ระบบเงื่อนไข คือ การสั่งให้เครื่องทำการตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่เราให้ไปนั้นเป็นจริงหรือไม่
เช่น เราถามว่า 1+1 = 2 จริงหรือไม่ คำตอบก็คือจริง หรือ ไข่ไก่นั้นมาจากเป็ด จริงหรือไม่ คำตอบก็คงเป็นไม่จริง และเมื่อได้คำถอบนั้นแล้วจะให้ทำอะไรต่อไป นี่คือระบบเงื่อนไข

       เรามีเครื่องหมายที่ใช้ในการตรวจสอบระบบเงื่อนไขดังนี้

•  == เท่ากัน
•  != ไม่เท่ากัน
•  > มากกว่า
•  < น้อยกว่า
•  >= มากกว่าหรือเท่ากับ
•  <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ

       ตัวอย่างการใช้

if temperature >= 32 
	Turn on AC
else 
	Turn off AC

       ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศา เปิดเครื่องปรับอากาศถ้าน้อยกว่า ให้ปิด

       ตัวอย่างการใช้ในการเขียนโปรแกรม

#include‹stdio.h>
#include‹conio.h>

main()
{
	int temp;
	if (temp >= 32)
	{
		printf("The AC is on\n");
	}
	else
	{
		printf("The AC is off\n");
	}
}

if(กรณี)
{
	การกระทำ
}
else
{
	การกระทำ
}

if(กรณีที่ 1)
{
	การกระทำ
}
if(กรณีที่ 2)
{
	การกระทำ
}
if(กรณีที่ 3)
{
	การกระทำ
}
else
{
	การกระทำ
}

       ในกรณีของ if-else เรายังสามารถใช้ตัวแปรทางตรรกศาสตร์เข้ามาร่วมด้วยได้ มีดังนี้

• && และ (เครื่องหมาย Ampersand อยู่ที่เลข 7)
• || หรือ (เครื่องหมาย Pipe อยู่เหนือปุ่ม Enter)

       นอกจากคำสั่ง if-else แล้วยังมีคำสั่งอีกคำสั่งที่ใช้ในการเลือกกรณี นั่นคือ switch-case มีการใช้ดังนี้

switch (x) {
case 1: การกระทำ
case 2: การกระทำ
case 3: การกระทำ
case 4: การกระทำ
case n: การกระทำ
default: การกระทำ
} 

       การใช้ switch-case จะต้องเป็นตัวแปรแบบ int เท่านั้น เหมาะกับการใช้ในการทำเมนูเลือกการทำงาน หลังจาก case ทุก case
จะต้องตามด้วย break; เสมอ เพื่อเป็นการหยุดคำสั่งที่ทำมานั้น และสุดท้ายคือ default เครื่องจะทำคำสั่งนี้ถ้าตัวแปร x ไม่ตรงกับ case ใดเลย
เช่น

switch (x) {
case 1: 
	printf("You choose 1");
	break;
case 2: 
	printf("You choose 2");
	break;
case 3: 
	printf("You choose 3");
	break;
case 4: 
	printf("You choose 4");
	break;
default:
	printf("You didn't choose 1,2,3 or 4");
	break;
} 

       โปรแกรมนี้ถ้าเราเลือก 1 เครื่องจะแสดงผลว่า You choose 1 ถ้าเราเลือก 2 เครื่องจะแสดงผลว่า You choose 2 และ 3 4 ตามลำดับ แต่ถ้าเราเลือกเกินจากนี้เครื่องจะแสดงผลว่า You didn't choose 1,2,3 or 4