การตด
![รูปภาพของ sss28281 รูปภาพของ sss28281](http://202.44.68.33/files/profilepic/picture-473.jpg)
การตด
ที่มาภาพ http://www.numsai.com/picture/machine/38e2c70e3967d3a6f599559481b3aa5e_1.jpg
ที่มาของข้อมูล http://youtu.be/lTUzqwaOZQg
ข้อเขียนของ ดร.สาทิส อินทรกำแหง ซึ่งเขียนประจำทุกสัปดาห์ ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
อาหารประเภทหนึ่ง ซึ่งฝรั่งเรียกกันว่ากลุ่ม “ถั่วพายุ” (WINDY PULSES) ตัวอย่างก็เช่น ถั่วแห้งต่างๆ กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ หัวหอม และแถมด้วยอาหารประเภทอื่นๆ แอปเปิ้ลดิบ ขนมปังสด ช็อกโกแลต กาแฟ แตงกวา อาหารทอด ผักกาดแก้ว ขนมหวานเมอแรงก์ ถั่วลิสง ไช้เท้า และครีม (นม)เป็นต้น ถือว่าเป็นพวก “ถั่วพายุ” คือกินแล้วทำให้เกิดพายุในท้อง
นอกจากนั้นยังมีพวกอาหารประเภทแป้งขาวผสมน้ำตาล (ขนม) หรือถ้าขนมพวกนี้ผสมกับพวกโปรตีนเข้าด้วย อย่างเช่น ไข่หวาน อย่างนี้ละก็เกิดเรื่อง “ลม” ใหญ่แน่ๆ เฉพาะพวกโปรตีนจากพืชนั้น (ถั่วต่างๆ ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์ เป็นต้น) ส่วนมากไม่ย่อยในกระเพาะ
แต่จะไปย่อยในลำไส้เล็ก เมื่ออาหารประเภทถั่วเคลื่อนเข้าสู่สำไส้เล็ก น้ำย่อยจากตับ (น้ำดี) และน้ำย่อยจากตับอ่อนจะต้องถูกขับเพื่อไปย่อยถั่วเหล่านี้ ถ้าน้ำดีและน้ำย่อยจากตับอ่อนมีน้อยหรือถูกขับออกไปช้า พวกถั่วก็จะย่อยไม่หมด เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ส่วนปลายลำไส้ หรือเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ก็จะเป็นกากอาหารซึ่งไม่ย่อยอีกต่อไปแล้ว คราวนี้แหละครับ “ลม” ที่ออกมาจะเป็นลักษณะที่ชอบเรียกกันว่า “ไม่เด็ดปีก” สมมติว่า
คุณหนูกำลังกระมิดกระเมี้ยนเพราะ “อั้น” ไม่ไหวอยู่บนรถโดยสารใต้ดิน โอ้โฮ ทั้งเสียงทั้งกลิ่น เห็นจะน่าดูทีเดียวแหละครับ
คงเข้าใจนะครับว่า ทำไมกินถั่วเข้าไปหน่อยเดียว แต่เสียงระเบิดมันถึงได้ระเบิดออกมา ยังกับกลองยาวผสมกับกลองเพลได้ขนาดนั้น
พอมาถึงตอนนี้
“ตด” ออกเป็นสองภาค ภาคแรกคือ “ตด” ธรรมดา หมายถึง “ลม”
