|
|
|
ลักษณะ โดยทั่วไปแล้วเพลงพื้นบ้านจะมีลักษณะเด่น
ๆ เป็นที่สังเกตได้ คือ 1. สำนวนภาษาใช้คำธรรมดาพื้น ๆ ไม่มีบาลีสันสกฤตปน ฟังเข้าใจง่าย
แต่ถ้อยคำคมคายอยู่ในตัวทำให้เกิดความสนุกสนาน
บางครั้งแฝงไว้ด้วยการใช้สัญลักษณ์แทนคำหยาบต่าง ๆ เป็นต้นว่า
ยาเส้น ใบพลู ที่นา หัวหมู (อุปกรณ์ไถนา) เป็นต้น และเรียบง่ายทางด้านโอกาสและสถานที่เล่น
ไม่ต้องยกพื้นเวที 2. มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน
มีความคมคายในการใช้ภาษา กระทบกระเทียบเปรียบเปรยชวนให้คิดจากประสบการณ์ที่พบเห็นอยู่ในวิถีชีวิตท้องถิ่น 3. มีภาษาถิ่นปะปนอยู่
ทำให้สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิต ประเพณีความเชื่อ ตลอดจนค่านิยมต่าง
ๆ ที่แฝงอยู่ 4. ลักษณะภาษาคล้องจองกัน
ที่เป็นกลอนหัวเดียว คือ กลอนที่ลงท้ายด้วยสระชนิดเดียวกัน เช่น กลอนไล
(ลงเสียงข้างท้ายด้วยสระไอตลอด) กลอนลี (ลงเสียงข้างท้ายด้วยสระอีตลอด)
เป็นต้น ตัวอย่างเช่น ในเพลงไซเอ๋ยไซ ลามะลิลา ซึ่งง่ายต่อการเล่น
มุ่งให้ทุกคนมีส่วนร้องได้สนุกสนานร่วมกัน 5. มักจะมีการร้องซ้ำ
บางทีซ้ำที่ต้นเพลง หรือบางทีซ้ำที่ท่อนท้ายของเพลง เช่น เพลงพิษฐาน
เพลงพวงมาลัย เพลงฉ่อย เป็นต้น ผลดีของการร้องซ้ำ
ๆ กัน ก็คือเพิ่มความสนุกสนานให้ผู้อยู่รอบข้างได้มีส่วนร่วมในเพลง
ทำให้บรรยากาศครึกครื้นและเนื่องจากเป็นการประคารมกันสด ๆ ซึ่งช่วงการร้องซ้ำนี้จะช่วยให้ได้มีโอกาสคิดคำ
และพ่อเพลง แม่เพลงจะได้พักเหนื่อย และสามารถใช้ปฏิภาณพลิกแพลง ยั่วล้อกันอีกด้วย นอกจากนี้เพลงพื้นบ้านยังมีลักษณะพิเศษอีก
คือ เป็นวรรณกรรมมุขปาฐะที่เล่าสืบต่อกันมาปากต่อปาก ไม่สามารถจะสืบค้นหาตัวผู้แต่งที่แน่นอนได้และมีลักษณะของความเป็นพื้นบ้านพื้นเมือง
|
จัดทำโดย อาจารย์สำเนียง
เรียนรัชตะ
โรงเรียนศึกษานารี แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
Copyright(c)
2004 Mrs. Sumneing Reinratchata. All rights reserved.
จำนวนผู้เข้าใช้งาน
ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.
2547
thaigoodview.com Version 12.0
บริหารและจัดการโดยทีมงานชาวมัธยมศึกษา
e-mail: webmaster@thaigoodview.com
Copyright(c) 2004 www.thaigoodview.com. All rights reserved.