เนื้อเรื่อง กัณฑ์มัทรี ภิกฺขเว ดูกรภิกษุสงฆ์ผู้ทรงสุทธิสิกขา เมื่อสมเด็จพระมัทรีเธอได้สมปฤาดีคืนมา นางพระยาเจ้าละอายแก่เทพดานัก ด้วยตัวมานอนอยู่บนตักพระราชสามีมิบังควร อุฏฺฐาย จึงอุฏฐาการโดยด่วนเลื่อนพระองค์ลงจากตักพระราชสามี พระมัทรีจึงทูลถามว่าพระพุทธเจ้าข้า พระลูกรักทั้งสองราไปอยู่ไหนนะฝ่าพระบาท ท้าวเธอจึ่งตรัสประภาษว่าดูกรเจ้ามัทรี อันสองกุมารนี้พี่ให้เป็นทานแก่พราหมณ์แต่วันวานนี้แล้ว พระน้องแก้วเจ้าอย่าโศกศัลย์ จงตั้งจิตของเจ้านั้นให้โสมนัสศรัทธา ในทางอันก่อกฤดาภินิหารทานบารมี ลจฺฉาม ปุตฺเต ชีวนฺตา ถ้าเราทั้งสองนี้ยังมีชีวิตสืบไป อันสองกุมารนี้ไซร้ก็คงจะได้พบกันเป็นมั่นแม่น ถึงแสนสัตพิธรัตน์เครื่องอลงการซึ่งพระราชทานไปนั้นเราก็จะได้ด้วยพระหทัยหวัง ทชฺชา สปฺปุริโส ทานํ มัทรีเอ่ย อันอริยสัตบุรุษเห็นปานดั่งตัวพี่ฉะนี้ ถึงจะมีข้าวของสักเท่าใดๆ ทิสฺวา ยาจกมาคเต ถ้าเห็นยาจกเข้ามาใกล้ไหว้วอนขอไม่ย่อท้อในทางทาน จนแต่ชั้นลูกรักยอดสงสารพี่ยังยกให้เป็นทานได้ อันสองกุมารนี้ไซร้เป็นแต่ทานพาหิรกะภายนอกไม่อิ่มหนำ พี่จะใคร่ให้อัชฌัติกทานอีกนะเจ้ามัทรี ถ้าแม้นมีบุคคลผู้ใดปรารถนาเนื้อหนังมังสังโลหิตดวงหทัยนัยนเนตรทั้งซ้ายขวา พี่ก็จะแหวะผ่าให้เป็นทานไม่ย่อท้อถึงเพียงนี้ มัทรีเอ่ย จงศรัทธาด้วยช่วยอนุโมทนาทานในกาลบัดนี้เถิด สมเด็จพระมัทรีทูลสนองพระโองการว่า พระพุทธเจ้าข้า แต่วันวานนี้เหตุไฉนจึ่งไม่แจ้งยุบลสารให้ทราบเกล้า ท้าวเธอจึ่งตรัสเล่าว่าพระน้องเอ่ยพี่จะเล่าให้เจ้าฟังก็สุดใจด้วยเจ้ามาแต่ป่าไกลยังเหนื่อยนัก พี่เห็นว่าความร้อนความรักจะรุกอก ด้วยสองดรุณทารกเป็นเพื่อนไร้ เจ้ามัทรีเอ่ย จงผ่องใสอย่าสอดแคล้ว อันสองพระลูกแก้วไปไกลเนตร พระนางจึ่งตรัสว่า พระพุทธเจ้าข้าอันสองกุมารนี้ เกล้ากระหม่อมฉานได้อุตสาหะถนอมย่อมพยาบาลบำรุงมา ขออนุโมทนาด้วยปิยบุตรทานบารมี ขอให้น้ำพระหฤทัยพระองค์จงผ่องแผ้วอย่ามีมัจฉริยธรรมอกุศล อย่ามาปะปนในน้ำพระทัยของพระองค์เลย ท้าวเธอจึ่งตรัสว่าพระน้องเอ่ยถ้าพี่มิได้ให้ด้วยเลื่อมใสศรัทธาแท้แล้ว ที่ไหนเลยแผ่นดินดานจะกัมปนาทหวาดหวั่นไหวจลาจล ท้าวเธอเล่านุสนธิ์มหัศจรรย์ อันมีอยู่ในกัณฑ์กุมารบรรพ กลับมาเล่าให้พระมัทรีฟังแต่ในกาลหนหลังนี้แล้วแล สา มทฺที ส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรบวรราชธิดามหาสมมุติวงศ์วิสุทธิสืบสันดานมา วราโรหา ทรงพระพักตร์ผิวผ่องดุจเนื้อทองไม่เทียมสี ยสสฺสินี มีพระเกียรติยศอันโอฬารล้ำเลิศวิไลลักษณ์ยอดกษัตริย์ อันทรงพระศรัทธาโสมนัสนบนิ้วประนมน้อมพระเศียรเคารพทาน ท้าวเธอก็ชื่นบานบริสุทธิ์ด้วยปิยบุตรมิ่งมกุฎทานอันพิเศษ ฝ่ายฝูงอมรเทเวศทุกวิมานมาศมนเทียรทุกหมู่ไม้ก็ยิ้มแย้มพระโอษฐ์ตบพระหัตถ์อยู่ฉาดฉาน