ให้นักเรียนย่อบทที่3เรื่องหลักธรรมทางพุทธศาสนา
๑. พระรัตนตรัย พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบสำคัญ ๓ ประกอบ คือ พระรัตนตรัย ซึ่งแปลว่า แก้วอันประเสริฐ ๓ดวง อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระพุทธ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ซึ่งเป็นศาสดาของศาสนา ที่ว่าเป็นศาสดาก็หมายความว่า เป็นผู้ทรงค้นพบสัจธรรมโดยการตรัสรู้เองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม
พระธรรม หมายถึง คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์และคำสั่งสอนให้มนุษย์ประพฤติดีต่อกัน
พระสงฆ์ หมายถึง หมู่สาวกที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าและเผยแผ่คำสั่งสอนคนทั่วไป
๒. อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ อันเป็นหลักธรรมคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา มีดังนี้
๒.๑ ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู้) ทุกข์ คือ ความจริงว่าด้วยความทุกข์ ณ ที่นี้จะกล่าวถึงขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ควรรู้ความจริงของการเกิดทุกข์
๑) ขันธ์ ๕ คือ องค์ประกอบของชีวิตมี ๕ประการ ดังนี้
๑.๑) รูป คือ ส่วนที่ร่างการ รวมถึงพฤติกรรมทั้งหมดของ
ร่างกายด้วย
๑.๒) เวทนา คือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อสิ่งที่รับรู้นั้น
๑.๓) สัญญา คือ การกำหนดหมายรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น รูป รส
กลิ่น เสียง และ อารมณ์
๑.๔) สังขาร คือ สิ่งที่ปรุงแต่งจิตหรือพูดให้เข้าง่าย
๑.๕) วิญญาณ คือการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง
๒) อายนะ คือ จุดเชื่อมต่อระหว่างขันธ์ ๕ กับสิ่งที่อยู่ภายนอก
ตัวเรา อายตนะจัดเป็นองค์ประกอบของวิญญาณ คือ การรับรู้ กล่าวคือ ในการรับรู้ต้องมีขันธ์ ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้นกาย และใจ
๒.๒ สมุทัย (ธรรมที่ควรละ)
สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ เพราะอวิชา ผู้คนจึงไม่สามารถเห็นความจริงของชีวิต พวกเขาตกอยู่ในเปลวเพลิงแห่งตัณหา ความโกรธ ความอิจฉาริษยา ความเศร้าโศก ความวิตกกังวล ความกลัว และความผิดหวัง
อบายยมุข ๖ คือ ทางแห่งความเสื่อม เป็นสิ่งที่เราควรละมี ๖ประการดังนี้
๑. ติดสุราและของมึนเมา
๒. ชอบเที่ยวกลางคืน
๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น
๔. ติดการพนัน
๕.คบคนชั่วเป็นมิตร
๖. เกรียจคร้านการงาน
๒.๓ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ)
นิโรธ คือ ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตนำไปสู่การดับความเศร้า โศกทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน
๒.๔ มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ)
มรรค คือ หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันได้แก่ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อ เลี้ยงด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติความมีสตินำไปสู่สมาธิและปัญญาซึ่งจะปลดปล่อย ให้พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวลอันจะนำไปสู่ความศานติและ ความเบิกบาน พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตานำทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้
๑) บุพพนิมิตของมัชฌิมาปิปทา คือ ทางดับทุกข์ เรียกว่า มรรคมีองค์แปด
๒)ครุณธรรม ๖ คือเด็กหรือผู้เยาว์ เด็กนั้นยังมีอนาคตอันยาวไกลคสรจะมีหลักธรรมที่เป็นทางไปสู่คาวมเจริญก้าวหน้า
๓) กุลจิรัฏฐิตอธรรม ๔ คือ ธรรมะหมวดนี้ เป็นธรรมะสำหรับทำให้ครอบครัวหรือชาติตระกูลตั้งมั่นอยู่ได้นานไม่เสื่อมสลาย
๔) กุศลกรรมบถ ๑o คำว่า "กุศล" แปลว่า สิ่งที่ดีที่ชอบ หมายถึงทางแห่งการกระทำของผู้ฉลาดหรือผู้ดี เพื่อก่อให้เกิดความดีและความถูกต้อง
๕) สติปัฏฐาน ๔ หมายถึง ที่ตั้งของสติ สมมาสติ (หรือสติที่ชอบ)เป็นองมรรคข้อหนึ่งในมรรคมีองค์แปด สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสติ คือ ความประมาท
