ความหมายของการประกอบธุรกิจ
การประกอบธุรกิจ
(Business Activities) หมายรวมถึง กระบวนการประกอบการผลิตกระบวนการประกอบการจำหน่าย
กระบวนการประกอบการบริหาร เพื่อให้ได้ถึงมือผู้บริโภค
การจำแนกประเภทของการประกอบธุรกิจตามลักษณะของกิจกรรม
สามารถแบ่งได้เป็น
5 ลักษณะคือ
1. ธุรกิจที่จัดหาวัตถุดิบสำหรับป้อนโรงงานหรือแหล่งผลิต
เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร
2. ธุรกิจที่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นวัตถุกึ่งสำเร็จรูป
เช่น โรงงานทอผ้า
3. ธุรกิจที่ผลิตผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ทันที
เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป
4. ธุรกิจที่เป็นคนกลาง
ทำหน้าที่ช่วยให้สินค้าเปลี่ยนมือจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกบุคคลหนึ่ง
เช่น พ่อค้าส่ง พ่อค้าปลีก
5. ธุรกิจที่เป็นผู้ให้บริการ
เช่น ธนาคาร การประกันภัย
รูปแบบขององค์กรธุรกิจ
รูปแบบขององค์กรธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในวงการธุรกิจของประเทศไทย
จำแนกรูปแบบได้ดังต่อไปนี้
1. กิจการเจ้าของคนเดียว
2. ห้างหุ้นส่วน
แยกออกเป็น
2.1
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
2.2
ห้างหุ้นส่วนจำกัด
3. บริษัทจำกัด
4. การสหกรณ์
แบ่งเป็น 6 ประเภท
4.1
สหกรณ์การเกษตร
4.2
สหกรณ์ประมง
4.3
สหกรณ์นิคม
4.4
สหกรณ์ร้านค้า
4.5
สหกรณ์ออมทรัพย์
4.6
สหกรณ์บริการ
5. รัฐวิสาหกิจ
ลักษณะที่แตกต่างกันขององค์กรธุรกิจแต่ละรูปแบบ
วิธีการขอจัดตั้งและข้อดีข้อเสีย
ประเภทของธุรกิจ
|
ลักษณะของกิจการ
|
การจัดตั้ง
|
ข้อดี
|
ข้อดี
|
กิจการเจ้าของคนเดียว
|
เจ้าของคนเดียวเป็นผู้ลงทุนอาจได้รับความช่วยเหลือจากญาติและจะจ้างลูกจ้างเพียงไม่กี่คนซึ่งเจ้าของกิจการจะดำเนินงานในเรื่องการบริหารและการเงิน
|
กิจการขนาดเล็กที่ดำเนินการเพียงคนเดียว
|
การจัดตั้งกิจการทำได้ง่าย
ผู้ประกอบการมีความรู้เพียงเล็กน้อยก็ทำได้และเงินลงทุนก็ไม่ต้องมีมาก
หาทำเลที่ตั้งก็ได้ ง่ายเลิกกิจการก็ไม่ต้องยุ่งยากและกำไรที่ได้ก็เป็นของกิจการ
เพียงคนเดียว
|
ต้องรับผิดชอบหนี้สินเพียงผู้เดียวการขยายกิจการทำได้ยากเพราะทุนมีจำกัดและกิจการไม่มั่นคง
|
ห้างหุ้นส่วน
|
มีบุคคลตั้งแต่
2 คนขึ้นไปเข้าร่วมลงทุนกัน โดยมีความประสงค์จะแบ่งกำไรร่วมกันโดยมีการตกลงกันด้วยวาจา
หรือลายลักษณ์อักษรก็ได้
|
จะมีบุคคลตั้งแต่
2คนขึ้นไปต้องเข้าร่วมประกอบการ
|
การก่อตั้งทำได้ง่ายมีความมั่นคงทางด้านการเงิน
มีประสิทธิภาพ ลดภาวะทางด้านการเสี่ยงภัย
|
ดำเนินกิจการได้ล่าช้า
อาจเกิดการขัดแย้งระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วน
ต้องรับผิดชอบในหนี้สินโดยไม่จำกัดจำนวน
|
บริษัทจำกัด
|
จัดตั้งขึ้นโดยการแบ่งเงินทุนให้มีมูลค่าเท่าๆ
กัน ซึ่งมีผู้ถือหุ้นไม่เกิน 100คน ผู้ถือหุ้นต่างรวมรับผิดชอบในหนี้สินไม่จำกัดจำนวนเงินที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบ
มูลค่าหุ้นที่ตนถือ
|
ผู้ก่อการตั้งแต่
7 คนขึ้นไปเข้าชื่อกันจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ
ก่อตั้งด้วยคนตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปร่วมเข้าชื่อกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ
ดำเนินการโดยยึดหลักประชาธิปไตย
|
1.
