to its palm-like appearance although it is not a true palm. The generic name comes from Greek Koikas, and means "a kind of palm".

The genus is native to the Old World, with the species concentrated around the equatorial regions. It is native to eastern and southeastern Asia including the Philippines with 10 species (9 of which are endemic), eastern Africa (including Madagascar), northern Australia, Polynesia, and Micronesia. Australia has 26 species, while the Indo-Chinese area has about 30. The northernmost species (C. revoluta) is found at 31°N in southern Japan. The southernmost (C. megacarpa) is found at 26°S in southeast Queensland, Australia.

The plants are dioecious, and the family Cycadaceae is unique among the cycads in not forming seed cones on female plants, but rather a group of leaf-like structures each with seeds on the lower margins, and pollen cones on male individuals.

Cycas is the type genus and the only genus currently recognised in the cycad family Cycadaceae. About 95 species are currently accepted. The best-known species is Cycas revoluta, widely cultivated under the name "Sago Palm" or "King Sago Palm" due to its palm-like appearance although it is not a true palm. The generic name comes from Greek Koikas, and means "a kind of palm".

The genus is native to the Old World, with the species concentrated around the equatorial regions. It is native to eastern and southeastern Asia including the Philippines with 10 species (9 of which are endemic), eastern Africa (including Madagascar), northern Australia, Polynesia, and Micronesia. Australia has 26 species, while the Indo-Chinese area has about 30. The northernmost species (C. revoluta) is found at 31°N in southern Japan. The southernmost (C. megacarpa) is found at 26°S in southeast Queensland, Australia.

The plants are dioecious, and the family Cycadaceae is unique among the cycads in not forming seed cones on female plants, but rather a group of leaf-like structures each with seeds on the lower margins, and pollen cones on male individuals.