ร้องสาธุการสรรเสริญเจริญทานบารมี ทั้งสมเด็จอมรินทร์เจ้าฟ้าสุราลัยอันเป็นใหญ่ในดาวดึงส์สวรรค์ก็มาโปรยปรายทิพยบุปผากรอง ทั้งพวงแก้วและพวงทองก็โรยร่วงจากกลับเมฆกระทำสักการบูชาแก่สมเด็จนางพระยามัทรี ท้าวเธอทรงกระทำอนุโมทนาทาน เวสฺสนฺตรสูส แห่งพระเวสสันดรราชฤาษีผู้เป็นพระภัสดา อิติ เมาะ อิมินา ปกาเรน ด้วยประการดังนี้แล้วแลคำแปล ฝ่ายพระนางมัทรีก็ทรงได้สติขึ้นมา แล้วเคลื่อนพระองค์ลงจากพระเพลาขึ้นถวายบังคมทูลถามว่า พระเจ้าลูกทั้งสองอยู่ที่ไหนพระเจ้าข้า ฯ ก็แลนับแต่พระเวสสันดรได้ทรงบรรพชามาถึง ๗ เดือนแล้ว ยังไม่เคยแตะต้องพระกายของพระนางเลย เพิ่งได้มาแตะต้องในคราวนี้ด้วยความเศร้าโศกอันแรงกล้าเท่านั้น ครั้นพระนางมัทรีทูลถามถึงพระลูกทั้งสอง จึงตรัสตอบว่า ดูก่อนมัทรี พระเจ้าลูกทั้งสองนั้นเราได้ให้แก่พราหมณ์ชราไปเสียแต่วานนี้แล้ว ขอเจ้าจงทรงอนุโมทนาต่อทานบารมีของเราเถิด พระนางมัทรีกราบทูลว่า สัตบุรุษ เมื่อต้องการประโยชน์สูงสุด พึงผ่าอกควักเนื้อหัวใจให้เป็นทาน. มัทรี พี่เป็นคนที่มีคุณธรรมอันประเสริฐ ต่อให้มีสิ่งของมากมาย หากเห็นยาจกมาไหว้วานขอพี่ก็จะให้ แม้แต่ลูกรักพี่ก็ให้ได้ เด็กทั้งสองเป็นเพียงทานภายนอกยังไม่พอ แม้แต่ทานภายในคือเลือดเนื้อ อวัยวะพี่ยังให้ได้นะมัทรี หากมีใครต้องการเนื้อ เลือด หัวใจ ดวงตาทั้งซ้ายขวา พี่ก็จะผ่าควักออกมาให้ได้ ตอนนี้เจ้าจงช่วยอนุโมทนาทานเถิดนะมัทรีพระนางมัทรีพูดกับพระเวสสันดรว่า เหตุใดพระเวสสันดรจึงไม่บอกเรื่องนี้แก่นางแต่แรก พระนางมัทรีกลับมาจกป่าเหนื่อยมาก พระเวสสันดรเห็นว่า ความรักความห่วงใยของนางมัทรีร้อนรนจนล้นอก เพราะไม่มีลูกทั้งสองคนอยู่ เจ้ามัทรีอย่าได้กังวลเลย ลูกทั้งสองคนหายไปไกลตาแล้ว มัทรีจึงถามว่าลูกสองคนนี้อุตส่าห์เลี้ยงดูมาอย่างดี ขอทำบุญด้วยบุตรทาน ขอให้น้ำใจของพระเวสสันดรดี อย่ามีอกุศลตระหนี่มาปนกับน้ำใจของพระเวสสันดรเลย พระเวสสันดรจึงพูดว่าน้องกลัวพี่ไม่มีความน่านับถือ แผ่นดินคงจะพินาท วุ่นวายสุดท้ายพระเวสสันดรเล่าความเป็นมาที่จริงว่าลูกทั้งสองได้ยกให้ชูชกซึ่งมาเล่าความจริงให้ฟังภายหลัง ส่วนพระนางมัทรีที่เป็นราชธิดามหาสมมุติวงศ์วิสุทธิ ได้สืบเชื้อสายมา มีใบหน้าที่ผุดผ่อง สีเหมือนเนื้อทอง มีเกียรติยศใหญ่โตอันล้ำเลิศเหมือนกษัตริย์ มีความศรัทธาปราบปลื้มเคารพนับถือ พระนางมัทรีชื่นบานบริสุทธิ์ด้วยทานกุศลอันพิเศษ ฝ่ายเทวดานางฟ้าทุกวิมานต่างก็ยิ้มแย้มตบมืออยู่มากมายร้องชื่นชม สรรเสริญเมื่อเห็นว่าการเจริญทานบารมีนั้นสมควรดีแล้วทั้งพระอินทร์ที่เป็นหัวหน้าอันใหญ่สุดบนสวรรค์ ก็มาโปรยปรายทั้งพวงแก้วและพวงทองร่วงโรยจากกลีบเมฆเพื่อทำการสักการะบูชาแก่พระนางมัทรี ผู้ทรงทำอนุโมทนาทานแก่พระเวสสันดรผู้เป็นสามรด้วยทุกประการ