ในท้องซึ่งจะต้องเกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดา เมื่อเกิดขึ้นในท้องโดยเฉพาะในกระเพาะ เราก็จะ “เรอ” ออกมา หมายความว่า ถ้าเกิดลมตอนแรกๆ ลมที่ถูกขับออกมา จะเป็น “เรอ” เสียมากกว่า “ตด” แต่ถ้าคุณกินอาหารอย่างเร็วและรีบ อาหารที่ผ่านกระเพาะลงไปถึงส่วนต้นของลำไส้ เล็ก ซึ่งส่วนมากจะเป็นโปรตีนและไขมัน จะต้องถูกย่อยที่ลำไส้ เล็กนี้ ถ้าโปรตีนและไขมันมีน้อยและน้ำย่อยจากตับใหญ่ (น้ำดี)และจากตับอ่อนมีมาก การย่อยตอนนี้จะทำได้ดีมาก อาหารจะย่อยได้หมด และลมก็จะไม่มีในท้องท้องไส้ของคุณก็จะสบาย แต่การที่คุณรีบกิน ส่วนมากจะไม่ค่อยได้ เคี้ยวอย่างละเอียด ไม่ว่าน้ำย่อยในลำไส้เล็กจะมีมากเพียงไรอาหารหรือ สารอาหารประเภทโปรตีนและไขมันก็จะย่อยไม่ทันอยู่ดี ตอนนี้แหละที่ “ลม” จะต้องเกิดขึ้นและการที่มี “ตด” ออกมาบ้าง ไม่ว่าจะกระมิดกระเมี้ยน หรือปล่อยออกมาอย่างตั้งใจก็ตาม การ “ตด” แบบนี้พอจะถือได้ว่าเป็นเรื่อง “ปกติ”
ภาคที่สองของ “ตด” กันแล้ว ภาคสองนี้ก็คือ “ตดร้าย”
“ตดร้าย” นี้คือตดที่มีทั้งกลิ่นและเสียง แถมยังมีการทรมานผู้ปล่อยเสียงและ กลิ่นออกมาอย่างทารุณด้วย ทรมานอย่างไรหรือ นอกจากเสียงและกลิ่นแล้ว เจ้าตัวยังต้องทำเหมือนสมาธิ ยุบหนอพอง หนออยู่ตลอดเวลานั่นก็คือ ตดบ่อย ซ้ำๆซากๆ เหมือนกับมีระเบิดติดบั้นท้ายเป็น สัญลักษณ์ประจำตัวอยู่ อย่างนั้นแหละและที่สำคัญก็คือ เจ้าตัวจะมีอาการจุกเสียด หายใจไม่ค่อยออก และที่หนักหนาก็คือ อาการปวดคลื่นไส้อาเจียน โดยเฉพาะตอนจะถ่ายท้องจะมีอาการปวดจนน้ำตาไหลถ้าอย่างนี้ “ตดร้าย” กลายเป็นเรื่องร้ายแรงแล้วนะครับ ไม่ใช่ “ตดกระมิดกระเมี้ยน” หรือ “ตดตลก”อีกต่อไป คุณต้องไปหาหมอเสียแล้ว "ตด” ธรรมดาช่วยให้ตายอย่างมีความสุข แต่ถ้า “ตดร้าย” อย่างนี้เป็นเรื่องผิดปกติ
และความเป็นไปของร่างกายและชีวิตก็จะผิดปกติ แปลว่า คุณป่วยแล้ว ต้องรีบแก้ไขด่วน “ตดร้าย” เป็นสิ่งที่คุณทำขึ้นมาเองและสร้างขึ้นมาเอง ตายก็จะตายอย่างมีความทุกข์
ดีจ้า
ขอมอบปลาให้ไปเลี้ยงนะจ้ะ
ที่มาของภาพ http://2.bp.blogspot.com/_7rUu3IhNi9I/TLR00C2uJRI/AAAAAAAABfY/P6v3yNeL54g/s1600/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A11.jpg
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน
จัดข้อความให้สวยงามด้วย
ให้อ้างอิงแหล่งที่มาของภาพไว้ที่ใต้ภาพด้วย
ขอมอบปลาให้ไปเลี้ยงนะจ้ะ
ที่มาของภาพ http://upload.tarad.com/images2/59/bd/59bdfb00cace09c128ce3131668942ae.jpg
ครูพูนศักดิ์ สักกทัตติยกุล
ทำด้วยใจ ไปด้วยฝัน