หลายคนคงเคยสงสัยเวลาทาน ยาแคปซูล ที่ทานเข้าไปมันพลาสติกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงไม่เป็นอันตราย วันนี้มีคำตอบมาเฉลย

ให้คลายความสงสัยกัน

 ที่มาภาพ : http://img.kapook.com/image/health/medicine_capsule.jpg

     แคปซูล จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือส่วนของตัวยา และเปลือกหรือปลอกแคปซูลที่ใช้บรรจุยา ซึ่งเปลือกหรือปลอกแคปซูลนั้น

ส่วนใหญ่แล้วทำมาจากเจลาตินและน้ำ โดยวิธีการผลิตนั้นทำโดยการแปรรูปคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวหนังและกระดูกสัตว์ เช่น วัว หมู โดย

เปลือกนี้จะสามารถละลายได้ที่อุณหภูมิของร่างกายของเราแคปซูลยาแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.แบบแข็ง และ 2.แบบนิ่ม ทั้งสองชนิด

นี้มีความแตกต่างกันที่วิธีผลิต คือ

     1.แคปซูลชนิดแข็ง มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ตัวแคปซูลและฝาปิด เมื่อบรรจุยาแล้วถึงนำมาเชื่อมต่อกัน พบมากในประเภท

ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ สีสันจี๊ดจ๊าดทั้งหลาย) เวลาผลิตจะผลิตเปลือกและบรรจุยาไปพร้อมกัน

รูปยาแคปซูลชนิดแข็ง

ที่มาภาพ : http://www.dailynews.co.th/content/images/1105/29/capsule.jpg

     2.แคปซูลแบบนิ่ม เวลาผลิตจะผลิตเปลือกและบรรจุยาไปพร้อมกัน ใช้ในกรณีที่ตัวยาไวต่ออากาศและแสงอย่างมาก เช่น

พวกน้ำมันตับปลาและวิตามินต่าง ๆ (แคปซูลแบบนี้จะไม่สามารถแกะออกมาได้เหมือนแคปซูลชนิดแข็ง) ซึ่งตามมาตรฐานแล้วมีอยู่ 8 ขนาด

รูปยาแคปซูลชนิดนิ่ม

ที่มาภาพ : http://www.bloggang.com/data/pimpagee/picture/1224979604.jpg

     หน้าที่ของปลอกแคปซูล ก็คือเป็นภาชนะบรรจุยา แล้วนำไปส่งที่ลำไล้เล็กเพื่อดูดซึมเอาไปใช้งาน โดยยาที่จำเป็นต้องบรรจุใน

แคปซูลนั้น พิจารณามาจากเหตุผล คือ ต้องการกลบกลิ่นและรสที่ไม่ดีของยานั้น และยังสามารถใช้ระบุเอกลักษณ์ของยา แยกชนิดโดยใช้

สี ซึ่งยาเม็ดทั่วไปมีข้อจำกัดไม่สามารถทำได้ ทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่สั้นและง่ายกว่ายาเม็ด ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องแรงอัดและความร้อนที่

ใช้ในการผลิต ซึ่งเหมาะสำหรับยาที่ไม่ทนต่อความร้อน

    แคปซูลยาจากเจลาตินยังมีข้อจำกัดในการเก็บรักษาในด้านความเปราะเมื่อเก็บไว้ในสภาพที่มีความชื้นต่ำ หรือบรรจุตัวยาที่มีคุณสมบัติใน

ด้านการดูดน้ำที่ดี ( hygroscopic) นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อจากโรควัวบ้า รวมทั้งเกิดปัญหาในการรักษาผู้ป่วย

ที่เป็นชาวมุสลิม ดังนั้น จึงมีคนคิดค้นแคปซูลยาที่ผลิตจากแป้งข้าวบริสุทธิ์มาเพื่อใช้ทดแทน

 ที่มา : http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=73eab4ee3f0f572e

          http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cartoonthai&month=01-06-2011&group=29&gblog=111

          http://u-rass.blogspot.com/2011/06/blog-post_4991.html

          http://youtu.be/w9b123I7oQ0