๖)มงคล ๓๘ คือสิ่งที่ทำให้เกิดความดีงาม เป็นธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
๑.ประพฤติธรรม
๒.เว้นความชั่ว
๓.เว้นการดื่มน้ำเมา
๑. พระรัตนตรัย พระพุทธศาสนามีองค์ประกอบสำคัญ ๓ ประกอบ คือ พระรัตนตรัย ซึ่งแปลว่า แก้วอันประเสริฐ ๓ดวง อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระพุทธ หมายถึง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ซึ่งเป็นศาสดาของศาสนา ที่ว่าเป็นศาสดาก็หมายความว่า เป็นผู้ทรงค้นพบสัจธรรมโดยการตรัสรู้เองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม
พระธรรม หมายถึง คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งเป็นคำอธิบายเกี่ยวกับความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์และคำสั่งสอนให้มนุษย์ประพฤติดีต่อกัน
พระสงฆ์ หมายถึง หมู่สาวกที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าและเผยแผ่คำสั่งสอนคนทั่วไป
๒. อริยสัจ ๔ อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการ อันเป็นหลักธรรมคำสอนสำคัญของพระพุทธศาสนา มีดังนี้
๒.๑ ทุกข์ (ธรรมที่ควรรู้) ทุกข์ คือ ความจริงว่าด้วยความทุกข์ ณ ที่นี้จะกล่าวถึงขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ควรรู้ความจริงของการเกิดทุกข์
๑) ขันธ์ ๕ คือ องค์ประกอบของชีวิตมี ๕ประการ ดังนี้
๑.๑) รูป คือ ส่วนที่ร่างการ รวมถึงพฤติกรรมทั้งหมดของ
ร่างกายด้วย
๑.๒) เวทนา คือ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อสิ่งที่รับรู้นั้น
๑.๓) สัญญา คือ การกำหนดหมายรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น รูป รส
กลิ่น เสียง และ อารมณ์
๑.๔) สังขาร คือ สิ่งที่ปรุงแต่งจิตหรือพูดให้เข้าง่าย
๑.๕) วิญญาณ คือการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง
๒) อายนะ คือ จุดเชื่อมต่อระหว่างขันธ์ ๕ กับสิ่งที่อยู่ภายนอก
ตัวเรา อายตนะจัดเป็นองค์ประกอบของวิญญาณ คือ การรับรู้ กล่าวคือ ในการรับรู้ต้องมีขันธ์ ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้นกาย และใจ
๒.๒ สมุทัย (ธรรมที่ควรละ)
สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ เพราะอวิชา ผู้คนจึงไม่สามารถเห็นความจริงของชีวิต พวกเขาตกอยู่ในเปลวเพลิงแห่งตัณหา ความโกรธ ความอิจฉาริษยา ความเศร้าโศก ความวิตกกังวล ความกลัว และความผิดหวัง
อบายยมุข ๖ คือ ทางแห่งความเสื่อม เป็นสิ่งที่เราควรละมี ๖ประการดังนี้
๑. ติดสุราและของมึนเมา
๒. ชอบเที่ยวกลางคืน
๓. ชอบเที่ยวดูการละเล่น
๔. ติดการพนัน
๕.คบคนชั่วเป็นมิตร
๖. เกรียจคร้านการงาน
๒.๓ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรลุ)
นิโรธ คือ ความดับทุกข์ การเข้าใจความจริงของชีวิตนำไปสู่การดับความเศร้า โศกทั้งมวล อันยังให้เกิดความสงบและความเบิกบาน
๒.๔ มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ)
มรรค คือ หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันได้แก่ อริยมรรค 8 ซึ่งได้รับการหล่อ เลี้ยงด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติความมีสตินำไปสู่สมาธิและปัญญาซึ่งจะปลดปล่อย ให้พ้นจากความทุกข์และความโศกเศร้าทั้งมวลอันจะนำไปสู่ความศานติและ ความเบิกบาน พระพุทธองค์ได้ทรงเมตตานำทางพวกเราไปตามหนทางแห่งความรู้แจ้งนี้
๑) บุพพนิมิตของมัชฌิมาปิปทา คือ ทางดับทุกข์ เรียกว่า มรรคมีองค์แปด
๒)ครุณธรรม ๖ คือเด็กหรือผู้เยาว์ เด็กนั้นยังมีอนาคตอันยาวไกลคสรจะมีหลักธรรมที่เป็นทางไปสู่คาวมเจริญก้าวหน้า
๓) กุลจิรัฏฐิตอธรรม ๔ คือ ธรรมะหมวดนี้ เป็นธรรมะสำหรับทำให้ครอบครัวหรือชาติตระกูลตั้งมั่นอยู่ได้นานไม่เสื่อมสลาย
๔) กุศลกรรมบถ ๑o คำว่า "กุศล" แปลว่า สิ่งที่ดีที่ชอบ หมายถึงทางแห่งการกระทำของผู้ฉลาดหรือผู้ดี เพื่อก่อให้เกิดความดีและความถูกต้อง
๕) สติปัฏฐาน ๔ หมายถึง ที่ตั้งของสติ สมมาสติ (หรือสติที่ชอบ)เป็นองมรรคข้อหนึ่งในมรรคมีองค์แปด สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสติ คือ ความประมาท
๖)มงคล ๓๘ คือสิ่งที่ทำให้เกิดความดีงาม เป็นธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
๑.ประพฤติธรรม
๒.เว้นความชั่ว
๓.เว้นการดื่มน้ำเมา