มีความมั่นคงทางด้านการเงินสูง 2.
รับผิดชอบเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังส่งไม่ครบ
3.การบริหารงานไม่ผิดพลาด 4.
สามารถโอนหรือขายหุ้นของตนได้
|
1.
การจัดตั้งมีความยุ่งยาก2. มีความจำกัดทางด้านกฎหมายมาก3.
มีความสิ้นเปลือง4. อาจมีข้อขัดแย้งระหว่างผู้บริหารงาน
|
สหกรณ์
|
เป็นการกระทำร่วมกันเพื่อดำเนินธุรกิจหรือบริการเพื่อช่วยเหลือสมาชิกหรือแก้ปัญหา
|
ก่อตั้งด้วยคนตั้งแต่
10 คนขึ้นไปร่วมเข้าชื่อกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ
ดำเนินการโดยยึดหลักประชาธิปไตย
|
ประชาชนผู้เดือดร้อนสามารถรวมกลุ่มกันเพื่อแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ขจัดปัญหาคนกลาง
|
|
รัฐวิสาหกิจ
|
เป็นหน่วยงานหรือองค์การธุรกิจ
|
จัดตั้งขึ้นด้วยทุนทั้งหมดเป็นของรัฐหรือรัฐมีทุนร่วมอยู่ด้วยมากกว่า
50%
|
1.
ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น เพราะเป็นแหล่งรายได้ของรัฐ
2.
ช่วยควบคุมสินค้าบางชนิดที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
3.
ช่วยเหลือเอกชนในงานเฉพาะด้าน
|
1.
ภาคเอกชนหมดโอกาสที่จะลงทุนเพียงผู้เดียว
2.
เงินหมุนเวียนจะลดลงเพราะถูกนำมาลงทุน
|
ข้อควรรู้
หนังสือบริคณห์สนธิ
หมายถึง หนังสือที่แสดงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทและร่วมกันลงชื่อไม่น้อยกว่า
7 คน (ผู้เริ่มก่อการ) มีรายละเอียดดังนี้
1. ชื่อบริษัทจะต้องมีคำว่า
"จำกัด" ไว้ท้ายชื่อนี้ด้วยเสมอไป
2. สำนักงานของบริษัทซึ่งจดทะเบียนจะต้องอยู่
ณ ที่ใดในพระราชอาณาเขต
3. วัตถุประสงค์ทั้งหลายของบริษัท
4. คำแสดงว่าความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นจะมีจำกัด
5. จำนวนทุนเรือนหุ้นแบ่งออกเป็นหุ้นมีมูลค่ากำหนดหุ้นละเท่าไร
6. ชื่อสำนักงานและลายมือชื่อของบรรดาผู้เริ่มก่อการทั้งจำนวนหุ้นที่ซื้อไว้แต่ละคน
การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิในเขตกรุงเทพมหานคร
ให้ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักทะเบียนหุ้นส่วน
บริษัท กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์
ส่วนภูมิภาคจะต้องจดทะเบียน ณ หอทะเบียน
หุ้นส่วน บริษัท ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด
การตั้งชื่อบริษัทจำกัดนั้น
ต้องมีคำว่า "บริษัท" ไว้หน้าชื่อและ
"จำกัด" ต่อท้ายชื่อยกเว้น ธนาคารพาณิชย์ให้ใช้คำว่า
"ธนาคาร" แทนคำว่าบริษัท
|